ข่าววันนี้

Home ข่าววันนี้ Page 5

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ตอบปม แก้มบุ๋ม โดนแซะ เรื่องบริจาคช่วยน้ำท่วมน้อย บอกลูกสาวไม่ต้องเสียใจทำต่อไป มีเงินช่วยเหลือสังคม

‘แม่ลี’ ศริญญา สิทธาไชย หรือ คุณแม่ของดาราสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินทางมอบเงินบริจาค 1 แสนบาท ให้กับ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ในงานรวมตัวเฉพาะกิจของนักร้องลูกทุ่ง และองค์กรทำดี ไลฟ์สดเพื่อหารายได้ไปช่วยฟื้นฟูโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่เซียร์รังสิต

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

หลังจากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงเรื่องที่ แก้มบุ๋ม ลูกสาวโดนชาวเน็ตแซะเรื่องบริจาคช่วยน้ำท่วมน้อย

มอบเงินบริจาค 100,000 บาทให้กับองค์กรทำดี? “ดีใจค่ะ แม่เป็นคนเตรียมตัวเรื่องการใช้จ่ายในชีวิต เพิ่งไปประเทศเกาหลีใต้ ที่โรงพยาบาลวิว แล้วได้เปอร์เซ็นออกมาตอนนี้ 60,000 หลังวันที่ 19 ก็ได้มาอีก 80,000 แม่ก็คิดว่าวันนี้เอาเงินที่แม่เป็นคนแก่แต่ดูแลสุขภาพเอามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมค่ะ”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

“ที่เลือกมาบริจาค องค์กรทำดี พี่บุ๋มพูดคำหนึ่งว่า ที่ประเทศไทยถ้าเรามีแสง เราเอาแสงมาช่วย แต่วันนี้คำพูดของแม่ลีก็คือ แสงรวมแสงสร้างความดี แม่ลีมีความรู้สึกว่าทุกคนหวงเงินหมด แต่แม่ลีด้วยอายุเราก็ต้องเก็บเงินไว้ใช้ แต่วันหนึ่งเราเอาเงินของเราออกมาช่วยคนแล้ว เราไม่เคยขอความช่วยเหลือใคร

วันนี้เห็นว่าแม่ลีจ่ายตังค์ช่วยจริงๆ แล้วแม่ลีจะโทรไปหาคนที่เขามีเงินขอความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เชียงรายและอีกหลายจังหวัด เพราะเราต้องเอาเงินเราก่อนแล้วเราจะไปขอความช่วยเหลือมันพูดง่าย เพราะบางคนเขาจะบอกว่าตัวเองทำไมไม่ช่วยล่ะแล้วยังมาขอคนอื่น แม่ลีทำอะไรก็แล้วแต่ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน แล้วค่อยไปขอความช่วยเหลือกับคนอื่น”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

“ที่พูดว่าทำไมถึงช่วยคุณบุ๋ม คุณบุ๋มลงทั้งแรงทุกอย่างทั้งที่ร่างกายยังไม่พร้อม แต่แม่ลีไม่ได้ลงร่างกายแต่หาเงินได้ ตอนนี้เวลาเรามาถึงทุกคนเรียกเราว่าแม่ลี แม่ยังไงต้องควักเงินช่วยลูก”

“แก้มบุ๋มก็ช่วย เมื่อวานแก้มบุ๋มบอกว่าหนูออกคนละครึ่ง เราบอกไม่เป็นไรลูก แม่ลีผลิตยาสีฟัน ประมาณ 2000 หลอด ที่จะไปช่วยทุกคน เพราะเขากินอาหารแล้วไม่มีน้ำ เราทำยาสีฟันที่ไปจ้างเขาผลิต เราช่วยทั้งเงินและสิ่งที่เรามี แสงบวกแสง เราช่วยคนต้องมีหลักฐาน ก็ขอแสง

อยากให้กำลังใจทุกคน ไม่รู้ว่ากรุงเทพฯ จะโดนวันไหน อยากให้ทำร่างกายให้แข็งแรงพร้อมจะว่ายน้ำหนี เอาตัวเองให้รอดก่อน เอาชีวิตเราไว้แล้วสิ่งของต่างๆ เดี๋ยวค่อยสร้างใหม่ ของนอกกายที่พังไปกับน้ำทุกคนก็เสียดายแต่ถ้าเรามีชีวิตรอดแล้วเดี๋ยวหาใหม่ค่ะ แม่ลีให้กำลังใจค่ะ”

