Home ข่าวท้องถิ่น แม่ยายตะโกนเรียก คิดไม่รอดแน่ บรรทุกพุ่งชนเก๋งยับครึ่งคัน ไม่มีใครเจ็บ

แม่ยายตะโกนเรียก คิดไม่รอดแน่ บรรทุกพุ่งชนเก๋งยับครึ่งคัน ไม่มีใครเจ็บ

334
0

อุบัติเหตุ รถบรรทุกพ่วง ชนเก๋ง ยุบหายไปครึ่งคัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ญาติเล่านาทีเห็นเหตุการณ์ตะโกนเรียก คิดในใจคงไม่รอดแล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองชลบุรีได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนรถเก๋งและรถกระบะพังยับเยินบนถนน เส้นทางชลบุรี–บ้านบึง ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรม

ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะมาสด้า สภาพท้ายรถพังยับเยินใกล้กันพบรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำ ​สภาพด้านหน้าและด้านหลังพังยับเยินพบด้านหลังถูกชนอัดจนบี้เบาะ คนนั่งหลังหายไปครึ่งคันห่างกันออกไปพบรถบรรทุกพ่วง ฮีโน่ สีขาว ​จอดอยู่สภาพหน้ารถกันชนแตก

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากการสอบถามนางปุ๊ อายุ 63 ปีได้เล่าว่าตนมากับรถเก๋งกับลูกสาวและหลานซึ่งตนหิวข้าว จึงให้ลูกเขยจอดบริเวณบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยว จากนั้นตรงและลูกสาวและหลานก็ได้ลงจากรถเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยว กำลังจะสั่งอาหาร

จากนั้นมองไปเห็นรถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็วไม่มีวี่แววว่าจะเบรค คิดว่ายังไงก็ชนแน่ๆ จึงตะโกนร้องเรียกลูกเขยที่นั่งอยู่ในรถให้ลงจากรถ แต่ก็ไม่ทันรถบรรทุกพ่วงวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จนชนท้ายรถเก๋งแล้วไปกระแทกกับรถกระบะจนรถเก๋งหายไปครึ่งคัน

“ในใจคิดว่าลูกเขยคงไม่ไม่รอดแล้วแต่สุดท้ายก็พบว่า ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่ลงจากรถกันก่อนถ้ายังนั่งอยู่ในรถก็อาจจะเสียชีวิตได้”นางปุ๊ กล่าว

ทางด้านนายปริญญา คนขับรถเก๋งและเราว่าตนกับลูกและภรรยาและแม่ยายเดินทางมาจากกรุงเทพกำลังจะมาเที่ยวพอมาถึงที่เกิดเหตุพาหิวข้าวจนได้จอดรถแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวแต่ยังไม่ได้ทันสั่งก๋วยเตี๋ยวเลย ก็ถูกรถบรรทุกพุ่งชนท้ายเต็มแรง ตนเองก็ตกใจ คิดว่าทีแรกคงไม่ไม่รอดแล้วแน่ๆ เพราะแรงชนแรงมาก หลังจากนั้นตนจึงได้ลงมาดูพบว่ารถพังเสียหายทั้งหน้าและหลังถือว่ายังเป็นความโชคดีที่ตนเคยทำไว้ทำให้ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรในครั้งนี้

ทางด้านนายสมหวัง บรรณารักษ์ 69 ปี คนขับรถ 18 ล้อ เล่าว่าตอนมาจากกรุงเทพกำลังจะไปส่งของมาถึงที่เกิดเหตุมีรถเลี้ยวออกมาตัดหน้าเพื่อที่จะกลับรถตนจึงหักหลบแล้วทำให้รถเสียหลักมาชนท้ายรถเก๋งตนได้ขับมาตามปกติประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือว่าไม่ได้ใช้ความเร็วสูงแต่ที่เอาไม่อยู่เพราะต้องหักหลบกะทันหัน

ทางด้านเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขอดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมและสอบสวนคนขับรถบรรทุกอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here