บนเฟซบุ๊กของ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้โพสต์ข้อความขณะอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมเชียงราย ซึ่ง บุ๋ม ปนัดดา เป็นคนแรกๆที่ลงพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นครั้งนี้หรือจะเป็นเหตุภัยพิบัติที่เคยผ่านๆมาทุกคนจะเห็นภาพของ บุ๋ม ปนัดดา ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้ บุ๋ม ปนัดดา เผย อาจจะลุยได้ไม่เต็มที่เหมือนที่ผ่านมา

ซึ่งหลังจากนั้น “บุ๋ม ปนัดดา”ออกมาโพสต์ “ชมพู่ อารยา” พร้อมกับโชว์สลิปเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท มอบให้กับมูลนิธิองค์กรทำดี ในนามของบริษัทที่ชื่อว่า บริษัท ของชม จำกัด

นอกจากนี้ บุ๋ม ปนัดดา ได้เขียนบอกเล่าไว้ว่า “มีผู้ใจบุญไม่ประสงค์ออกนาม ได้มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) ให้กับ มูลนิธิองค์กรทำดีเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยผู้ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งมาว่า หนูขอร้องแม่ได้ไหมคะ แม่อย่าลงน้ำนะคะ แม่คอยประจำการสั่งอยู่ข้างบนก็พอ ถือว่าหนูขอร้องนะคะ”

ล่าสุด เกิดเรื่องจนได้ เมื่อรูปภาพดังกล่าวที่ได้โพสต์กลับหายไปจากหน้าอินสตาแกรม ในขณะที่โพสต์ของคนบันเทิงคนอื่นๆ ยังอยู่ครบ ทางด้าน บุ๋ม ปนัดดา ได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ภาพพร้อมข้อความอีกครั้งว่า “ตื่นมาตอนเช้ารูป น้องชมพู่ หายไป ไอจีบอกว่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว” พร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า “ของคนอื่นก็อยู่กันตามปกติ บางทีเธอก็เซนซิทีฟเกินไป”

“ดิว ธีรภัทรคือใคร” ยังเป็นที่สนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ตอนนี้ สำหรับจากกรณีของ พู่กัน – แมงปอ คู่รักที่วางแผนแต่งงานกัน โดยพ่อของแฟนหนุ่มหลอกให้จัดงานแต่ง ยืนยันว่ามีสินสอดพร้อม แต่หลังจัดงานไว้เสร็จสรรพฝ่ายชายกลับมาสารภาพว่าไม่มีเงินสินสอด

จากกรณีของ พู่กัน – แมงปอ คู่รักที่วางแผนแต่งงานกัน โดยพ่อของแฟนหนุ่มหลอกให้จัดงานแต่ง ยืนยันว่ามีสินสอดพร้อม แต่หลังจัดงานไว้เสร็จสรรพฝ่ายชายกลับมาสารภาพว่าไม่มีเงินสินสอด ขณะที่แม่ของฝ่ายหญิงได้นำทองคำไปจำนำ และหยิบยืมเงินญาติและเพื่อนบ้านมาใช้หนี้งานแต่ง ทุกอย่างเกิดจากการการผิดสัญญาของพ่อฝ่ายชาย แต่คู่รักจำต้องแยกทางทั้งที่ยังรัก และแม่ฝ่ายหญิงก็ยังรักลูกเขยนั้น

โดย ดิว ธีรภัทร เดินทางมาหาพ่อแม่ของน้องแมงปอที่ จ.กำแพงเพชร ท่ามกลางชาวบ้านที่มารอต้อนรับด้วยความดีใจ ซึ่งเมื่อมาถึงก็ได้กอดให้กำลังใจ นางผุสดี อายุ 53 ปี คุณแม่ของฝ่ายหญิง ก่อนมอบเงินจำนวนให้ 200,000 บาท เพื่อช่วยปลดหนี้ให้ตามสัญญา ซึ่งนางผุสดีก็ได้อวยพรให้ ดิว ธีรภัทร พบเจอความรุ่งเรืองในหน้าที่การงานค้าขาย และร้องไห้ดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือ

หลังจากที่ ดิว ธีรภัทร เสื้อผ้าพ่อค้าพาฟิน ได้ออกมาอาสา ขอช่วยหนี้ค่าสินสอดให้กับ น้องพู่กัน เป็นที่เรียบร้อย จน หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึง พ่อบอย ระบุว่า

การช่วยเหลือน้องพู่กันกับน้องแมงปอ เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่หวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้ คงไม่ทำให้พ่อบอยลอยตัวนะครับ พ่อบอยยังคงต้องใช้หนี้แม่รำเพยนะครับ เรายังมองคุณอยู่นะพ่อบอย

จนงานนี้ ดิว ธีรภัทร ถึงกับต้องแชร์ข้อความดังกล่าวของ หนุ่ม กรรชัย พร้อมระบุข้อความสั้น ๆ ว่า

พี่หนุ่มกรรชัย ก็.. รักนะครับ

โหนกระแส

ขอบคุณครับโหนกระเเส

สิ่งที่ได้ทำไป ดีใจอย่างนึง ที่อย่างน้อยๆ

วันนี้ผมประสบความสำเร็จ ได้ช่วยชีวิตครอบครัว

พู่กัน น้องปอ

วันที่ 15 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฝนตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้เกิดเศียรพระนอนขนาดใหญ่ ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ด เกิดหักสะบั้นลงมา คาดว่าเกิดจากปูนซีเมนต์รับน้ำหนักไม่ไหว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีการนำผ้าสแลนสีเขียว ปกคลุมบริเวณเศียร และทำเป็นรั้วสูงนับ 10 เมตร ล้อมรอบบริเวณด้านนอกอีกชั้น โดยมีคนงานหลายคนกำลังทุบรื้อเศษปูนอยู่ภายในรั้วกั้นดังดังกล่าว

โดยขณะที่ถ่ายภาพนั้นทางพระลูกวัดที่ดูแลบริเวณนั้น มาขอร้องไม่ให้มีการถ่ายภาพอย่างเด็ดขาด เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเศียรพระที่ขาดตกลงมา ทางพระลูกวัดบอกว่าไม่มีอะไร โดยอธิบายว่าเกิดจากความผิดพลาดของช่างที่ก่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ว่าได้สร้างผิดรูปแบบ ไม่อยากให้เรื่องนี้เผยแพร่ออกไป เพราะจะทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกคิดว่าเป็นเรื่องอาถรรพ์

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่า คอพระพุทธศากยมหามุนีศรีเวียงพิงค์ หรือพระพุทธไสยาสน์ปางเสวยสุข ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2563 แล้วเสร็จ กลางปี 2567 มีความยาว 59.99 เมตรมีความงดงามมาก เพิ่งมีการการประกอบพิธีบวงสรวงเบิกเนตร และบรรจุหัวใจ ในช่วงสายของวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมาเป็นพิธีใหญ่ มีพุทธสานิกชนและผู้มีชื่อเสียงมาร่วมพิธีจำนวนมาก

แต่เมื่อช่วงเวลา 05.30 น.ของวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุอุบัติเหตุไม่คาดฝัน และเดชะบุญเกิดในเวลากลางคืน ที่บริเวณพระศอแตกร้าวก่อนที่พระเศียรจะแตกและหักลงมากระแทกพื้นจนแตก เสียงดังสนั่น พระเณรออกมา และแจ้งให้ พระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง และเป็นเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ดรับทราบ

ซึ่งทางวัดเกรงจะเป็นที่แตกตื่นกับพุทธสานิกชน จึงให้รีบนำสแลนมาบกปิดส่วนพระเศียรที่แตกหักไว้ และได้ขอร้องไม่ให้เป็นข่าวออกมา เพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่องอาถรรพ์ทำให้แตกตื่นกัน อย่างไรก็ตาม มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและไทใหญ่รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้เห็นในช่วงเช้าจึงสอบถามกัน