แต่แก้มบุ๋มก็โดนแซะเรื่องบริจาค?
“โดนแซะ ก็บอกลูกว่า ลูกต้องช่วยหมา ต้องช่วยอะไรอีกเยอะแยะ แล้วลูกต้องช่วยคน ส่วนแม่ลีแม่ลีนั่งในรถบ้านของแก้มบุ๋มตั้งแต่เดือนพฤษภา แต่เมื่อวานนี้มีเรื่องราวของแม่ลีนั่งในรถตู้อย่างสวยงาม เหมือนมีคนมาคอมเมนต์แม่ลีว่า ถ้าออกไปอย่างนั้นมันไม่ดี คนอื่นเขานอนในโคลนกันแต่ตัวเองมานอนรถตู้มานอนรถบ้าน แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรานั่งนิ่งๆ ไม่ต้องยุ่งกับใคร ใครจะแซะยังไงเรามีตังค์ แล้วเรามีร่างกายที่แข็งแรง แล้วเราก็บอกลูกว่า ไม่ต้องเสียใจลูก แค่เรามีเงินแล้วทำงานช่วยเหลือคน ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์แค่นี้ก็มีความสุขแล้วลูก”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

แก้มบุ๋มเสียใจ?
เขาเสียใจเพราะว่าหมาเนี่ยต้องซื้อที่เป็นไร่เลี้ยง หมาเดินข้างถนน ขาหัก หมามดลูกพังเขาก็ต้องพาไปรักษาทีนึง 20,000 – 30,000 ไม่มีใครรู้ เวลาไปร้านอาหารมีหมามาสะกิดเขา รู้เลยว่าหมาตัวนี้มดลูกไม่ดี แล้วเขาก็เอาไปรักษา”

“แม่ลีมีแม่ที่นอนติดเตียง มีน้องที่ทำก่อสร้าง เพราะแม่ลีเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนไม่มีเงิน แต่เราเลี้ยงน้อง เลี้ยงแม่ แล้วก็ทำบุญ ที่เหลือเราช่วยสังคมแบ่งปัน แล้วบอกลูกว่าไม่เป็นไร ใครว่าอะไรลูกไม่ต้องเสียใจ บางคนพูดลบ แต่ความพูดลบของเขามันจะเป็นพลังของเรา เพราะเราไม่ได้ช่วยคนเดียว เงินหนึ่งแสนมันไม่พอ แต่เรารู้จักคนมากมายในประเทศไทยที่เขาเกรงใจเรา

และเราไม่เคยขอความช่วยเหลือใคร ณ วันนี้ที่แม่ลีมาอยู่ตรงนี้ ปกติแม่ลีจะแอบทำ ไม่ให้ใครรู้ แต่วันนี้แม่ลีออกมาเพื่อว่าจะไปขอเงินคนอื่นเพื่อเอามาสมทบทุน แต่ตัวเองต้องออกยาสีฟัน 2000 หลอดก่อน เงินอีกหนึ่งแสน แล้วก็ไปขอคนอื่นมันจะน่ารัก แต่ถ้าเราไปขอคนโน้นคนนี้แล้วตัวเองล่ะ มันไม่ได้ แสงบวกแสงสร้างความดี”

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! – วันที่ 17 ก.ย. เอเอฟพี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่ใน ประเทศเมียนมา (พม่า) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากก่อนหน้านี้ที่ 113 ราย เป็นอย่างน้อย 226 ราย และยังมีผู้สูญหาย 77 ราย ด้านองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่ามีประชาชนมากถึง 630,000 คนที่ต้องการความช่วยเหลือ

หลังพายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมตอนเหนือของเวียดนาม สปป.ลาว เมียนมา และไทยเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มในอาเซียนเพิ่มเป็นกว่า 500 ราย

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการเมียนมาระบุด้วยว่านาข้าวและพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรเกือบ 260,000 เฮกตาร์ หรือกว่า 1.6 ล้านไร่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเมียนมาราว 631,000 คน ประชาชนต้องการอาหาร น้ำดื่ม ที่พักพิง และเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน แต่เพราะถนนหลายสายถูกน้ำท่วมและสะพานพังเสียหายซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการช่วยเหลือ

หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาระบุว่า บ้านเรือนราว 150,000 หลังถูกน้ำท่วม ส่วนรัฐบาลทหารจัดตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์กว่า 400 แห่ง

และหลังจากรัฐบาลเผด็จการร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติปรากฏว่าจนถึงขณะนี้มีอินเดียเพียงประเทศเดียวที่ตอบสนองต่อคำร้อง โดยส่งสิ่งของจำเป็นจำนวน 10 ตัน รวมถึงอาหารแห้ง เสื้อผ้า และยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เปิดรายชื่อ 3 จังหวัด ของไทย ดีเปรสชั่นลูกใหม่จ่อถล่ม เตรียมรับมือ

วันที่ 17 ก.ย. 2567 เพจเฟสบุ๊ก ฝ่าฝุ่น โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า อัพเดทสถานการณ์ของดีเปรสชั่น 98W ออกจากชายฝั่งฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเวียดนามแล้ว กำลังผ่านน่านน้ำที่มีศักยภาพในการขุนพายุได้ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ทำให้เราต้องเฝ้าติดตามพายุลูกนี้ให้ดี เส้นทางคือผ่านตอนกลางของเวียดนาม มายังลาว เข้าสู่อีสานเหนือ ไปยั่ง น่าน พะเยา และ เชียงราย (อีกแล้ว)

ในอนาคตเมื่อโลกเดือดขึ้นเรื่อยๆ เราจะประสบกับความเหวี่ยงของฝนจากแล้งๆเป็นฝนบอมป์หรือพายุที่รุนแรงทวีกำลังได้เร็วมาก และสภาพฝนเหวี่ยงแบบนี้จะรุนแรงชึ้นเรื่อยๆ เราคงหยุดโลกร้อนไม่ได้มากเพราะมันตั้งอยู่พื้นฐานของความรักสบาย เห็นแก่ตัว และ ทุนนิยม

ดังนั้นสำหรับคนไทยมีวิธีสร้างภูมิคุ้มกันคือ

1. ปรับตัวกับสภาพที่ต้องอยู่กับน้ำ คงเหมือนสมัยปู่ย่าตายายที่เราอยู่กับคลอง น้ำท่วม ฯลฯ ได้โดยไม่เดือดร้อนเท่าไร น้ำเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

2. บริหารจัดการน้ำให้เก่ง เริ่มจากระบบเล็กๆด้วยการบริหารห้วยหลังหมู่บ้าน ขุดบ่อเก็บน้ำ (ทำโดยชาวบ้าน) ไปจนถึงระบบขนาดกลางและใหญ่ (ทำโดยราชการ) ให้มีความสามารถในการเก็บและชะลอน้ำไว้ได้ ให้มันลงเก็บใต้ดิน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรน้ำ

3. รักษาป่าไม้ให้สมบูรณ์

ขอบคุณ ฝ่าฝุ่น

ด่วน! เกิดอุบัติเหตุรถบัส ผู้โดยสารกว่า 20 ชีวิต จนท.เร่งนำสง รพ.

วันที่ 17 กันยายน 2567 มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เกิดอุบัติเหตุ รถบัสโดยสาร ป.1 สายนครราชสีมา-ขอนแก่น อุดรธานี เสียหลักลงร่องกลางถนน ที่เกิดเหตุบริเวณถนนมิตรภาพ ขาขึ้นจังหวัดขอนแก่น บ้านทุ่งมน อ.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เบื่องต้น มีผู้โดย 20 กว่าราย บาดเจ็บหลายราย จนท.นำส่งโรงพยาบาล 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล

ภาพจาก ข่าวบ้านไผ่

สอบถามทางด้านผู้โดยสารที่นั่งมาเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนรถยางแตก ก่อนที่รถจะส่ายและเสียหลักลงร่องกลางถนน ซึ่งจากจากตรวจสอบเบื่องต้นพบว่าที่บริเวณล้อหน้าขวายางแตก ขณะ จนท.ตำรวจ และ จนท.ทางหลวง ลงพื้นที่แล้ว

