มีคนเม้าท์ว่ามีดาราท่านหนึ่งตามจีบ “ต้นหอม ศกุลตลา”อยู่ เอ๊ะ! ใช่ “ป้องณวัฒน์” ต้นหอม บอกคนนี้ดูจากแววตาแล้วมีความเป็นไปได้ . “วาเลนไทน์นี้ก็บาร์โฮสตลอดไปค่ะ (หัวเราะ) กับพี่ป้อง ณวัฒน์ ลุ้นได้ค่ะ หอมว่ามีโอกาสค่ะ เพราะว่าเวลาที่หอมเจอเขาด้วยแววตาเขาอะไรแบบนี้ จับสัญญาณได้ ชอบมาคลิกไลก์ตลอด แล้วเราก็สวย ก็คือจะมีความเอ็นดูหอม หอมว่าบางทีมันเกินเพื่อนหรือเปล่า (หัวเราะ) ไม่หรอก จริงๆ เป็นเพื่อนกัน เจอกันแต่ว่าตอนเด็กๆ เราเคยคุยกันว่าถ้า 40 เราไม่มีใครเรามาอยู่ด้วยกันไหม ความรักมันเริ่มจากเพื่อนได้นะ หอมถึงบอกว่ามันยังมีช่องอะไรนิดๆ เข้าใจไหม แล้วประโยคที่บอกว่าถ้า 40 แล้วไม่มีใครมาอยู่ด้วยกันไหม มันคือประโยคที่มาจากปากผู้ชายนะ หอมมีสิทธิ์คิดได้ คือมันสนิทกันมาก สนิทกันแบบเมื่อก่อนเรียกกัน ผัวไปไหนอะไรแบบนี้ แต่ถามว่าอยากสนิทมากกว่านี้ไหม ไม่ค่ะ มันรู้จักกันมากเกินไป หอมว่าตราบใดที่เรายังมีสติกันอยู่ เราคิดว่าเราลองมองหาคนอื่นกันก่อน แต่ถ้าวันไหนไม่มีสติ ก็สักกรึ๊บๆ ไปดื่มกันไหม ว้าย“

ทำเอาขาเผือกจับตาไม่น้อยเลยทีเดียว จากกรณีที่ ดีเจดาด้า พูดถึงพฤติกรรมของพระเอกคนหนึ่ง ว่าไม่ค่อยน่ารัก โดยหนุ่มคนนี้ เจ้าตัวเคยสัมภาษณ์มาหลายครั้ง แต่ล่าสุดหลังจบงานอีเวนต์หนึ่งที่ดารามาเยอะมาก ดีเจดาด้ากำลังรอลิฟต์กลับในช่วงดึก ประตูเปิดมาเป็นพระเอกคนนั้น

เขาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกไป ไม่ทักทาย แต่เพื่อนเขาทัก คือเราก็ไม่ได้จะให้เขาทักจริงจัง เพราะไม่ได้สนิท แต่เขาก็รู้ว่าเราเป็นใคร เรารู้สึกว่าไม่น่ารัก คือไม่ได้ต้องการให้ใครมาไหว้ ทางดีเจมะตูมก็กล่าวเสริมว่า “แต่มันทักกันได้” ถ้ามองในอีกมุมอาจจะดึกแล้ว อาจจะดื่มมา ดีเจดาด้า ก็บอกเป็นไปได้ แต่เขาก็ไม่ได้ดูเมา ก่อนจะมีถามดีเจมะตูม ว่าเจอเหมือนกันเหรอ มะตูมก็บอกว่าเล่าตอนนี้ไม่ได้ มีดีเทล โดยตนเป็นคนแรก ๆ เลยที่พูดเรื่องคนนี้

X

ล่าสุด ดีเจดาด้า ก็ได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จริง ๆ ไม่ได้อยากพูด ไม่ได้ถือสา แต่แปลกใจว่าน้องเขาจำเราไม่ได้หรือเปล่า หรืออะไร ก็รู้สึกว่าเขาล้วงกระเป๋าแล้วเดินผ่านไป เหมือนไม่รู้จัก ก็ตกใจ รู้สึกแปลก ๆ แต่เพื่อนเขาก็ทักทายเรา ทั้งที่เราก็เคยสัมภาษณ์เขาหลายครั้ง ก็เลยอยากบอกเขา คือคนในวงการเดียวกัน เวลาเจอกัน ไม่ได้ต้องการให้เขายกมือไหว้ แค่พยักหน้าทักทาย ยิ้มให้กันแค่นั้นเอง

มองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก เราก็ไม่ได้โกรธน้องเขา เขาก็อาจจำเราไม่ได้ แต่เราก็ใส่ชุดพิธีกร จะว่าเขาไม่เห็นเราก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเปิดมาเจอเราเลย บางทีเราอาจตัวเตี้ย เขาเป็นคนตัวสูง แต่ด้ากับอ๋องยืนด้วยกัน อย่างน้อยเขาก็น่าจะเห็นอ๋อง

อยากบอกต้นสังกัดเหมือนกัน ว่าน้องอาจต้องมีความเฟรนด์ลี่กว่านี้ อยู่ในวงการบันเทิง บางทีอาจเจอผู้ใหญ่กว่านี้ ยิ้มไว้ก็ไม่เสียหาย ซึ่งคนนี้ก็เป็นคนเดียวกับที่มะตูมเคยเจอเมื่อหลายปีที่แล้ว คือเคยเจอเหตุการณ์นี้จากคนเดียวกัน หลังกระดาษก็เขียนชื่อดาราคนนั้น ว่าคนเดียวกันใหม่ ซึ่งก็ใช่ คนเดียวกัน เขาเป็นเหมือนเดิม

ถ้าเจอกันอีก ร่วมงานกันได้ปกติ จะทักหรือไม่ทักก็แล้วแต่เขา แต่เรามองว่ามารยาทในสังคม การอยู่ร่วมกัน คนในวงการเดียวกัน เป็นเรื่องปกติ ถ้าน้องเขารู้ก็อยากให้ปรับปรุงตรงนี้ จะได้ดูน่ารัก และอยู่ในวงการได้นานขึ้น

ออกมาแฉหลักฐานรัวๆ จนโยงว่าพาดพิงไปถึงใครไม่ได้นอกจาก โยเกิร์ต อดีตภรรยา พีเค โดย มีเรียน แฟนใหม่ พีเค ปิยะวัฒน์ เคลื่อนไหวปกป้อง พีเค ที่โดนถล่มอยู่ฝ่ายเดียว หลังมีประเด็นไม่จ่ายเงิน โยเกิร์ต ทั้งที่ตอนแรกมีกระแสว่าไปปรึกษาทนายดัง เซ็นยกสมบัติยกบ้าน จ่ายดูแลเมียเก่ารายเดือนๆละแสน

โดย มีเรียน หลังจากเปิดหลักฐานที่ไปตรวจสอบบัญชี แล้วพบว่า 2 ปี เงินบริษัท หายไป 10 ล้าน แล้วมีบัญชีม้าด้วย ทั้งยังบอกว่า ให้มาชี้แจงความผิดปกติบัญชีบริษัทก็ไม่มา ทั้งยังให้ทนายโทรมา และตั้งคำถามว่าไปให้ข่าวว่าไม่จ่าย ต้องการอะไร ต้องการเหยียบ พีเค อีกรอบแบบที่ขู่ไว้หรือ

พร้อมทั้งโพสต์หลักฐานบัญชีเงิน ต่างๆ และยังตั้งคำถามอีกว่า บัญชีเงิน 2 ล้าน เผื่อฉุกเฉินที่เหลือหาบัตรประชาชนคนมาหัก ณ ที่จ่ายแล้วโอนเข้าตัวเอง ปีละ 5 ล้านเหรอ คนโดนหักไม่รู้เรื่อง

ขณะที่ มีเรียน ยังตอบคนถามด้วยว่า ขนาด พีเค ยังไม่เป็นอะไร ก็ไม่น่าจะเหลืออะไรยกให้แล้ว เพราะได้ไปหมดแล้ว วันที่เลิกกัน คุณผู้ชายมีเงินในบัญชี 5,000 กว่า เงินค้างบริษัท 1.7 ล้าน ผู้หญิงถือบัญชี วันนี้หมดแล้ว