โดยชาวบ้านในอำเภอดอยสะเก็ดบางคนที่ทราบข่าวได้วิจารณ์ว่าน่าจะเกิดจากปัญหาโครงสร้าง ที่อาจใช้เหล็กขนาดเล็กไม่สามารถรับน้ำหนักของเศียรพระได้ ทำให้เกิดการแตกหักและพังทลาย และ บางคนบอกว่าอาจเป็นลางบอกที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันที่มีพิธีบวงสรวงเบิกเนตร มีผู้มาร่วมพิธีนับพันคนจะเกิดอันตรายขึ้นได้

อย่างไรก็ตามทางวัดยังไม่มีใครออกมาให้ข่าวในเรื่องนี้ ส่วนองค์พระพุทธรูปที่เสียหายอยู่ในระหว่างประกันทางช่างรับเหมาจะต้องรับผิดชอบเร่งบูรณะให้กลับคืนมาโดยเร็วเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พุทธสานิกชนที่รู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้

สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับเหล่าคนในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก หลังจากสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการบันเทิงอย่าง ผู้กำกับชื่อดัง อาหลอง ฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับภาพยนตร์) ประจำปี พ.ศ.2556 ผู้สร้างตำนานระเบิดภูเขาเผากระท่อม ซึ่งจากไปอย่างสงบในวัย 93 ปี เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เล็ก พิมพ์สุภัค ภรรยาฉลอง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการจากไปของฉลองทั้งน้ำตาว่า ตนเข้าไปหาคุณอาทุกวัน ยกเว้นวันที่ท่านจะเสีย คุณหมองดเยี่ยม เลยไม่ได้เข้าไป ช่วงแรกๆ คุณอายังรู้สึกตัวดี แต่หลังๆ เริ่มมีเชื้อที่ปอด ปอดเริ่มเป็นฝ้า คุณหมอบอกว่าคุณอาอายุเยอะแล้วและรักษามาหลายปี ไม่รู้จะพูดยังไง แรงก็ไม่ไหวแล้ว ช่วงหลังๆ คุณอามีการใส่ท่อซึ่งพูดไม่ได้ จะใช้แค่มือ ก็บอกว่าอย่าพยายามพูด จะเจ็บ แต่ก็เข้าไปเจอหน้าทุกวัน

“ก็ได้บอกเขาว่าไม่ต้องห่วง คุณอาจะได้ไม่ต้องเจ็บ อย่าพูด ทุกอย่างไม่มีอะไรให้คุณอาต้องห่วง คือจริงๆ บอกเขาว่าให้แข็งแรงไวๆ จะได้ไปเที่ยวที่กอง ไปทานข้าวที่กอง เขาก็ยิ้มมีความสุข เพราะแกเป็นคนรักกองละครมาก จริงๆ ช่วงแรกเขาดีขึ้นเยอะ แต่เป็นช่วงหลังซึ่งอาจเป็นเพราะอากาศหรืออะไรไม่รู้ และด้วยวัยด้วย”

“คุณอาไปสบายแล้วนะคะ อยากให้คุณอาหลับให้สบาย ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น และก็ขอกราบขอบพระคุณกำลังใจจากทุกๆ ท่านที่ส่งมาให้ ขอบคุณมากค่ะ คือคุณอาเขาจะห่วงพี่ กลัวพี่จะอยู่คนเดียว ก็บอกเขาว่า คุณอาไม่ต้องห่วงพิมพ์นะ หลับให้สบาย คุณอาไม่ต้องเจ็บแล้ว ไม่ทรมานแล้ว” ภรรยาอาฉลองกล่าว

