ต่างประเทศ

ไปบ้านแฟนครั้งแรก สาวได้ใช้ห้องน้ำที่ “หรูหราที่สุด”  น่ากลัวตั้งแต่เห็นประตู เข้าไปพิสูจน์ถึงกับกรี้ด วิ่งเผ่นแน่บ ภาพติดตาไม่กล้าปวดฉี่เลย! เรื่องราวของหญิงชาวจีนคนหนึ่งที่ตามแฟนหนุ่มของเธอกลับไปยังบ้านเกิดในชนบท ที่เมืองเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับห้องน้ำที่ค่อนข้างน่าหวาดกลัว… หญิงสาวเล่าว่า เมื่อไปถึงบ้านแฟนเธอรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ แต่แฟนกลับพาเธอเดินเข้าไปในบ้านโล่งๆ ที่คล้ายว่าจะเป็นโกดังเก็บของ แล้วบอกว่านี่คือห้องน้ำ ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจมาก แต่ก็เลือกจะเดินเข้าไปตามคำบอกนั้น ก่อนดวงตาจะของเธอจะเบิกกว้าง เมื่อพบประตูห้องน้ำไม่สามารถปิดได้ เหมือนกับเป็นประตูเก่าที่วางไว้ตกแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังมีรูเป็นช่องใหญ่ๆ ถึงสองช่อง เปิดกว้างอยู่บนประตูด้วย แน่นอนว่ามันทำให้ด้านนอกมองเห็นคนที่ทำธุระอยู่ด้านในแบบเต็มๆ ดังนั้นประตูบานนี้ถือว่าไม่มีประโยชน์เลย… แม้จะเห็นความจริงอยู่ตรงหน้า แต่เธอก็ยังหันไปถามด้วยความประหลาดใจ...

สาวโวยวายขอย้ายที่นั่งข้างแฟน หลังที่เพิ่งทะเลาะกันหนักที่สนามบิน สุดท้ายถูกไล่ลงทั้งคู่ ทำเครื่องบินดีเลย์ 71 นาที หญิงสาวคนหนึ่งถูกเชิญตัวลงจากเครื่องบินในเวียดนาม หลังจากที่เธอเรียกร้องขอย้ายไปนั่งข้างแฟนหนุ่ม ทั้งที่เพิ่งมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างหนักที่สนามบินก่อนขึ้นเครื่อง มีผู้บันทึกภาพวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่เธอโต้เถียงกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และมีการผลักลูกเรือคนหนึ่ง ก่อนที่ท้ายที่สุดทั้งเธอและแฟนหนุ่มจะถูกนำตัวลงจากเครื่องบินลำดังกล่าว เหตุการณ์บนเที่ยวบิน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน บนเที่ยวบิน UO559 ของสายการบินราคาประหยัด HK Express ซึ่งกำลังมุ่งหน้าจากสนามบินนานาชาติดานัง ไปยังสนามบินนานาชาติฮ่องกง ตามรายงานของสื่อฮ่องกงอย่าง South China Morning Post...

จากกรณีวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้เผยแพร่เรื่องราวของ นักร้องหนุ่มได้จากไปหลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยเพื่อนร่วมวง คิมฮยอนซู (Kim Hyunsoo) เป็นผู้แจ้งข่าวเศร้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย ลาก่อน...ไว้เรามาร้องเพลงด้วยกันอีกครั้งบนสวรรค์นะ แม้จางแฮยองจะไม่ได้มีผลงานในช่วงหลัง แต่ข่าวการจากไปของเขาก็สร้างความตกใจและเศร้าโศกให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก

ปัจจุบันมีผู้ปกครองหลายครอบครัวที่ต้องเลือกส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาลให้เร็วที่สุด เพื่อที่ตนเองจะได้มีเวลาออกไปทำงานหารายได้มาจุนเจือครอบครัว และในฐานะพ่อแม่ย่อมหวังว่าลูกๆ ปรับตัวเข้ากับชีวิตส่วนรวมและเข้ากับสังคมได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม การส่งเด็กเข้าสู่สังคมส่วนรวมเร็วเกินไป อาจส่งผลเสียที่ไม่คาดคิดได้ และไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของลูก ดังเช่นเรื่องราวของคุณแม่คนหนึ่งในต่างประเทศ ที่ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองคนอื่นๆ หลังจากได้ส่งลูกสาวอายุ 3 ขวบเข้าโรงเรียนอนุบาล ในตอนแรกเธอรู้สึกมีความสุขและโล่งใจมากที่ลูกสาวได้ปรับตัวเข้ากับชีวิตในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งหลังจากกลับจากโรงเรียน ลูกสาวก็จับกางเกงแน่นและพูดซ้ำๆ ว่า “หนูฉี่ไม่ได้” พฤติกรรมที่แปลกไปของลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่สับสน เพราะตามปกติลูกสามารถกางเกงไปเข้าห้องน้ำได้ด้วยตัวเองเป็นอย่างดี แล้วทำไมจู่ๆ ถึงไม่ยอมปัสสาวะ กระทั่งเมื่อเธอตัดสินใจช่วยลูกสาวถอดกางเกงออก สิ่งที่เห็นก็ทำให้ถึงกับร้องไห้ออกมา… ปรากฎว่าร่างกายของลูกสาวเต็มไปด้วยทราย และกางเกงของเธอก็สกปรกมากๆ หลังจากซักถามอยู่พักหนึ่ง ลูกสาวถึงยอมเล่าความจริงว่า ครูอนุบาลไม่ยอมดูแลเด็กเล็กๆ...

เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รายงานว่า นางราชยาลักษมี จิตราคาร์ ภริยาของนายจฮาลานาธ คานาล อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาล กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของการประท้วงครั้งใหญ่ในเนปาล หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขังเธอเอาไว้ในบ้าน ก่อนจะจุดไฟเผาบ้าน ที่เมืองดัลลู ทำให้เธอถูกไฟคลอกตามร่างกายและบาดเจ็บสาหัส เมื่อมีผู้นำเธอไปโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่า เธอเสียชีวิตระหว่างการรักษาตัว ข่าวระบุว่า เหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน หลังจากนาย เคพี ชาร์มา โอลี ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังเหตุประท้วงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จากเหตุไม่พอใจรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น และบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม...

หนุ่มอายุ 23 จู่ๆ ลมหมดสติหลังถอนฟัน โคม่าเนื่องจากเลือดออกในกะโหลกศีรษะ เสียชีวิตหลังผ่าตัดสมองฉุกเฉินได้ 14 วัน แม้ว่าการถอนฟันจะเป็นการผ่าตัดเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงถึงชีวิตได้! ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ชายหนุ่มแซ่หวัง ไปโรงพยาบาลในเขตต้าเผิงใหม่ เซินเจิ้น เพื่อรับการรักษาเนื่องจากอาการปวดฟัน โดยไม่คาดคิดหลังจากถอนฟัน 2 ซี่ เขาก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติ ต่อมา ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน พบว่ามีอาการออกเลือดในกะโหลกศีรษะ หลังการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะฉุกเฉิน นายหวังรอดชีวิตมาได้ 14 วัน...

