WHAT'S NEW
กันต์ กันตถาวร พูดแล้ว ตำแหน่งแท้จริงในบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป
ACCESSORIES
ถึงเวลาแล้ว! 6 ราศี ดวงสุดเฮง เตรียมรับทรัพย์ก้อนใหญ่
เกิดเหตุรถบรรทุกไฟไหม้ทั้งคัน ว่าที่เจ้าบ่าวเสียชีวิตคารถ สะเทือนใจถ่ายพรีเวดดิ้งไว้แล้ว กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์แต่งงานกัน
WINDOWS PHONE
ตร.บุกรวบวงพนัน แต่โป๊ะแตก เจองานใหญ่ ตกใจโปรยซองหนี
LATEST ARTICLES
ฮาน่า เผยโมเมนต์เข้าพิธีหมั้นแบบอีสาน ยังไม่ชินถูกเรียกภรรยา มั่นใจฝากชีวิตไว้กับ อ๊อฟ
ฮาน่า เผยโมเมนต์เข้าพิธีหมั้นแบบอีสาน ยังไม่ชินถูกเรียกภรรยา อ๊อฟ คลั่งรักอ้อนเก่ง มั่นใจฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ได้ ความรักลงตัวหวานจนสุกงอม สำหรับคู่รักนางเอกลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ฮาน่า ลีวิส กับพระเอกหนุ่ม อ๊อฟ ชนะพล สัตยา หลังจูงมือกันเข้าพิธีหมั้นผูกข้อมือกินดองแบบอีสานไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย. 67 ฮาน่า ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน ในงานสัมภาษณ์พิเศษ EXCLUSIVE PRESS INTERVIEW ละครเรื่อง ‘เล่ห์มยุรา’ ณ ชั้น 1 อาคาร 7 ช่อง 7HD เผยถึงบรรยากาศพิธีหมั้นแบบอีสาน เพราะตนเกิดที่นครพนม เลยมีความตั้งใจอยากจัดงานหมั้นให้มีกลิ่นอายความเป็นอีสาน ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะจัดขึ้นอีกครั้งในปลายปีหน้า เหตุผลที่ทิ้งช่วงนาน เพราะแฟนหนุ่มใจร้อนอยากทำตามประเพณีให้ถูกต้องก่อน ซึ่งหลังจากเป็นคู่หมั้นกันแล้ว พี่อ๊อฟ คลั่งรักหนักและยังอ้อนเก่ง ดูแลดีมาก และตนมั่นใจว่าเขาเป็นพ่อของลูกที่ดี ฝากชีวิตไว้ได้ เรียกว่าเป็นเจ้าสาวได้เลยมั้ย? “ก็เรียกได้ค่ะ เพราะว่าหมั้นแล้ว เป็นงานหมั้น ส่วนงานฉลองจะเป็นปีหน้าค่ะ ช่วงประมาณปลายปี” ความรู้สึกวันนั้นเป็นอย่างไร? “วันนั้นอบอวลไปด้วยความรัก มันมีความสุขมากค่ะ เป็นพิธีแบบอีสาน ด้วยความที่ฮาน่าเกิดที่นครพนม เราก็เลยอยากได้พิธีน่ารักๆ ผูกข้อไม้ข้อมือ ซึ่งพี่อ๊อฟเขาก็ตามใจ ถ้าเราอยากได้อะไรเขาให้หมดเลย พอบอกไปเขาก็ได้เลย เต็มที่เลยน้อง” ใส่ชุดหมั้นเป็นผ้าไทย? “ใช่ คนชอบชุดมาก...
