เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 เป็นอีกกระแสฮือฮา เมื่อ นายสุรศักดิ์ อิงประสาร อายุ 82 ปี เจ้าของธุรกิจโรงโม่หินเพชรสยามศิลาตราด และบริษัท ส.ประกายรุ้ง รวมทั้งสวนเงาะอีกหลายร้อยไร่ ทั้งในอ.บ่อไร่ และอำเภออื่นๆ จ.ตราด ตลอดจนสวนทุเรียนอีกหลายร้อยไร่ ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าทรัพย์สินหลายพันล้านบาท จัดงานฉลองเนื่องในวันคล้ายวันเกิดให้ลูกสาววัย 22 ปี ที่เพิ่งจบการศึกษามาจากประเทศอังกฤษ พร้อมฉลองปิดฤดูผลไม้ที่มีรายได้จากสวนทุเรียน และสวนเงาะเกือบ 40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายสุรศักดิ์ อิงประสาร และนางประกายรุ้ง ผู้เป็นภรรยา เรียกพนักงานดีเด่นที่ได้รับการพิจารณามาที่บริษัท พร้อมทั้งมอบโฉนดที่ดิน บ้านพัก และรถยนต์ให้พนักงานทั้ง 11 คน โดยได้รับบ้าน รถยนต์ ที่ดินทำกินแตกต่างกันไป เริ่มตั้งแต่ต่ำสุดคือ บ้านพักเป็นห้องแถว 4 คูหา รถยนต์ 1 คัน บ้านพัก 1.7 ล้านบาท พร้อมสวนผลไม้ พนักงานบางรายได้บ้านพักราคากว่า 2 ล้านบาท และยังมีรถยนต์ พร้อมที่ดินทำกินอีกกว่า 30 ไร่ ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สินที่มอบให้พนักงานกว่า 50 ล้านบาท
พนักงานที่ได้รับบ้าน ที่ดิน รถยนต์ ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า ทำงานให้บริษัทด้วยความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และทุ่มเท มาอย่างต่อเนื่อง บางคนอายุการทำงานแค่ 6 ปี ก็ได้รับการพิจารณา บางคนอยู่นานถึง 30 ปี ได้ทั้งสวนผลไม้และบ้านพัก รถยนต์ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท
พนักงานที่ได้รับรางวัล บอกว่า เรียกนายสุรศักดิ์ว่า “ป๋าเพ่ง” เนื่องจากนายสุรศักดิ์ เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือสังคม ทั้งการให้หินฟรีกับหน่วยงานท้องถิ่น วัดวาอาราม และชาวบ้านที่ยากจน อีกทั้งนายสุรศักดิ์ ไม่เคยทอดทิ้งพนักงานทุกคน ดูแลพนักงานทุกคนให้ทำงานอย่างมีความสุข และมีคุณภาพ ทำให้พนักงานทุกคน ทุ่มเททำงานให้แบบถวายชีวิต และบรรยากาศการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดลูกสาวและฉลองปิดฤดูผลไม้ ให้กำลังใจพนักงานวันนี้ มีการเลี้ยงโต๊ะจีนพนักงานจำนวน 30 โต๊ะ พนักงานและครอบครัวร่วม 200 คน พร้อมทั้งมีการจับฉลากแจกเงินสดให้พนักงานอีกร่วม 100 รางวัล
ด้านนายสุรศักดิ์ และนางประกายรุ้ง สองสามีภรรยา บอกว่า ดูแลพนักงานให้ทุกคนให้มีความสุข ไม่เคยคิดว่าเป็นลูกจ้าง คิดเพียงว่าเป็นน้อง เป็นลูก เป็นหลาน เป็นคนในครอบครัว จากคำว่า ลูกกับน้อง คือ ลูกน้อง จากการแบ่งความรัก ความจริงใจให้กับพนักงาน ทำให้พนักงานรักใคร่ มอบความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจ พนักงานจะทำงานด้วยความขยัน อดทน ไม่มีบ่นแม้จะทำงานล่วงเวลาช่วงฤดูผลไม้ข้ามวันข้ามคืน
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนคิดมาเสมอว่าความสำเร็จของตนหลายปีที่ผ่านมา ก็ได้ความร่วมมือความสามารถของพนักงานทุกคน จึงตอบสนองพนักงานแบบโบนัสสุดพิเศษในครั้งนี้ จากการพิจารณาคุณสมบัติรายบุคคล และมอบให้พนักงานทั้ง 11 คนในครั้งนี้
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองเริ่มต้นธุรกิจในอำเภอบ่อไร่ด้วยเงินเพียง 2,000 บาท ล้มลุกคลุกคลานจากธุรกิจเหมืองพลอยมายาวนาน จนกว่าสิบปีที่ผ่านมา หันมาซื้อโรงโม่หิน และดำเนินกิจการจนประสบความสำเร็จ ทำให้วันนี้คิดถึงพนักงานที่อยู่เคียงข้าง ช่วยเหลือตนมาแบบจริงใจ เลยอยากมอบรางวัลพิเศษในครั้งนี้ พร้อมทั้งบอกต่อสังคมว่า การมีน้ำใจต่อพนักงาน ทำให้พนักงานรักและจริงใจ พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไปเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่อบอุ่นมั่นคง อย่าคิดว่าเป็นแค่ลูกจ้าง
