ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 9
Featured posts

เกิดเหตุ กราดยิ ง ในบ้านพักคนชรา ประเทศโครเอเชีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย (ต่างประเทศ)

สำนักข่าวต่างประเทศ CNN รายงานว่า มือปืนบุกเข้าไปในบ้านพักคนชราที่เมือง ดารูวาร์ ในภาคกลางของประเทศโครเอเชีย เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. 2567ที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดฉากลั่นไกใส่ผู้คนที่อยู่ภายใน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บอีก 6 คน ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 90 ปี นิโคลา มิลินา ผู้บัญชาการตำรวจ เผยว่า

มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ขณะที่อีก 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนคนร้ายเคยมีประวัติพบตำรวจมาก่อน และเคยเป็นสมาชิกหน่วยตำรวจกึ่งทหาร เขาครอบครองปืนผิดกฎหมาย และหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุ แต่ตำรวจตามจับกุมตัวเขาได้ที่คาเฟ่ใกล้กับบ้านพักคนชราที่เกิดเหตุ นางมิลินาบอกด้วยว่า ผู้เสียชีวิต 5 รายเป็นผู้อยู่อาศัยในบ้านพักคนชราแห่งนี้ ขณะที่อีก 1 รายเป็นลูกจ้าง แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ

ด้านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น N1 ของโครเอเชีย รายงานว่า มือปืนเป็นชายอายุประมาณ 51 ปี เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าร่วมในสงครามประกาศเอกราชของโครเอเชียระหว่างปี 2534-2538 และหนึ่งในผู้ที่ถูกสังหารในบ้านพักคนชราแห่งนี้คือแม่ของเขาเอง ซึ่งพักอยู่ที่นี่มานาน 10 ปีแล้ว นายสลัตโก ซูตูกา ชาวบ้านในเมืองดารูวาร์ บอกกับ Nova TV ว่า เขารู้จักกับคนร้ายรายนี้มาตั้งแต่ยุคสงครามแล้ว “ผู้คนบอกว่าเขาก้าวร้าวมาก ติดเหล้า และอื่นๆ

เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงและความโศกเศร้าไปทั่วเมือง เพราะดารูวาร์เป็นเมืองเล็กๆ ในภูมิภาคสลาโวเนีย มีประชากรประมาณ 8,500 คน โดยชาวบ้านจำนวนมากไปรวมตัวกันที่บ้านพักคนชราที่เกิดเหตุ เพื่อรอฟังข่าวของบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขา ซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น

ลูกชายให้เงินแม่เดือนละ 4 หมื่น แต่พอแม่จากไป เงินในบัญชีกลับไม่มีเหลือ สืบจนรู้ชื่อ ผู้รับผลประโยชน์ ทำเอาปวดใจแทบทรุด (ตปท.)

ต้องบอกว่าเรื่องจริงยิ่งกว่าในละครคงไม่ผิดนัก สำหรับเรื่องราวต่อไปนี้ที่ได้รับการแชร์อย่างกว้างขวางในชุมชนออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Toutiao เมื่อชายคนนึงโอนเงินให้ผู้เป็นแม่ใช้จำนวนไม่น้อยในแต่ละเดือน แต่หลังจากผู้เป็นแม่เสียชีวิตแล้ว เขากลับพบว่าในบัญชีธนาคารไม่มีเงินอยู่เลย เนื่องจากถูกโอนไปให้ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ซะอย่างนั้น

โดยเรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องจริงของนายเหลา ชายชาวจีนวัย 48 ปี ซึ่งเขาเริ่มเล่าว่า เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัวชาวนา อาศัยอยู่ในกวางสี ประเทศจีน ชีวิตแค่พอมีกินมีใช้ ตอนอายุได้ 10 ขวบ พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคร้าย จากนั้นแม่และตัวเขาต้องพึ่งพาอาศัยกัน ผู้เป็นแม่ทำงานอย่างหนัก เพื่อให้มีเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูและมอบการศึกษาให้ลูกชาย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ทางด้านลูกชายเองก็ไม่ทรยศต่อการเลี้ยงดูของแม่ เมื่ออายุ 18 ปี เขาประสบความสำเร็จในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในมณฑลกวางตุ้ง ต่อมา ก็ได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง มีหน้าที่การงานมั่นคงราบรื่นดี พร้อมทั้งยังช่วยเหลือครอบครัวและญาติที่อยู่รอบตัวของเขาด้วย

แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะตอบแทนคุณแม่ โดยการช่วยสร้างบ้านขนาดใหญ่ในชนบท และสร้างร้านขายของชำเล็กๆ เพื่อให้แม่ไม่ต้องทำงานหนัก และเพื่อบรรเทาความเหงา ไม่เพียงเท่านั้น ทุกเดือนเขาจะให้เงินแม่ใช้จ่าย 8,600 หยวนด้วย หรือประมาณ 43,000 บาท ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นดีไปหมด จากความพยายามต่อสู้มาอย่างยาวนานของพวกเขาทั้งสอง

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยหน้าที่การงานและความรับผิดชอบมากมายของลูกชาย มันก็มาพร้อมกับระยะห่างระหว่างแม่และลูกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลูกชายมีงานยุ่งบ่อยมาก ๆ จึงไม่ค่อยได้กลับบ้านเยี่ยมแม่เลย จะมีก็แต่เฉพาะช่วงตรุษจีนเท่านั้น ที่เขาจะสามารถกลับไปบ้านเกิดได้ไม่กี่วัน หลายครั้งที่แม่โทรถามสารทุกข์สุขดิบ พูดได้ไม่กี่คำก็ต้องรีบวางสายแล้ว

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

เมื่อรู้ว่าลูกของเธอมีงานยุ่ง แม่ก็ไม่รบกวน เธอใช้ชีวิตปกติตามแบบฉบับคนในชนบท ดูแลร้านขายของชำ และทำอาหารทานเอง 3 มื้อต่อวัน เดินเล่นรอบๆ บ้าน เนื่องจากเธอเจ็บขาจึงไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่อาศัยอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กม. ทว่า เธอรู้สึกเบื่อหรือเหงา เธอจึงเลือกที่จะไปเยี่ยมเยี่ยนบ้านของนางหวัง (นามสมมุติ) ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 หลัง

เนื่องจากสถานการณ์ของนางหวังคล้ายคลึงกับเธอในอดีต หลังจากสามีของเธอเสียชีวิต เธอเลี้ยงดูลูกชายวัย 6 ขวบเพียงลำพัง มีสถานการณ์ที่ยากลำบากต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูกมากนัก ดังนั้น เพื่อรู้สึกความปลอดภัย หลังจากลูกชายของนางหวังเลิกเรียนในทุกวัน จึงมักจะส่งไปบ้านของเธอเพื่อขอให้ช่วยดูแลเขา

จนกระทั่ง วันหนึ่งเพื่อนบ้านพบเธอนอนหมดสติอยู่กลางสนามหญ้าจึงพาไปส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์บอกว่า เนื่องจากอายุที่มากขึ้น สุขภาพก็ถดถอยลงทุกวัน เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะมีชีวิตอยู่ และเพียงอีก 1 เดือนต่อมา เธอก็เสียชีวิตลง การจากไปในที่สุด นั่นจึงทำให้ลูกชายที่มัวแต่ทำงานเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

หลังจากงานศพ ขณะจัดข้าวของ ๆ แม่ นายเหลาพบว่าไม่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีธนาคารของแม่เลยแม้แต่หยวนเดียว เมื่อไปธนาคารเพื่อตรวจสอบจึงพบว่าแม่ได้ทำเรื่องเพื่อโอนเงินที่เหลือในบัญชีธนาคาร เข้าไปสมุดออมทรัพย์ในนามของคนแปลกหน้า ที่เขาไม่เคยรู้จักชื่อมาก่อน เมื่อสอบถามต่อ จึงพบว่าเป็นบุตรชายวัย 6 ขวบของนางหวัง

ทั้งนี้ หลังจากทราบสถานการณ์ที่ยากลำบากในครอบครัวของนางหวัง และความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกชายตระกูลหวังแล้ว นายเหลาก็ค่อย ๆ เข้าใจความรู้สึกแม่ของตนเองที่ล่วงลับไป พร้อมกับเขาโทษตัวเองที่ไม่ได้ใช้เวลากับแม่มากนัก และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทิ้งให้แม่อยูาเพียงตามลำพัง โดยไม่มีใครดูแลเธอเมื่อเธอแก่ตัวลง ทั้งที่ตอนเด็กแม่ก็เป็นคนดูแลเขามาด้วยตัวคนเดียว

ข้อมูล SOHA

เปิดใจ แม่ ผอ. ปืนโหดยิง 4 ศพ ฟันธงลูกชายแค้นเมียไปมีผัวใหม่แล้วฟ้องซ้ำ

วันที่ 23 ก.ค.67 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดที่นายปฐพี มีบาง อายุ 52 ปี ที่อยู่ 77 หมู่ 7 ตำบลหนองบอน อำเภอประโคน จังหวัดบุรีรัมย์ อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ขับรถมาจอดแล้วลั่นไกปืนลูกซองยาว ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในรถต่อหน้าตำรวจระหว่างโดนปิดล้อมไว้