ล่าสุด มีเรียน ยังโพสต์ด้วยว่า คนที่เห็นก็เอาเรื่องราวไปตีความกันซะใหญ่โต แค่ดูซีรีส์เกาหลีแล้วอินไปหน่อย เรากำลังเขียนหนังสือสักเรื่อง ละคันไม้คันมือ รอติดตามชมนะคะ เขินจัง

ขณะที่ เพจ อีป้าข้างบ้าน ออกมาเผยว่า ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ พีเค มีการเซ็นยกบ้าน และเงินเดือนละแสน ให้ โยเกิร์ต แล้วก็หย่ากัน สัญญาแนบในใบหย่า ครอบครัวพีเคมองว่าไม่เป็นธรรม โดย พีเค ตอนนี้ไม่มีงาน แต่ โยเกิร์ต มีงานฉ่ำ

ด้าน โยเกิร์ต ที่ฝ่ายชายเซ็นจะให้อะไร โยเกิร์ต ก็ยังไม่ได้เลย บ้านก็ไม่ได้ ตอนหย่าใหม่ๆ โย ยังต้องไปอยู่บ้านดาราคนหนึ่งหลายเดือน ตอนนี้หาที่อยู่ได้แล้ว ไปดาวน์คอนโดอยู่คนเดียว

เรื่องจะโดนฟ้อง โย รู้มาสักพักแล้ว โย ก็เตรียมทนายไว้สู้แล้ว จะไม่มีการพูดคุยใดๆ ไปเจอกันที่ศาลเลย เพราะ โย ก็มั่นใจว่าตอน พีเค เซ็นเอกสารไม่ได้เมาอย่างที่อ้าง ก็ให้ศาลตัดสิน

ล่าสุด พีเค ปิยะวัฒน์ หลังจากที่ได้เลิกรากับอดีตภรรยาสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ และที่เกิดเป็นประเด็นมากมาย โดยพีเค ได้มานั่งเปิดใจในรายการโดยบางช่วงบางตอนของรายการ พีเค ได้พูดถึงชีวิตการแต่งงาน และยอมรับว่า ตัวเองเป็นผู้ชายที่กลัวการแต่งงาน บอกเสมอว่า ไม่อยากแต่งงาน และ ณ วันนี้ความคิดนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน ครั้งที่แล้วแต่งงานเพราะถูกคนรอบข้างบอกว่า มันต้องแต่ง เราก็เลยบอกว่า อะถ้าต้องแต่งก็แต่ง

มีโมเมนต์ดีต่อใจมาทำให้แฟนคลับและคนรักบ้านต้องยิ้มแก้มปริได้ตลอด…ตลอด สำหรับบ้านของคู่สามีภรรยา โทนี่ รากแก่น และ แก้ว จริญญา ซึ่งถูกออกแบบตกแต่งในสไตล์มินิมอล น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ใกล้ชิดธรรมชาติ
เพราะไม่เพียงแต่บ้านหลังดังกล่าว จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักสวนครัวกับผลไม้นานาชาติเท่านั้น แต่ทว่ายังมีจุดพักผ่อนฮีลใจ อย่าง มุมสวนน้ำใสสะอาด คอยช่วยขับกล่อมความรู้สึกให้กลับมาชุ่มฉ่ำ ในวันอ่อนล้าอีกด้วย

แถมล่าสุด! ทางด้าน โทนี่ รากแก่น ก็ยังได้อัปเดตโมเมนต์น่ารัก ผ่านอินสตาแกรม @tonirakkaen เมื่อคุณแม่คนสวย ดีกรีราชินีหมอลำ บานเย็น รากแก่น
ชวนเพื่อนสนิทมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันที่บ้านของลูกชาย พร้อมกับเดินเล่นชมวิวธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ ดื่มด่ำอากาศบริสุทธิ์กันแบบเอ็กซ์คูลซีฟ
แต่ที่ดูจะดึงดูดสายตาแฟนๆ มากที่สุด จนทุกคนต้องเอ่ยปากทัก ก็คือ ชุดคอสตูมที่ บานเย็น รากแก่น กับเพื่อนสาวใส่
ที่ทั้งชิค ทั้งเท่ เข้ากันดี๊ดีกับบรรยากาศสุดๆ เรียกได้ว่างานนี้ คุณแม่จัดเต็มแฟชั่นไม่แพ้ลูกชายเลยทีเดียว

