ทีมงานขอเเสดงความเสียใจกับ “ดีเจเอิร์น ภัทรวดี” ที่ล่าสุดได้สูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักยิ่ง โดยดีเจเอิร์นได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมเขียนเเคปชั่นว่า

เป็นกุ้งแห้งของป๊าตลอดไปน้า เเละ ในนามครอบครัวบุญมีทรัพย์ขอขอบคุณแขกทุกท่านที่ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจ คุณพ่อสมชาย บุญมีทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 9-13 ก.ค. 67 ตลอดจนพวงหรีดทุกพวง ความช่วยเหลือต่างๆที่ทุกคนมอบให้ อาหารและของจำเป็นมากมาย

X

ขอให้บุญที่ทุกคนได้ร่วมทำกันในครั้งนี้ได้ส่งผลกลับไปให้ทุกคนประสบความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรงไร้ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ และมีความสุขมากๆทุกๆท่านนะคะ

หลังจากทราบกันไปแล้ว และไม่ต้องตามสืบให้เวียนหัวว่า กรณี “ผู้จัดค้างจ่ายค่าตัวนักแสดง 5 ปี “หนุ่ม สุรวุฑ” ก็คือภรรยาคนเก่งของ “ตั้ว ศรัณยู”ที่มารับไม้ต่ออย่าง “เปิ้ล หัทยา”

โดยข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจคือ พอเปิดรายรับของ หรือ ค่าตัวของ “หนุ่ม สุรวุฑ”ก็เข้าใจได้เลยเพราะเป็นเงินก้อนที่ใหญ่มาก และหนุ่ม ก็เก่งมากเช่นกันที่อดทนมานาน 5 ปี ซึ่งการสัมภาษณ์นั้น คำถามหนึ่งชี้ว่า “หลังจากที่เป็นข่าวได้คุยกับ หนุ่ม สุรวุฑ ไหม?”

“เปิ้ล หัทยา”เปิดใจเล่าว่า “คุย เขายังต่อว่าพี่เลย พี่ก็ตอบเขาได้เหมือนเดิมว่าเราพยายามรีบจัดการให้ เดี๋ยวพี่หาตรงไหนได้ จะเอามาจัดการให้ ซึ่งค่าตัวของ”หนุ่ม”ที่ค้างจ่ายอยู่เหลือแค่งวดสุดท้ายประมาณ 3 แสนกว่าบาท กับพี่หนุ่มเราคุยกันหลายรอบ แล้วเศรษฐกิจช่วงนี้ด้วย แต่ยืนยันว่าจะพยายามหามาให้ได้เร็วๆ

ทั้งนี้ตามข้อมูลนั้น “เปิ้ล” ยังชี้แจงว่า ตนเองก็กำลังจัดการให้ ส่วนเรื่องของนักแสดงท่านอื่นๆ ที่ตกค้างตนเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียด

ลืออดีตนักร้องดังฉายาแมวเก้าชีวิต “ดอน สอนระเบียบ” ถูกส่งตัวมาอยู่ที่ศูนย์ผู้ป่วยวัดพระบาทน้ำพุ หลังถูกลูก-เมีย ทอดทิ้งไม่มาดูแล ด้านทางวัดแจงแล้วไม่เป็นความจริง เผยครอบครัวอีกฝ่ายแค่มาทำบุญ

จากกรณีที่ในสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพและให้ข้อมูลของอดีตนักร้องดัง “ดอน สอนระเบียบ” ซึ่งปัจจุบัน

เป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยระบุว่า เจ้าตัวได้ถูกครอบครัวพามาปล่อยตัวทิ้งไว้ที่ศูนย์ผู้ป่วยวัดพระบาทน้ำพุของหลวงพ่ออลงกต และไม่มาดูแลอีกเลยนั้น

ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา มีรายงานว่า ทางด้านของวัดพระบาทน้ำพุ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้แล้ว โดยระบุถึงที่มาของ

ข่าวลือว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางครอบครัวนักร้องดังได้เดินทางมาทำบุญที่วัด ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยที่อดีตนักร้องดังนั้นไม่ได้ถูกทิ้งให้มาอยู่ที่ศูนย์ผู้ป่วยแต่อย่างใด

จากกรณีข่าวลือดังสนั่นว่า นางเอกตาคมยุค 90 กับพระเอกมาดเข้มยุค Y2K ซุ่มปลูกต้นรักและย้ายไปอยู่ร่วมบ้านเดียวกันอย่างเงียบ ๆ