หลังใช้อาวุธปืนลูกซองยาวกระบอกเดียวกัน ยิงนางสาวดวงเดือน โกกะพันธ์ อายุ 41 ปี ที่อยู่ 264 บ้านพัฒนา ม.8 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จว.ศรีสะเกษ เป็น ผอ.โรงเรียนบ้านโนนอีปังโพนวัว จ.ศรีสะเกษ อดีตภรรยานายปฐพี

และยังใช้ปืนกระบอกด้วยกัน ยิงนายปรมัตถ์ สามัญ อายุ 39 ปี ที่อยู่ 76 หมู่ 12 ต.อีหล่ำ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ อาชีพ ทนายความ สามีคนล่าสุดของนางสาวดวงเดือนฯ เสียชีวิตเป็นคนที่ 2

หลังจากนั้นได้ยิงนางหยกมณี โกกะพันธ์ อายุ 66 ปี ที่อยู่ 209 ม.8 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จว.ศรีสะเกษ แม่ ผอ.ดวงเดือนฯและยิงนายบุญเลื่อน อภัยพงษ์ อายุ 61 ปี ที่อยู่ 88 ม.8 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จว.ศรีสะเกษ น้องเขยนางหยกมณีฯ รวมเสียชีวิต 4 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.(23 ก.ค.)

พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญ เพราะมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวม 5 คน ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมการทำงานของตำรวจ สภ.ประโคนชัย มีทำงานตามยุทธวิธี

เบื้องต้นเป็นคดีที่ไม่ซับซ้อน และมีมูลเหตุชัดเจนคือเรื่องครอบครัว เนื่องจาก ผอ.มีการเตรียมการไว้แล้ว ทั้งลาออกจากราชการได้ประมาณเดือนเศษที่ผ่านมา มีการเขียนจดหมายไว้กับกระดาษใต้เท้า(กระดาษของร้านล้างอัดฉีด)ด้วยข้อความว่า”ถ้าตายไม่ต้องตั้งสวดนะ เผาได้เลยแต่นำเอากระดูกกลับ”พร้อมกับเขียนชื่อพ่อแม่และเบอร์ศัพท์เอาไว้ ทางตำรวจ สภ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ จะทำคดีแค่การพิสูจน์หลักฐาน ส่วนคดีหลักต้องให้ต้นทางคือจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการต่อไป

ขณะที่นางลอย อายุ 77 ปี บ้าน 29 หมู่ 7 บ้านโน่นเสนส์ ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่ ผอ.ฝ่ายชายที่เสียชีวิต เล่าว่าลูกชายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. บอกแม่ว่าจะไปเที่ยว จนกระทั่งมาทราบข่าว

นางลอย เล่าด้วยว่า ผอ.ฝ่ายหญิงเคยพาลูกติดมาที่บ้าน ตอนนั้นเด็กยังตัวเล็ก ตนไม่ได้ว่าอะไร เพราะลูกชายได้อย่าร้างกับภรรยาเก่าไปแล้ว ส่วนหลาน 2 คนคือลูกของลูกชาย โตเป็นหนุ่มไปทำงานแล้ว ก่อนหน้านี้ ได้มีหนังสือจากศาลมาส่งที่บ้าน 2 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าถูกฟ้องเรื่องอะไร เพราะลูกชายไม่เคยบอก

ส่วนสาเหตุที่แท้จริง ส่วนตัวตนเชื่อว่าลูกชายคับแค้นใจเพราะบ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ ลูกชายเป็นคนร่วมสร้าง แต่ฝ่ายหญิงกลับไปมีสามีใหม่ซึ่งเป็นทนาย อายุน้อยกว่า และฟางเส้นสุดท้ายที่ลูกชายแค้นคือการที่ถูกฝ่ายหญิงทนายคือสามีใหม่ฟ้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกชายเข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

ส่วน ผอ.ดวงเดือน เคยมีสามีคนแรกเป็นตำรวจ ไม่มีลูก สามีคนที่ 2 เป็นตำรวจ มีลูกด้วยกัน 1 คน อดีต ผอ.ปฐพี เป็นสามีคนที่ 3 ไม่มีลูก และได้สามีคนที่ 4 อาชีพทนายที่เสียชีวิต เพิ่งแต่งานกันได้ประมาณ 2 เดือนและเป็นทนายที่ว่าความให้กับ ผอ.ดวงเดือน

ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน

ประกาศด่วนล่าสุด เงินดิจิทัล 10,000 ล่าสุดเพิ่มอีก 2 กลุ่ม ไม่มีสิทธิ์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้า เพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 4 ของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เพื่อรวบรวมในฐานข้อมูลกลาง เตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว รวม 1,604,000 ร้านค้า

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รายละเอียดของร้านค้า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีนิติบุคคลขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 910,000 ราย จำนวนนี้มีร้านธงฟ้า 146,000 แห่ง และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 แห่ง ที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด และที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ดูแล 400,000 แห่ง รวมทั้งมีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแล 93,000 แห่ง และห้างค้าส่งปลีกและร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่านกระทรวงพาณิชย์ 50,000 แห่ง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กำหนดการลงทะเบียน เบื้องต้นเดือนสิงหาคนี้จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์ และร้านค้าทั่วไป ส่วนกรณีมีการมองว่าการลงทะเบียนร้านค้า เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ยืนยันว่าการดำเนินการไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอท็อป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิหมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับรายการสินค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม (Negative List) ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ได้แก่ 1.สลากกินแบ่งรัฐบาล 2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ผลิตภัณฑ์ยาสูบ 4.กัญชา 5.กระท่อม 6.พืชกระท่อม 7.ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม 8.บัตรกํานัล 9.บัตรเงินสด 10.ทองคํา 11.เพชร 12.พลอย 13.อัญมณี 14.น้ำมันเชื้อเพลิง 15.ก๊าซธรรมชาติ 16.เครื่องใช้ไฟฟ้า 17.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 18.เครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้า Negative List หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิด ที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ

วันนี้มรสุมถล่ม เตือนรับมือฝนฟ้าคะนอง

23 กรกฎาคม 2567 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับพายุโซนร้อน “พระพิรุณ” ปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อน “พระพิรุณ” ปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงเช้าของวันที่ 23 ก.ค. 67 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

ออกประกาศ 23 กรกฎาคม 2567

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย

06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนอง ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงา ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

วันหยุดเดือนสิงหาคม 2567

วันหยุดราชการและวันหยุดธนาคาร เดือนสิงหาคม 2567 มีกี่วันมีวันไหนบ้างมาดูกัน

จันทร์ 12 สิงหาคม 2567 วันแม่แห่งชาติ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันพระเดือนสิงหาคม 2567

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2567แรม ๑๕ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะโรง

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง(วันแม่)

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2567แรม ๘ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง

หนุ่มหื่นบุกข่มขืนแม่ลูกอ่อนไม่สำเร็จ โมโหฆ่าเด็ก 2 เดือนดับ

หนุ่มหื่นบุกข่มขืนแม่ลูกอ่อนไม่สำเร็จ เพราะฝ่ายหญิงขัดขืน คนร้ายโมโหจับเด็ก 2 เดือนลูกฝ่ายหญิงฟาดพื้นดับสลด

เมื่อวานนี้ ( 21 ก.ค. 67)  ร.ต.อ.พิชิต เชื้อเมืองพาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เวียงแก่น จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุเด็กถูกฆาตกรรม ในพื้นที่บ้านห้วยแล้ง ม.2 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

s__11165868

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ม.2 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น พบศพผู้เสียชีวิตเป็นเด็กทารกเพิ่งคลอดไม่นาน ทราบชื่อคือ ด.ญ.ลินลดา อายุ 2 เดือน 15 วัน มีบาดแผลบริเวณศีรษะ เสียชีวิตอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.ชนิกานต์ อายุ 20 ปี แม่ของเด็กที่เสียชีวิต กำลังอยู่ในอาการเสียใจ ร้องไห้อยู่ใกล้ๆกับศพลูกสาว

จากการสอบถาม น.ส.ชนิกานต์ แม่เด็ก เล่าว่า เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่กำลังออกมาเก็บผ้าอ้อมที่ตากไว้หน้าบ้าน ปล่อยให้ลูกสาววัย 2 เดือนครึ่ง นอนหลับอยู่บนฟูกที่ชั้นล่างของบ้าน และได้มีนายลี อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอยู่คนละฟากถนน ได้เข้ามาจับแขนและพูดข่มขู่ให้ร่วมหลับนอนด้วย หากไม่ยอมก็จะไปฆ่าลูกสาวให้ตาย น.ส.ชนิกานต์ ไม่ยอมและวิ่งหลบหนี นายลี จึงเดินเข้าไปในบ้าน แล้วจับขาของ ด.ญ.ลินลดา โดยเอาส่วนศีรษะของเด็กฟาดกับพื้นบ้าน ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุนายลี ได้วิ่งหลบหนีกลับไปที่บ้านของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัว

จากการนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหารับสารภาพว่า อยู่คนเดีย ไม่มีครอบครัว แต่แอบชอบ น.ส.ชนิกานต์ มานาน สบโอกาสช่วงที่สามีของ น.ส.ชนิกานต์ออกไปทำงานนอกบ้าน จึงตัดสินใจบุกหมายจะข่มขู่ให้ร่วมหลับนอนด้วย แต่สาวแม่ลูกอ่อนไม่ยินยอมและวิ่งหลบหนี ผู้ต้องหาเลยเข้าไปก่อเหตุฆ่าเด็ก และหนีกลับมาที่บ้าน

ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน.

ด่วน มีคนถูกแทงดับ ในห้างดัง ใกล้แฮปปี้แลนด์

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม มีรายงานจากกู้ชีพนพรัตน์ว่า เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บถูกแทงที่ห้างใกล้แฮปปี้แลนด์เสียชีวิต ยังอยู่สภาพเดิม รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

ในขณะที่ทาง NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ได้มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด เผยภาพคนที่ถูกแทง ก่อนหมดสติ คือคนเสื้อขาว ส่วนผู้ก่อเหตุใส่เสื้อลายขาวดำ

เงินดิจิทัล 10,000 ระวังถูกดึงเงินกลับ เปิดเงื่อนไขข้อสำคัญ

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับวันลงทะเบียนเงินดิจิทัล10,000บาท โดยจะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ให้ลงทะเบียนวันละ 1 ล้านคน เป็นเวลา 45 วัน สามารถโหลดแอปฯทางรัฐแล้วสมัครและยืนยันตัวตนรอไว้ก่อนได้ ย้ำเงื่อนไขสำคัญหลังได้รับเงินแล้ว

สำหรับเงื่อนไข เงินดิจิทัล10,000บาท

-ประชาชนที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน

-มีสัญชาติไทย

-อายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567

-ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี หรือไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน (เก็บข้อมูลจากกรมสรรพากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เท่ากับว่าต้องเป็นบุคคลที่ยื่นภาษีในปีล่าสุด)

-มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์ สลากออมสิน

หลังได้รับเงินดิจิทัล10,000บาทแล้ว ต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้สิทธิ์ ไม่งั้นจะถูกถึงเงินกลับส่วนกลาง และเงินดิจิทัลไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ หากฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

สำหรับรายการสินค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้

สินค้าที่ใช้เงินดิจิทัลซื้อไม่ได้ มีดังนี้

สลากกินแบ่งรัฐบาล

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผลิตภัณฑ์ยาสูบ

กัญชา

กระท่อม

พืชกระท่อม

ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม

บัตรกํานัล

บัตรเงินสด

ทองคํา

เพชร

พลอย

อัญมณี

น้ำมันเชื้อเพลิง

ก๊าซธรรมชาติ

เครื่องใช้ไฟฟ้า

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เครื่องมือสื่อสาร

ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระยศ เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ

วันที่ 22 ก.ค. 2567 มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง ให้นายทหารรับราชการและพระราชทานพระยศทหาร เมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลตรีหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และพระราชทานพระยศเป็น พลโทหญิง

Popular Posts

My Favorites

ถูกจับตา ‘ตูมตาม ยุทธนา’ ซุ่มเลิกภรรยา-ผันเลี้ยงลูกลำพัง

0
จู่ๆก็มีประเด็นข่าวลือที่ว่านักร้องหนุ่ม ตูมตาม ยุทธนา กลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวไปซะเเล้ว วึ่งในตอนนี้ตูมตามกลับมารับงานในวงการบันเทิงเเล้วหลังจากที่พักงานไปเนื่องจากเเพ้ท้องเเทนภรรยา อาหลี อัฐริญญา ทำให้หนุ่มตูมตามนั้นกินสารพัดอย่างจนน้ำหนักดีดพุ่งขึ้นมา 10 กิโลกรัม ล่าสุด ตูมตามได้ออกมาเคลียร์ประเด็นเรื่องเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวว่า ที่ผ่านมาเลี้ยงลูกเเต่ไม่ได้อัพเดตลงโซเชียลจนทำให้หลายคนเข้าใจผิดเรื่องการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งในตอนนี้ยังอยู่กับภรรยา รักภรรยาเเละลูกมาก เเต่ชอบขโมยคอนเทนต์ภรรยาจนอาหลีไม่ได้อวดโมเมนต์ลงโซเชียล