สุดเศร้า ภรรยาฉีเส้าเฉียน พระเอกดังฮ่องกง ตำนานกระบี่ไร้เทียมทาน เสียชีวิตตามสามี หลังเกิดหัวใจวายขณะจัดงานศพ

เว็บไซต์ Hk01 รายงานเหตุสลดจากกรณี ฉีเส้าเฉียน (Xu Shaoqiang) นักแสดงชื่อดังของฮ่องกง ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นระดับตำนาน จากซีรีส์กำลังภายใน กระบี่ไร้เทียมทาน ได้เสียชีวิตลงในวัย 73 ปี ด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว รวมทั้งแฟน ๆ ที่ติดตาม

โดยรายงานล่าสุด ทางโฆษกสมาพันธ์แรงงานภาพยนตร์แห่งฮ่องกง ได้ยืนยันการเสียชีวิตของฉีเส้าเฉียน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ภรรยาคนที่สามของฉีเส้าเฉียน ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันที่อายุน้อยกว่าเขา 30 ปี มีความเสียใจอย่างรุนแรงจนเกิดภาวะหัวใจวาย ในระหว่างการจัดงานศพของสามี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตตามหลังสามีไปเพียงไม่กี่วัน

เหตุดังกล่าวส่งผลให้ ฉีหยวนคุน ลูกสาวของฉีเส้าเฉียนต้องดำเนินการจัดงานศพต่อ และเธอได้โพสต์ไอจีสตอรี่อาลัยอย่างสุดซึ้ง กล่าวว่า “คุณคือตำนานเดียวในชีวิตของฉัน ฉันรักคุณ”

สำหรับฉีเส้าเฉียน มีประวัติผ่านการแต่งงานมา 3 ครั้ง ตอนอายุ 25 ปี เขาแต่งงานครั้งแรกกับจางเสี่ยวเฟิง คนนอกวงการ หลังจากนั้น 4 ปี ในปี 2523 เขาได้แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง แต่หลังจากแต่งงานไม่ถึง 2 ปี เขาก็มีประเด็นเรื่องฉาวนอกใจกระทั่งในปี 2548 ฉีเส้าเฉียนได้แต่งงานครั้งที่สามกับภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นนักเต้นชาวจีน ทั้งสองมีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน 2 คน

เก็บหอมรอมริบด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดที่มี สำหรับตลกสาวอารมณ์ดี “ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม” เพื่อทุ่มงบสร้างบ้านหลังใหญ่เป็นของขวัญให้กับตัวเองและสามี “บูบู้ กำธร” โดยล่าสุด “ตุ๊กกี้” ก็ได้โพสต์คลิปต่อเติมบ้านตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนตกแต่งเสร็จในระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่เห็นแล้วบอกเลยว่าอลังการเหมือนอยู่ในรีสอร์ต ไม่ว่าจะเป็นมุมรับแขก โต๊ะทำงาน เตียงนอน รวมไปถึงสระว่ายน้ำกลางบ้าน

งานนี้ตลกสาวก็เผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “ร่วม ๆ เกือบปี ขาดไป 2 เดือน ในการทำบ้าน ใช่ค่ะ นี่บ้านเดิมต่อเติมให้กว้างขึ้น รองรับความอ้วนของหุ่นผู้อาศัย 90% ละค่ะ เหลือแค่ทำบุญบ้านจะครบ 100% เกือบตายนะคะ ทำบ้านนี่ มีเหตุผลระมัดระวังไม่สบายใจแน่ ๆ กลัวรับเหมาเล่นงาน

แต่พี่บู้ดูงานเองตลอดเวลา ไม่คลาดสายตา แม้แต่วิเดียวถ้าไม่มีคนดูจริงจังตรงนี้ (ท่าจะแย่) ออกแบบ/วัสดุ / ดูงาน/เร่งงาน/ตรวจงาน (พี่บู้เท่านั้น) นี่ล่ะค่ะสมบัติ ทำงานหนักก็เพื่อสนองนี้ดทุกอย่าง ขอบคุณลูกค้าเช่าพระพี่บู้ทุกคน