เสี่ยเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ร้องสายไหมต้องรอด สาวพยาบาลหลอกให้รัก เปย์ให้ตลอด โดนบังคับแต่งงาน
เสี่ยเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ร้องสายไหมต้องรอด สาวพยาบาลหลอกให้รัก เปย์ให้ตลอดตั้งแต่คบกัน แถมโดนบังคับแต่งงาน เชื่อวางแผนเรียกสินสอด สุดท้ายถูกบอกเลิก เงินก็ไม่ได้คืน วันที่ 20 พ.ย.67 นายธนกฤต หรือนายเอก (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 59 ปี เจ้าของสถาบันกวดวิชา เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกหญิงสาวที่เจอกันทางแอพหาคู่ในเฟซบุ๊กหลอกให้รัก หลอกให้ซื้อโทรศัพท์ แล้วหลอกให้โอนเงินเป็นค่าสินสอดล่วงหน้า อ้างว่าจะแต่งงานด้วย หลังได้เงินไปกลับไม่ยอมแต่งงานด้วย แถมทวงเงินคืนก็ไม่ให้ นายธนกฤต กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.66 มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อฝน อายุ 23 ปี เข้ามากดไลด์รูปตนในแอพหาคู่ในเฟซบุ๊กหลายรูป แล้วส่งข้อความมาบอกชอบตน ต่อมาวันที่ 14 ก.พ.67 ก็ได้นัดเจอกัน จากนั้นพูดคุยจนเกิดความสนิทสนม น.ส.ฝน บอกว่า เป็นนักเรียนพยาบาลแห่งหนึ่ง อยู่ชั้นปีที่ 3 ตนกับ น.ส.ฝน จึงได้คบหาเป็นแฟนกัน แล้ว น.ส.ฝน ก็มาหาที่บ้านตนประจำ รวมทั้งตนยังพาไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยครั้ง แถมยังซื้อโทรศัพท์ให้ ต่อมาวันที่ 29 เม.ย.67 น.ส.ฝน ชวนตนไปที่บ้านที่ จ.สุรินทร์ เพื่อไปหาญาติ และญาติของ น.ส.ฝน ได้ถามตนว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือยัง...
โหดเหมือนในหนัง 2 หนุ่มจับสาวขึ้นรถ มัดมือมัดเท้า เหยื่อดิ้นสู้เปิดประตูจะหนี ระทึกกลางถนน ตร.ช่วยทัน
โหดเหมือนในหนัง 2 หนุ่มจับสาวขึ้นรถ มัดมือมัดเท้า เหยื่อดิ้นสู้เปิดประตูจะหนี ระทึกกลางถนน ตร.ช่วยทัน เมื่อเวลา 16.33 น. วันที่ 20 พ.ย.67 พ.ต.ท.สุมิตร นานนท์ สว.จร.สน.ทุ่งครุ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่าเป็นผู้เสียหายหญิง ถูกชาย 2 คน ทำร้ายร่างกายภายในรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กล 5806 ราชบุรี มาจากทางวัดทุ่งครุ ถนนประชาทิศ มุ่งหน้าทางแยกทุ่งครุ จากนั้น พ.ต.ท.สุมิตร พร้อมด้วยสายตรวจ สน.ทุ่งครุ สกัดจับรถคันดังกล่าวได้บริเวณใกล้ปากซอยประชาอุทิศ 93 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. พบว่ามี นายปิติภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่ และมี นายรัฐพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นั่งโดยสารมา ส่วนหญิงผู้เสียหายคือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ถูกเชือกมัดแขนและมัดขา...
ทนายพัช เผยศาลไม่ยกประเด็นฝั่งจำเลยมาพิจารณา แอม เครียดตาแดงก่ำ ลั่นความยุติธรรมยังไม่เกิด
ทนายพัช เผยศาลไม่ยกประเด็นฝั่งจำเลยมาพิจารณา เผยเตรียมสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์ ชี้ แอม เครียดตาแดงก่ำ หลังศาลตัดสินประหาร ลั่นความยุติธรรมยังไม่เกิด วันที่ 20 พ.ย.67 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีแอม ไซยาไนด์ วางยาพิษ น.ส.ศิริพร โดยพิพากษาตัดสินประหารชีวิต นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ และพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี แอม ไซยาไนด์ 1 ปี 4 เดือน กับพิพากษาจำคุก น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช 2 ปี ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ และ น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช ด้วยหลักทรัพย์คนละ 100,000 บาท ต่อมาเวลา 17.38 น. พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้รับการปล่อยตัวตามคำสั่งของศาลและเดินทางออกมาจากอาคารศาลอาญา ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะเข้าไปสอบถามและพูดคุย ปรากฎว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้แต่มองหน้าผู้สื่อข่าวและเดินขึ้นรถออกไปจากศาลทันที โดยไม่ตอบคำถามใดๆ ขณะที่ทนายพัช ลงมาจากอาคารศาลอาญา พร้อมด้วย นายไชยา คุ้มอ่ำ ทนายความของจำเลยทั้ง...