ด้าน ป๋าโก๋ พิเชษฐ ผู้จัดละครดัง เผยว่า ตนได้เสียคนที่รักมากคนนึงไป สุดท้ายไปรับอา มาส่งอา ส่งให้ดีที่สุด อธิษฐานบอกว่าขอให้คุณอาเดินทางไปสู่สิ่งที่ดีๆ ที่อาตั้งใจไว้ ก็เชิญขึ้นรถจากโรงพยาบาลมาที่วัด ตนเข้าวงการได้ก็เพราะคุณอา คุณอาคือครูที่สอนการแสดง สอนให้กำกับ สอนหลายๆ อย่างเกี่ยวกับสูตรการทำละคร ตนก็จะสานต่อ เพราะเรามีละครกับช่อง 7 อยู่

“ที่ผ่านมาคุณอาไม่ได้ว่างนะครับ พักอยู่ที่บ้านก็จริงแต่ก็แนะนำบท คอยบอกละครเป็นแบบนี้นะ ไม่ใช่แค่เราดู ประชาชนเขาดู อาทำกับช่อง 7 มา 28 ปี แกจะพูดคำนี้ตลอด แล้วผมก็มารับไม้ต่อกับคุณพิมพ์ตอนที่อาไม่สบาย และภาพถ่ายล่าสุดกับคุณอาเรื่อง มรกตสีรุ้ง ที่ป่านพวงศ์ ช่วงสาย.. (เสียงสั่น) อาบอกว่า ป๋าจะมาดูอาวันนี้วันสุดท้ายแล้วนะ เพราะว่าอาจะพัก หลังจากกลับไปหาหมอ เราบอกอาไม่ต้องพักหรอก มาเถอะ เข็นมาก็มา มาอย่างเดียว สุดท้ายก็ตามที่เห็นครับ แกรักงานมาก บางทีดูเทปโทรหาผม 3-4 ทุ่ม เสียงแกเป็นเอกลักษณ์ ‘ป๋า อันนี้อาคิดว่าแก้’ อาจะพูดแค่นี้ ส่วนจะแก้ไม่แก้อาไม่ว่า แต่เราจะแก้ตามที่อาแนะนำ” ป๋าโก๋กล่าว

วันที่ 15 กันยายน 2567 มีรายงานว่า สาวกู้ภัยนนทบุรี เสียชีวิตแล้วจากเหตุรถกู้ภัยพุ่งลงข้างทางขณะกลับจากภารกิจช่วยน้ำท่วมเชียงรายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 5 คน ขณะนี้อีก 3 คนยังสาหัส และปลอดภัยแล้ว 1 ราย

โดยอุบัติเหตุรถกู้ภัยพุ่งลงข้างทางเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 กันยายน 2567 ได้รับรายงานพี่น้องกู้ภัยอยู่ในระหว่างกลับจาก จ.เชียงรายเกิดอุบัติเหตุ รถลงข้างทาง ชนต้นไม้ บริเวณบ้านยางห้าหลุม ถ.สาย117 ขาร่อง ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร บาดเจ็บ 5 ราย (ดำ 1 ราย แดง 3 ราย เขียว 1 ราย ) กู้ชีพ

-กู้ภัยในพื้นที่ให้การช่วยเหลือส่ง รพ. ใกล้เคียง พื้นที่ สภ.หนองโสน

เพิ่มเติม จากการประชาสัมพันธ์กับทางโรงพยาบาล

– โรงพยาบาลสามง่าม 3 ราย ทราบชื่อ

รายที่ 1. ธนพร อาการ เจาะปอด

รายที่ 2. จุฑามาศ อาการ แน่นหน้าอก

รายที่ 3. จันทิมา (เสียชีวิต)