ขอบคุณงานหนูทุกงาน งานน้อย เงินมาก หนูรับหมดค่ะ กราบนะคะ ที่สนับสนุนทุนในการอิฐซื้อปูน ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคำให้พรของพ่อแม่ ขอบคุณผู้ให้งานจนมีเงินสร้างมขอบคุณพี่บู้ที่เสียสละอดทนเคลียร์ช่าง ขอบคุณความขยันของเราทั้ง 2”

“ตุ๊กกี้” สุดารัตน์ บุตรพรม นักแสดงตลก ของค่าย เวิร์คพ้อยท์ ขอเจียดเวลาจากงานแสดง มาช่วยหวานใจ บูบู้ “นายกำธร โพธิ์น้ำคำ” ขายน้ำปลาร้าที่มีชื่อว่า “ปลาร้าราชา” ซึ่งสาวตุ๊กกี้ออกตัวว่า กิจการ ปลาร้านี้ ไม่ใช่ของตน แต่เป็นไอเดียของ หวานใจ บูบู้

“ตุ๊กกี้” เล่าว่า กิจการ ปลาร้าราชา นี้ เป็นไอเดีย และคิดค้นสูตร โดย “คุณบูบู้” และก่อนที่จะมาทำธุรกิจปลาร้าในครั้งนี้ เธอและ บูบู้ ได้เคยผ่านการทำอื่นมาแล้ว ถึง 3 ครั้ง ทั้งเปิดร้านขายเสื้อผ้า ร้านแทททู และร้านอาหาร ซึ่งแต่ละครั้งทำไม่เกิน 2 ปี ก็จะเปลี่ยน สาเหตุก็มาจากต้องการเรียนรู้ การเติบโต ไม่อยากหยุดนิ่ง และสิ่งที่ทำให้กล้าเปลี่ยนแปลงธุรกิจทุกๆ 2 ปี เพราะทุกครั้งที่ทำ เราจะมุ่งมั่นและสามารถคืนทุนได้ภายในไม่เกิน 4 เดือน เป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองคน กล้าที่จะเปลี่ยนธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง

วันที่ 15 ก.ย.2567 เพจเฟซบุ๊ก ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ของนักแสดง พิธีกร และนางามชื่อดัง บุ๋ม ปนัดดา ได้ลงโพสต์ข้อความ หลังมีคนใจบุญ แบ่งเงินกินข้าวมาบริจาค เพื่อช่วยเหลือน้ำท่วม

“บางคนมี 100 แต่อยากช่วย 30 บาท น้ำใจช่างยิ่งใหญ่ที่สุด บุ๋มขอรับไว้แต่น้ำใจ ไม่รับเงินนะคะ ถ้าช่วยมาแล้วต้องถึงขั้นอด เป็นห่วงค่ะ แค่มาให้กำลังใจกัน ร่วมสนับสนุนกัน แค่นี้ก็มากเกินแล้ว จนแต่รวยน้ำใจ น่านับถือ”

ก่อนที่นางงามคนดัง และประธานมูลนิธิองค์กรทำดี จะได้เข้ามาคอมเม้นท์ต่อว่า “ถ้าช่วยแล้วไม่ลำบาก 1 บาทก็รับค่ะ แต่ถ้าช่วยแล้วลำบาก ไม่มีข้าวทาน ไม่อยากให้ฝืนบริจาค ดูแลตัวเองให้ดี พร้อมวันไหนค่อยมาช่วยกัน รอได้เสมอนะคะ รักลูกเพจทุกคนจ้า”

พร้อมกับแนบข้อความบทสนทนา ที่โอนเงินคืนให้กับผู้บริจาคคนดังกล่าวเป็นเงิน 300 บาทคืนไป “ขอบคุณนะหนูนะ ทีมงานโอนคืนไปแล้ว 300 เอาไว้ทานข้าว”

คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ สำหรับข่าวร้อน “มีเรียน” แฟนใหม่ของ “พีเค” ที่อยู่ดีๆออกมาซัดเดือด กลางอินสตาแกรมสตอรี่ส่วนตัว จนหลายคนต้องพุ่งเป้าไปที่”โยเกิร์ต”

โดย “มีเรียน” ได้โพสต์เอาไว้ว่า “เคยรักใครโดยที่ไม่หลอกใช้เขาเป็นเครื่องมือในการหาเงินไหม?”