คุณแม่ลูกหนึ่งในลุคสาววัยรุ่น! เปิดภาพเปรียบเทียบชีวิตในเมืองและชนบท ที่ทำให้โลกออนไลน์ฮือฮา ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว SOHU ของประเทศจีน หญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในมณฑลหูหนาน ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบตัวเองก่อนและหลังกลับบ้านเกิดที่ชนบท โดยพบว่าเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเธอเป็นสาววัยรุ่นที่ดูสดใสและสวยงามเสมอ แต่พอช่วงวันหยุดกลับไปที่บ้านในเมืองฉางซา ก็กลายเป็นหญิงสาวบ้านๆ ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย ในอีกลุคหนึ่งไปเลย เธอเกิดไอเดียที่จะโพสต์ภาพเปรียบเทียบระหว่างสไตล์การแต่งตัวในเมืองและในบ้านเกิดให้เพื่อนๆ ได้เห็นกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือความแตกต่างที่น่าตกใจ จากสาววัยรุ่นในเมืองที่ดูมีเสน่ห์และทันสมัย แต่งตัวด้วยเสื้อแขนกุดแฟชั่นกับกางเกงยีนส์เก๋ๆ แต่งหน้าทำผมอย่างสวยงามเสมอ แต่พอกลับบ้านที่ชนบทกลับกลายเป็นสาวบ้านนอกที่เรียบง่ายและไม่สนใจภาพลักษณ์ การแต่งตัวกลายเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน สวมเสื้อถักและเสื้อโค้ตกันหนาวเก่าๆ กางเกงนอนที่สวมใส่อย่างสบายๆ โดยไม่มีการแต่งหน้าหรือทาลิปสติก ในภาพที่เธอโพสต์นั้นเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่ารูปลักษณ์ของเธอในเมืองและในบ้านเกิดนั้นต่างกันราวกับคนละคน อย่างไรก็ดี...

จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ได้มีข่าวลือว่า อวี่เมิ่งหลง ตกลงมาจากอาคารที่พักเสียชีวิต ที่กรุงปักกิ่ง ในวันนี้ Weibo ของ ปาปาฯ เสี่ยวหยาน ได้เปิดเผย อวี่เมิ่งหลง ได้รับประทานอาหารเย็นกับเพื่อน ๆ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 10 กันยายน ในเวลา 02:00 น. เขาขังตัวเองอยู่ในห้องนอนเพื่อพักผ่อน เวลา 06:00...

ภาพนี้ไม่ใช่ฉากในหนัง! วงจรปิดบันทึก ภรรยาบังเอิญเจอสามีพา “ลูกคนอื่น” มาโรงพยาบาล ขณะที่ลูกตัวเองกำลังป่วย แต่เฉลยเหตุผลไม่ดราม่า กลายเป็นจบสุดซึ้ง กลายเป็นคลิปไวรัลที่ทำเอาชาวเน็ตจีนและต่างประเทศน้ำตาซึมทันที หลังจากผู้ใช้แพลตฟอร์ม Douyin (แอปโซเชียลคล้าย TikTok ในจีน) แชร์วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเจี้ยนหนิง มณฑลซานตง ประเทศจีน ซึ่งเผยให้เห็นเหตุการณ์สุดบังเอิญและกินใจของครอบครัวหนึ่ง เรื่องเริ่มต้นเมื่อหญิงคนหนึ่งพาลูกสาวตัวเล็กๆ ที่กำลังมีไข้สูงมานั่งรอพบแพทย์ในโรงพยาบาล ระหว่างนั้นเองเธอบังเอิญเห็นสามีของตัวเองเดินเหงื่อโทรมหน้าเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวอีกคน และกำลังอุ้มเด็กชายเข้าไปห้องฉุกเฉิน ทำเอาเธอชะงักไปชั่วครู่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประทับใจยิ่งกว่าคือ “ความจริง” ที่ตามมา... ชายคนนั้นคือเจ้าหน้าที่ดับเพลิง...

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุ แผ่นดินไหวขนาด 7.4 บริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 02:34 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีการอัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 02:46 น. เหตุ แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ครั้งนี้มีรายงาน แจ้งเตือนสึนามิ จากหน่วยงานท้องถิ่น พร้อมแนะนำให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงและหลีกเลี่ยงพื้นที่ชายฝั่ง เนื่องจากอาจมีคลื่นสูงกว่าระดับน้ำทะเลปกติภายใน 2 ชั่วโมงข้างหน้า ทั้งนี้ยังคงเกิด แผ่นดินไหวตาม (Aftershock) ต่อเนื่องในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเกาะกวมและหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียน ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ของประเทศไทยยืนยันว่า...