– โรงพยาบาลวชิรบารมี 2 ราย ไม่ทราบชื่อ

รายที่ 1. อยู่ใน icu

รายที่ 2. รู้สึกตัวดีถามตอบรู้เรื่อง

จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลับทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก ล่าสุด อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ผู้ก่อตั้งวัดร่องขุ่น พร้อมคณะลูกศิษย์ ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยในตัวเมืองเชียงราย พร้อมมอบเงินจำนวน 200,000 บาท ให้กับสมาคมกู้ภัยศิริกรณ์เชียงราย เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากมอบเงินให้กับมูลนิธิแล้ว อาจารย์เฉลิมชัย ยังนำเงินสดจำนวนหลายแสนบาท ใส่ถุงพลาสติกยัดมาในอกเสื้อ หากเจอผู้ประสบภัย คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม หรือแม้แต่จิตอาสาที่เดินทางมาช่วยเหลือในพื้นที่ อาจารย์ก็จะควักเงินออกมาแจกให้กับมือ มอบให้โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง และยังยิ้มพูดติดตลกว่า คนมันรวย

โดยข้อมูลจากลูกศิษย์ได้ระบุว่า วันที่ 13 กันยายน อาจารย์แจกเงินไปแล้วกว่า 5 แสนบาท ซึ่งระหว่างทางที่เดินทางไปช่วยเหลือชาวบ้าน บางจังหวะอาจารย์เฉลิมชัยก็กลายเป็นผู้ประสบภัยเสียเอง เพราะรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ทะเบียน 5161 ติดหล่มทรายดูดจนขับต่อไม่ได้ ลูกศิษย์ต้องช่วยกันอย่างทุลักทุเล

และอาจารย์เฉลิมชัยและคณะ ยังเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ห่างไกล นำข้าวสารและผ้าห่ม ที่นอน หมอน จำนวน 300 ชุดแจกชาวบ้านที่ห่างไกลที่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วมอีกด้วย

กลุ่มคนรักอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์

วันที่ 15 ก.ย.2567 เพจ Fire & Rescue Thailand รายงานว่า เมื่อเวลา 06.12 วันที่ 15 ก.ย.2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพิจิตร รับแจ้งเหตุรถชนต้นไม้ ที่ถนนสาย 117 บ้านยางห้าหลุม จ.พิจิตร ออกให้ความช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุพบ รถกระบะทีมงานอาสากู้ภัยของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยธน 19-00 จุดฐานเจริญนคร เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้ ด้านหน้ารถพังเสียหาย

เบื้องต้น ผู้โดยสารทั้งหมด 5 ราย ผู้โดยสารที่นั่งข้างคนขับอาการสาหัส ส่วนอีก 4 คนปลอดภัย อาสาสมัครกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่และใกล้เคียง รพ.สามง่าม 3 ราย รพ.วชิรบารมี 1 ราย รพ.ศูนย์พิจิตร 1 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถคันดังกล่าวอยู่ระหว่างเดินทางกลับ กทม. หลังจากเข้าไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือน้ำท่วม ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ภารกิจสุดท้าย เอส มูลนิธิ ดิอาร์ค ช่วยฝังศพพิตบูล ก่อนจากไปกะทันหัน คนรักหมาแมว เผยเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้เชียงรายมีคนช่วยหมาแมว

เฟซบุ๊ก Dolchanok Punyodyana โพสต์คลิปวิดีโอ ภารกิจสุดท้าย ของ เอส มูลนิธิ ดิ อาร์ค ที่ลงมาช่วยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน ความว่า ภารกิจสุดท้ายของเอส นำร่างพิตบูลฝังให้เขา เร็วเกินไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ด้าน คนรักสุนัขและแมว เชียงราย โพสต์แสดงความอาลัยต่อการจากไปของ เอส ดังนี้ วันนี้เป็นวันที่เราสูญเสียครูคนที่ 2 ในชีวิตในการช่วยเหลือหมาแมว แกเป็นคนสอนให้เราช่วยหมาแมวที่เชียงรายค่ะ แกสร้างแรงบันดาลใจให้เราทำให้เชียงรายมีคนช่วยหมาแมวค่ะ พี่เอส ดิอาร์คเชียงใหม่