จากนั้นโพสต์ต่ออีกว่า”ให้มาชี้แจง ความผิดปกติของบัญชีบริษัท แต่ไม่มา… อ้างไม่ว่าง แต่มีเวลานัดคนนั้นคนนี้กินขนม วันนี้ให้ทนายโทรมา… จริงๆแถลงต่อสื่อไปเลยดีไหมคะ คนของสังคม จะได้เข้าใจกันหมด”

ก่อนตบท้ายด้วยการโพสต์หลักฐานการเงินแบบรัวๆ บอกว่า “ไม่น่าจะเหลืออะไรให้แล้ว เพราะให้ไปหมดแล้วในวันที่เลิก”ซึ่งประเด็นนี้ ทางฝั่งของ “พีเค” และอดีตภรรยา “โยเกิร์ต” ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด แต่ทีมข่าว “คมชัดลึก” ได้รับข้อมูลอินไซต์ว่า ทางโยเกิร์ตที่เห็นเงียบๆแบบนี้ ก็พร้อมเดินหน้าสู้เช่นกัน และแว่วมาว่าได้มีการแต่งตั้งทนายแล้ว

ขณะเดียวกัน หากส่องชีวิตของ “โยเกิร์ต” ในอินสตาแกรมส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเห็นว่าเธอมักโพสต์ภาพตัวเองเกี่ยวกับเรื่องงาน ทั้งเวลาไปออกงานอีเวนต์ หรือการโปรโมทสินค้า แม้ว่าจะมีภาพไปกินข้าวสังสรรค์กับแก๊งเพื่อนบ้างก็ตามขณะที่ เพจป้าข้างบ้าน เผยข้อมูลว่า ตอนที่ “พีเค” – “โยเกิร์ต” มีเรื่องกันใหม่ๆ มีการเซ็นสัญญาบ้าน 1 หลัง กับเงินเดือนให้กับโยเกิร์ต จากนั้นก็หย่ากันทันที ซึ่งสัญญานี้แนบในใบหย่าด้วย ซึ่ง ครอบครัวของพีเค กับ “มีเรียน” มองว่ามันไม่แฟร์ เลยจะยกเลิกสัญญา เพราะพีเคไม่มีงาน

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าทำไมมีเรียนถึงมายุ่ง”ป้าข้างบ้าน” บอกว่าด้วยความที่เป็นแฟนกัน “มีเรียน” จัดการให้ทุกอย่าง ตรวจสอบบัญชีต่างๆ เลยเอ๊ะถึงความผิดปกติของบัญชี 2 ปี หายไปไหน 10 ล้าน สมัยก่อนใช้เงินกันฟุ่มเฟือย ฝ่ายชายให้เงินฝ่ายหญิงหมดจนตัวเองไม่เหลืออะไรเลย