ขุดเจอแล้ว 12 ร่าง ลุยค้นสำนักสงฆ์ฝึกตาทิพย์ จ่อดำเนินคดีหากนำมาผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายอำพรางซ่อนเร้น
ขุดเจอแล้ว 12 ร่าง ลุยค้นสำนักสงฆ์ฝึกตาทิพย์ เตรียมเรียกญาติตรวจดีเอ็นเอ จ่อดำเนินคดีหากศพใดนำมาผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายอำพรางซ่อนเร้น จากกรณี เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ หมู่ 2 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อตรวจสอบบริเวณป่าทึบหลังกุฏิพระสงฆ์และบริเวณโดยรอบที่ใช้ทำกิจกรรมการฝึกนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับศพ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีหลุมศพทั้งหมด 13 หลุม มีศพอยู่ 9 ศพ ส่วนหลุมที่เหลือคาดว่ามีการขุดร่างนำไปเผาแล้ว ซึ่งไม่ตรงกับจำนวนที่พระสงฆ์เจ้าของสำนักสงฆ์บอกไว้ในวันที่เข้าไปตรวจสอบวันแรกว่ามีศพที่เหลือโครงกระดูก 6 ศพ และศพที่มาใหม่อีก 1 ศพ รวมเป็น 7 ศพ ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กำแพงเพชร และส่วนที่เกี่ยวข้องทำการขุดศพในสำนักสงฆ์ดังกล่าว โดยได้หยุดค้นหาช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยจุดที่ลงไปขุดมีทั้งหมด 17 หลุม พบศพทั้งหมด 12 ศพ แยกเป็นศพสด 4 ศพ และที่เป็นกระดูกแล้ว 8 ศพ โดยหนึ่งในนั้นมีญาตินำมามอบไว้ล่าสุดเพียง 55 วันเท่านั้น โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขุดศพขึ้นมาจากหลุมนั้น ภายในโลงได้ใช้เกลือโรยลงไปทั่วศพ ซึ่งก็จะมีหยวกกล้วยรวมอยู่ด้วย ไม่ให้ศพเน่าก่อนเวลาอันควร เพื่อที่จะใช้ในการประกอบกิจกรรมนั่งสมาธิกรรมฐานเพ่งอสุภะได้นานกว่าปกติ จากการตรวจสอบทุกศพมีใบอนุญาตยินยอมมอบศพให้กับสำนักสงฆ์ โดยเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้นำชิ้นส่วนในศพทุกศพไปตรวจดีเอ็นเอ หาอัตลักษณ์และให้ญาติเข้ามายืนยันตัวตนเพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศล...
เจ๊อ้อย ยันชัด ไม่มีไกล่เกลี่ยทนายตั้ม ลั่นดำเนินคดีให้สุดซอย ยอมรับยังเป็นกังวล
เจ๊อ้อย ยันชัด ไม่มีไกล่เกลี่ยทนายตั้ม ลั่นดำเนินคดีให้สุดซอย ยอมรับยังเป็นกังวล เตรียมเดินทางกลับยุโรปในวันพรุ่งนี้ เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 20 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เสร็จสิ้นการให้ปากคำพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ในประเด็นที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พยายามขอตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก รวมถึง ประเด็นที่ถูกแอบติด GPS รถยนต์ส่วนตัว โดยใช้เวลานานร่วม 12 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ น.ส.จตุพร ก็ได้ลงจากอาคารเพื่อขึ้นรถกลับบ้านพักในทันที ทั้งนี้ระหว่างที่ น.ส.จตุพร เดินไปที่รถ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่ทนายฝั่งนายษิทรา พยายามขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้เงิน ซึ่ง น.ส.จตุพร ตอบยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด ขอดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ย้ำไปให้สุดซอย ยอมรับว่ายังเป็นกังวลเรื่องคดี และในวันพรุ่งนี้ตนเองก็จะเดินทางกลับยุโรป
เสียชีวิตแล้ว นายธนกฤต เครียดจบชีวิตในรถ ขอแสดงความเสียใจ
วันที่ 20 พ.ย. ร.ต.อ.เกียรติชาติ สาโท รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์ 191 พบชายเสียชีวิตภายในรถบริเวณท้ายชุมชน บ้านท่ากกแห่ ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัย มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ Toyota สีเทา จอดอยู่กลางที่ดินว่างเปล่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม.บริเวณกระจกด้านหลังถูกทุบแตกเสียหาย ที่นั่งคนขับพบของนายธนกฤต อายุ 43 ปี สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ ที่นั่งด้านหลังฝั่งซ้ายพบเตาตั้งโล่ 1 ลูก ในเตามี แผ่นไม้อัด ขี้เถ้า และพบถุงผ่านหุงต้ม 1ถุง อยู่บริเวณข้างตัวรถเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามบิดาของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงตี 2 ของเมื่อคืนลูกชายได้ส่งโลเคชั่น จุดเกิดเหตุไปให้กับพี่ชายที่อยู่กรุงเทพ แต่เนื่องจากช่วงนั้นพี่ชายหลับจึงเห็นข้อความในช่วงเช้า และส่งต่อให้กับภรรยาที่จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ออกตามหาจนพบรถของลูกชายจอดอยู่จุดเกิดเหตุ เมื่อเข้าไปดูพบว่าลูกชายนอนไม่ได้สติจึงได้นำไม้ที่อยู่หลังรถทุบกระจก ก่อนจะโทรแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันลูกชายเสียชีวิตแล้ว บิดายังเล่าว่า ผู้ตายเองมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างปัจจุบันดำเนินการรับเหมาอยู่ทางภาคใต้ เคยบ่นให้ฟังเรื่องการเรียกเก็บงวดงานค่าจ้างไม่ได้แต่ต้องดูแล ลูกน้องกว่า 30 ชีวิต จึงอาจเป็นเหตุให้เกิดความเครียด จนก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสภาพ ร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดแผลแต่อย่างใด...