แล้วซึ่งฝ่ายหญิงเป็นสาวตาคมที่เคยแต่งงาน แต่ชีวิตคู่ล้มเหลว และเคยผ่านการหย่ามาแล้ว ส่วนฝ่ายชายก็หล่อเข้ม สุภาพอ่อนโยน และเพิ่งหย่ากับภรรยาเก่ามาพักใหญ่ ๆ ก่อนจะมาคบนางเอกตาคมคนนี้ ทั้งคู่คบกันมาปีนึงแล้ว แต่คบกันเแบบเงียบ ๆ

จนหลายคนคิดว่าเป็นเพื่อนร่วมวงการถ้ารู้ชื่อแล้วทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน ซึ่งจากคำใบ้ทำให้ชาวเผือกพุ่งเป้าไปที่ “ตุ้ย ธีรภัทร์” และ “พิ้งกี้ สาวิกา” อีกทั้งก่อนหน้ายังมีการแชร์คลิปที่ “พิ้งกี้”และ “ตุ้ย” นั่งร้องเพลงด้วยกันยิ่งตอกย้ำว่าข่าวลือดังกล่าวมีมูล

ล่าสุดผู้ใช้ TiKtok รายหนึ่งแชร์คลิปวิดีโอที่ “ตุ้ย” กำลังเล่นกับน้องหมา แต่ที่เป็นประเด็นเห็นจะเป็นเสียงคนพากย์ในคลิปที่ฟังแล้วคล้ายเสียงพิ้งกี้แม้จะมีการดัดเสียงก็ตาม ท่ามกลางคอมเมนต์แซวจากชาวเน็ตที่เห็นเป็นเสียงเดียวกัน!!

เป็นรูปเป็นร่างจนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว สำหรับนักแสดงสาว จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม ที่ล่าสุดได้เดินทางไปเขาใหญ่เผื่อนเข้าตรวจบ้านหลังใหม่ที่ตั้งใจสร้างและออกแบบให้ลงตัวสุดๆ

โดย จ๊ะจ๋า ได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า “ตรวจความคืบหน้าของบ้านเขาใหญ่แบบหวานๆ น่ารักๆ สถาปนิกประทับจิต ผู้รับเหมาประทับใจ (ลืมความโหดไปได้หน่อยนึง)”

จากนั้น เจ้าตัวยังได้พาไปแทบจะทุกมุมของบ้านอีกด้วย “ใกล้แย้ววววว ใจมันก็จะฟูๆ หน่อย” ซึ่งงานนี้บอกได้เลยว่าทั้งสวย หรู อลังการ อีกทั้งวิวยังถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ดูแล้วอบอุ่นต่อหัวใจคนอยู่จริงๆ เลยจ้า

หลังจากคู่รักต่างวัย จ๊ะจ๋า พริมรตา – จิ๊บ วสุ ได้เข้าสู่งานวิวาห์ที่แสนจะเรียบหรู ด้วยการเช่าเครื่องบินส่วนตัวจดทะเบียนสมรสกลางอากาศ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุด สาวจ๊ะจ๋า ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงโมเมนต์หวาน ๆ ชีวิตหลังแต่งงานของตนว่า พี่จิ๊บทำให้เจ้าตัวมีเรื่องให้หัวเราะได้ตลอด และได้เห็นพฤติกรรมที่น่ารัก ๆ ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

จ๊ะจ๋า ได้เล่าถึงโมเมนต์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ตนรู้สึกประทับใจในตัวสามีมาก เพราะฝ่ายชายได้บีบยาสีฟันให้ตน แต่คงไม่ได้ทำเป็นประจำ พอบีบแล้วก็หกเลอะเทอะ พอเห็นแล้วก็รับรู้ถึงความพยายามที่จะดูแลเจ้าตัว ฝ่ายชายเป็นคนที่ชอบใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ว่าจริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ผู้หญิงควรจะเป็นคนทำให้มากกว่า แต่กลายเป็นว่าพี่จิ๊บทำให้จ๊ะจ๋า ซึ่งนอกจากความรู้สึกดีแล้ว แต่ก็มีความรู้สึกตลกเข้ามาด้วย เหมือนพี่จิ๊บทำไม่เป็น ทำให้ยาสีฟันหล่นลงที่พื้น เป็นความน่ารักมากๆ เจ้าตัวก็ไม่ได้บอกอะไรฝ่ายชาย เพียงแต่ถ่ายสตอรี่ส่งให้เขาดู