เป็นมือช่วยหมาแมวที่เก่งมากๆ แกมาลงพื้นที่ช่วยหมาแมวที่แม่สายคงไม่ได้กินข้าวตรงเวลา แกทานข้าวมื้อเย็นด้วยความหิว และรู้สึกเป็นกรดไหลย้อน ทราบอีกทีเมื่อคืนพี่เอสจากไปอย่างกะทันหัน ขอให้พี่เอสเดินทางสู่ภพภูมิที่ดีนะคะ

ไม่คิดว่าการมาเยือนถิ่นเชียงรายครั้งนี้ของพี่จะทำให้เราไม่เจอกัน หนูรักและเคารพพี่เสมอนะคะพี่เอ็ด ครูคนที่ 2 ของชีวิตหนู

วันที่ 14 กันยายน 2567 ผู้ใช้ TikTokชื่อ budsarinsinpool1 ได้แชร์คลิปที่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง อัดคลิปวิดีโอกล่าวยกย่องชื่นชมในความสามารถของหน่วยซีล กองทัพเรือ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมดีใจเห็นน้ำใจคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน

โดยในคลิป กันจอมพลัง เผยว่า ผมขอชมหน่วยซีลเลย ซอกซอยเข้ามีวิธีของเขา แบบเรือปกติไปไมได้ แต่เขาไปได้ โดยมองดูอยู่ว่าเขาไปได้ยังไง เก่งๆ ทีมซีลเก่งมาก ดีใจมากที่คนไทยรวมพลังกันสู้ ไม่ใช่แค่คนพื้นที่นะ คนไทยทั้งประเทศ มารวมแรงสู้

กัน จอมพลัง

จากกรณี “เอส” จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค เสียชีวิตกะทันหัน โดยวันที่ 15 ก.ย. 2567 โลกออนไลน์แห่อาลัย เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ฮีโร่กู้ภัยที่เข้าช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย ได้เสียชีวิตกะทันหันหลังปฏิบัติภารกิจ

โดยมีผู้ใช้ Dolchanok Punyodyana โพสต์อาลัย ระบุว่า  “หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมากก่อนที่เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เรานั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชั่วโมง ก็แยกย้ายกันกลับห้อง

ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี่ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัย เพราะในรีสอร์ตมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไป เอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ

ใครรู้จัก เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน”

นอกจากนี้ยังโพสต์ภารกิจสุดท้ายของคุณเอส โดยระบุว่า “ภารกิจสุดท้ายของเอส คือนำร่างพิตบูลฝังให้เค้า แต่เร็วเกินไปกับเหตการณ์ครั้งนี้”

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก คนรักสุนัขและแมว เชียงราย ได้โพสต์อาลัย ระบุว่า วันนี้เป็นวันที่เราสูญเสียครูคนที่ 2 ในชีวิตในการช่วยเหลือหมาแมว พี่เอส ดิอาร์คเชียงใหม่ เป็นมือช่วยหมาแมวที่เก่งมากๆ เมื่อคืนพี่เอสได้จากไปอย่างกระทันหัน ขอให้พี่เอสเดินทางสู่ภพภูมิที่ดีนะคะ ไม่คิดว่าการมาเยือนถิ่นเชียงรายครั้งนี้ของพี่จะทำให้เราไม่เจอกัน หนูรักและเคารพพี่เสมอนะคะพี่เอ็ด ครูคนที่2ของชีวิตหนู

ด้านเพจเฟซบุ๊ก วัดเวฬุวนาราม ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “เป็นวันที่เสียใจอีกวันหนึ่งเช้านี้ลูกศิษย์ที่ลงพื้นที่โทรมาแจ้งว่า พวกเราสูญเสียเสียอาสาน้ำดีไปหนึ่งท่าน เอสจากไปอย่างสงบเมื่อคืนที่แม่สาย ใครที่รู้จักเอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับดิ๊บด้วย”