แม่สงสัย ติดต่อลูกชายไม่ได้นาน 2 วัน ตัดสินใจเปิดออฟฟิตไปดู สุดช็อก
วันที่ 20 พ.ย. 2567 เวลา 17.30 น. ร.ต.ท.หญิง บุญทิพย์ จินดา รอง สว.สอบสวน สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หมู่ 10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในห้องชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ โดยผู้เสียชีวิตนั้นสวมเสื้อสีเหลือง ไม่สวมกางเกง โดยลักษณะอื่นบวมโดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ต่อมาทราบชื่อผู้เหลือชีวิตคือ นายสมใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี โดยจากการตรวจสอบภายในห้อง พบขวดสุราเป็นจำนวนมาก และใกล้กันพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดวางอยู่บริเวณภายในห้อง และพบโทรศัพท์มือถือวางอยู่ข้างที่นอน สอบถามนางทองใส (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าตนเองนั้น เดินทางมาหาลูกชายที่ออฟฟิศที่ลูกชายทำงานอยู่ พอเปิดประตูเข้าไปก็พบร่างลูกชาย นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องโดยสภาพอืด หลังจากนั้นจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบ โดยปกติตนเองและลูกชายแยกกันอยู่ โดยลูกชายจะพักอาศัยอยู่ที่ออฟฟิศที่ทำงาน แล้วตัวเองจะอาศัยอยู่ที่บ้านโดยปกติลูกชายนั้นเป็นคนชอบดื่มสุรามาก ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นตนเองไม่แน่ใจ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ชันสูตร และติดต่อญาติผู้เสียชีวิตให้มารับศพไปดำเนินพิธีทางศาสนาต่อไป
เฮ เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 เตรียมชง นบข.
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีมติของที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่ 1/2567 มีความเห็นให้ปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวมดอกเบี้ย 3.05% จำนวน 27,550.96 ล้านบาท เสนอ นบข.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ตามที่มีรายงานไปวานนี้ (19 พ.ย.67) นั้น โดยความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับข้อเรียกร้องจากเกษตรจำนวนมาก ให้พิจารณาถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเกษตรกรรายย่อยของไทยส่วนใหญ่มีที่ดินไม่เกิน 10 ไร่ เงินช่วยเหลืออาจจะไม่เพียงพอ ทำให้นำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ข้อสรุปว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นี้ คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ที่มี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอการช่วยเหลือชาวนาในโครงการช่วยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวเป็น 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร โดย ข้อสรุปดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯพิจารณาถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นที่ตั้ง เพราะหากช่วยเหลือ 1,000 บาทต่อไร่ ตามเดิม...
อาลัย น้องโฟกัส ลูกชายครอบครัวลิมปิเจริญ เสียชีวิตกระทันหัน
โซเชียลแห่แสดงความอาลัย ถึงการจากไปโดยกระทันหันของ โฟกัส รุจิภาส ลิมปิเจริญ ลูกชายคนเล็กของครอบครัวลิมปิเจริญ อายุ 16 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.67 โดยพิธีสวดอภิธรรมและพิธีฌาปนกิจเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยในเฟซบุ๊ก ชิดชญา ลิมปิเจริญ ได้มีชาวโซเชียลเข้าไปแสดงความอาลัย ทั้งนี้ ครอบครัวน้องโฟกัส รุจิภาส ลิมปิเจริญ ได้เคยเตรียมทำบุญบริจาคหมวกกันน็อคเพื่อเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมา โดยเริ่มต้นจากการตั้งเป้าบริจาค 168 ใบ ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ล่าสุดได้รับการสมทบทุนเพิ่มเติมจากครอบครัวจนสามารถเพิ่มจำนวนเป็น 300 ใบ โดยหมวกกันน็อคดังกล่าวจะถูกนำส่งในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อจัดการประสานส่งมอบให้โรงเรียนในพื้นที่