หวานชื่นลงเอยกันไปอีกคู่ สำหรับคู่รักต่างวัยอย่าง จิ๊บ วสุ นักร้องรุ่นใหญ่ และ จ๊ะจ๋า พริมรตา นักแสดงสาว ที่ได้ตกลงเซย์เยส จะแต่งงานกันเรียบร้อย หลังฝ่ายชายเซอร์ไพรส์ คุกเข่าขอแต่งงานระหว่างไปออกทริปท่องเที่ยวหลังคาโลกทิเบต ที่ทำเอาสาวจ๊ะจ๋า น้ำตาไหลพรากด้วยความสุข ซึ่งทั้งคู่กว่าจะลงเอย ก็คงผ่านอะไรมาไม่น้อย เฉกเช่นกับคู่รักทั่วไป จะพาไปฟังเรื่องราวความรักของทั้งคู่ที่ไม่เป็นความลับว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคมากมายขนาดไหน ไปอ่านกันเลยค่ะ1.แตกต่างกันทุกเรื่อง

ในช่วงเริ่มแรกที่ทั้งคู่เริ่มคบกัน จ๊ะจ๋าเคยออกมาเปิดเผยว่าคู่ของเธอนั้นมีความต่างเยอะมากแทบทุกเรื่อง เริ่มต้นที่อายุ และยังมีอีกมายมาย ไม่ว่าจะเป็นความชอบ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต แม้แต่พื้นฐานครอบครัว เธอเคยหนักใจมากเพราะทั้งสองไม่มีอะไรที่เข้ากันซักอย่าง ถึงขั้นอยากจะจบความสัมพันธ์นี้เลยทีเดียว 2.ทะเลาะกันแทบทุกวัน สืบเนื่องจากความต่างที่มีมากอยู่แล้ว จึงส่งผลให้ในช่วงแรกที่คบกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยมาก จนถึงขั้นบอกเลิกใส่กันแทบจะทุกวัน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ความเห็นไม่ตรงกัน จนทำให้จ๊ะจ๋าโมโห ทุกครั้งที่จ๊ะจ๋าโมโห

เราจะเป็นคนพูดประโยคว่าเลิกกันตลอด แต่กลับกัน พี่จิ๊บ จะนิ่งและทำเหมือนไม่รู้เรื่อง เรียกว่าใช้ความเป็นผู้ใหญ่สยบปัญหาทุกอย่างจริงๆ ค่ะ 3.เคยหวิดเลิกกันกลางรายการเคยมีเหตุการณ์ที่พีคมากๆ เพราะทั้งคู่เคยเกือบบอกเลิกกันกลางรายการเลยทีเดียว โดยก่อนถ่ายรายการ Woody Talk ทั้งคู่ได้มีปัญหากันในตอนเช้า จนพี่จิ๊บท้าว่า บอกเลิกกลางรายการไปเลย เอาให้รู้ไปเลย ไม่เอาแล้ว ซึ่งจ๊ะจ๋า ถึงกับโดดปิดปาก จิ๊บ และกล่าวว่าเขาเป็นคนพูดเก่งมากยอมรับเลย เวลามีปัญหากัน พี่จิ๊บไม่เคยพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว จ๊ะจ๋า จะเป็นคนพูดตลอด การที่จ๋าบอกเลิกแสดงว่ามันมีเรื่องที่ไม่ดี

จ๋าไม่ทน อยากให้มีการปรับตัวกันเกิดขึ้น 4.ผ่านกระแสลบมาด้วยกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะลงเอยกันแบบนี้ ในช่วงแรกๆ ที่ทั้งคู่เริ่มคุยกัน ก็มีกระแสลบออกมา ว่าสาวจ๊ะจ๋า เป็นมือที่สามของจิ๊บ และแฟนเก่า แต่ทั้งคู่ได้ออกมาปฏิเสธ ว่าเป็นแค่พี่น้องกัน ซึ่งเมื่อพอเวลาผ่านไป ก็มีโอกาสได้ศึกษาดูใจ และตกลงเป็นแฟนกัน ซึ่งทั้งคู่ก็จับมือกันฝ่าฟันกระแสดราม่า และลงเอยด้วยการเข้าประตูวิวาห์ในที่สุด