ประเด็นบ้าน 1 หลัง กับเงินเดือน “ป้าข้างบ้าน” บอกว่าตั้งแต่หย่ากันจนป่านนี้ “โยเกิร์ต” ยังไม่ได้อะไรเลย โยเกิร์ตต้องไปอยู่บ้านเพื่อนดารา 3-4 เดือน แต่ตอนนี้หาที่อยู่ได้แล้ว ไปดาวน์คอนโดเรียบร้อย และเรื่องที่จะฟ้องโยเกิร์ตเตรียมทนายไว้แล้ว และจะไม่คุยอะไร จะไปเจอที่ศาลเลย เพราะตอนที่เซ็นก็ไม่ได้เมาแล้วทำไม “มีเรียน” แฟนใหม่ ออกตัวแรง ทั้งที่”พีเค” กับครอบครัวเงียบกริบ “ป้าข้างบ้าน” บอกว่า ที่บ้านสงสัยทำไมพีเคทำงาน 10 กว่าปีไม่มีเงินเก็บ ไปขอพ่อแม่พี่ชายอยู่เลย จนมีเรียมบอกว่าอย่าไปยอม และที่ออกตัวแรงเพราะพี่ชายช่วงนี้ต้องเงียบก่อน เพราะเจอกระแสโจมตีเยอะ และกำลังจะเข้าสู่ทางธรรม ไม่อยากยุ่ง ส่วนพีเคเพิ่งรู้เรื่อง และเห็นว่ามีเรียนจะออกตัวให้ เพราะเรื่องธุรกิจหรือทางกฎหมายพีเคไม่รู้เรื่อง แต่มีเรียนเป็นนักธุรกิจรู้เรื่องมากกว่าว่าอะไรคืออะไร เลยจะจัดการตรงนี้ให้ ซึ่งทั้ง 2 คนทำใจแล้วว่าจะเจอทัวร์ลง แค่อยากออกมาพูดความจริงอีกมุมให้สังคมรู้ว่าโดนกระทำ

ส่วนข้อเท็จจริงนี้ยังไม่มีข้อสรุป ต้องรอให้ทั้ง 3 คน ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองอีกครั้ง

14 ปีตามติดเป็นเงา เปิดโฉมหน้ามือที่3 ‘นุ่ม-ต๊อด’ รู้แล้วอึ้ง ชีวิตหลังแต่งทนได้ไงเเต่งงานใช้ชีวิตคู่มานาน 14 ปี เเล้วไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปไวมากๆ สำหรับคู่ของ นางเอกดัง นุน่ วรนุช กับสามีหนุ่มนักธุรกิจ ต๊อด ปิติ ล่าสุดนุ่นได้มาเป็นเเขกรับเชิญในรายการ คุยแซ่บ Show ช่อง One31 โดยในรายการบางช่วงบางตอนนุ่นได้เล่าชีวิตรักหลังเเต่งงานด้วย

ชีวิตก่อนเเต่งงานกับหลังเเต่งงานต่างกันยังไง? นุ่น : “มันก็เเต่งต่างกันอยู่เเล้ว ก่อนเเต่งเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันจะบอกว่าเเตกต่างก็ไม่เชิงเพราะตอนที่เราคบกันก็เเทบจะเจอกันทุกวันอยู่เเล้ว เขาจะมาหาทุกวันว่างก็เจอกัน”

สิ่งที่เหมือนเดิมอีกคือจะมีมือที่สามอยู่ข้างๆตลอดตั้งเเต่ก่อนเเต่งยันหลังเเต่ง? นุ่น : “พี่ส้มจุกเขาเป็นคนดูเเลนุ่นรู้จักกันตอนที่เขาเล่นละคร นอกจากดูเเลนุ่นเเล้วเขาก็ดูเเลคนรอบข้างนุ่นด้วย ดูเเลต๊อดด้วย”

14ปีเเล้วพยายามมีลูกขนาดไหน? นุ่น : “ไม่ได้พยายามขนาดนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากเป็น การมีลูกไม่ได้หมายความว่าไม่มีความสุข นุ่นก็มีความสุขในแบบของนุ่นกับต๊อดเหมือนกัน แต่ก็ชินกับคำถามพวกนี้ เบื่อถามมั้ยคะ (หัวเราะ) นุ่นเชื่อว่าหลายๆ คนเป็นแบบนุ่นเลย สามารถใช้ชีวิตมีความสุขโดยไม่ต้องคิดว่าจะต้องมีลูก คนบอกว่าลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจบ้าง ตามคำผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่คนสองคน”

ความหวานเหมือนเดิมมั้ย?

นุ่น : “คู่นุ่นไม่ใช่คู่ที่หวาน ถ้าจำกัดคำว่าหวาน ต้องสวีตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ใช่ คาแรกเตอร์กับต๊อดอาจเป็นคู่ที่ไม่เหมือนใครมาก ถึงจะไม่หวานแต่เรามีความใส่ใจซึ่งกันและกัน เราแชร์เรื่องราวชีวิตกันและกัน”

VDO