ภาพจาก ข่าวบ้านไผ่

เรียบเรียงโดย mumkhao

พ่อบุก รร. วีนฉ่ำ ลูกคิดเลข 4×5=20 ครูตรวจว่าผิด เฉลยคำตอบ 5×4=20 ยิ่งฉุน ต่างกันตรงไหน แต่ฟังครูอธิบายคำเดียว ต้องยอมขอโทษ

โจทย์คณิตศาสตร์ในบทเรียนของเด็กนักเรียนในสมัยนี้ แตกต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่อย่างสิ้นเชิง หลายข้อต้องใช้สมองคิดวิเคราะห์อย่างหนัก แม้กระทั่งผู้ใหญ่ยังคิดไม่ออก เมื่อช่วยลูก ๆ แก้โจทย์การบ้าน และก็มีหลายครั้งที่กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันไม่จบสิ้น ทั้งความไม่ชัดเจนของคำถาม วิธีคิดคำนวนที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่ข้องใจว่าคุณครูอาจจะตรวจคำตอบผิดพลาด

ดังเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งแสดงความไม่พอใจลงโซเชียลมีเดีย โดยชี้ให้เห็นว่าแบบทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ของลูกที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษา ถูกคุณครูตรวจอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้พลาดคะแนนในข้อดังกล่าวไป โดยโจทย์ข้อนี้มีอยู่ว่า มีนักเรียนนั่งเรียงกัน แต่ละแถวมี 5 คน เรียงกันเป็น 4 แถว รวมทั้งหมดมีนักเรียนกี่คน?

จากปัญหาข้างต้น ลูกของเจ้าของโพสต์จึงคำนวณได้ดังนี้ 4 x 5 = 20 คน แต่เมื่อส่งคำตอบไปกลับถูกครูขีดคำตอบดังกล่าวนั้น ผิด ซะงั้น พร้อมทั้งเฉลยวิธีคำนวณที่ถูกต้อง ว่าควรเป็น 5 x 4 = 20 คน ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์เหมือน แต่ทำไมคุณครูจึงตรวจให้ผิด

อย่างไรก็ตาม โพสต์ของคุณพ่อคนนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวโซเชียลอย่างรวดเร็ว เพราะคนส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วคำตอบคือ นักเรียน 20 คน ดังนั้น จึงไม่มีความแตกต่างว่าไม่ว่าจะใช่วิธีคำนวณ 4×5 หรือ 5×4

เมื่อเห็นเช่นนั้น คุณพ่อคนนี้จึงตัดสินใจไปสอบถามคุณครูถึงโรงเรียน หลังจากได้รับฟัง ครูประจำชั้นก็ยิ้มแล้วจึงอธิบายว่า หน่วยนี้ถามจำนวนคน เลยต้องใช้จำนวนคนคูณ ไม่ใช่จำนวนแถวที่จะคูณ คำตอบที่ถูกต้องก็สำคัญ แต่สิ่งสำคัญมากกว่า คือ นักเรียนเข้าใจปัญหาอย่างชัดเจน ในระดับผู้ใหญ่ 4×5 หรือ 5×4 ก็ไม่แตกต่างกัน แต่ในการเรียนระดับประถมศึกษา การคำนวณนี้จะต้องเป็น 5×4

ทั้งนี้ หลังจากได้ยินคำอธิบายและเข้าใจถึงวิธีการเรียนการสอนทั้งหมดแล้ว ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่นิ่งและเขินอายกับความจริงตรงหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้เอ่ยปากกล่าวตำหนิคุณครูไปแบบผิด ๆ เพราะแท้จริงแล้วผู้ที่ต้องทบทวนความรู้ก็คือตัวเขาเอง

ข้อมูล soha

สาว24 ถูกเอเจนซี่ หลอกแต่งงาน กับชายจีน อ้างรวย สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา

สาวถูกเอเจนซี่หาคู่ หลอกแต่งงาน กับชายชาวจีน อ้างโปรไฟล์หรู สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา ก่อนตัดสินใจหนี ซ้ำเสียรู้ให้เอเจนซี่ฮุบเงินสินสอด ไปกว่า 7 แสนบาท

วันที่ 17 ก.ย.67 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด นางสาวเฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 24 ปี อดีตพนักงานต้อนรับ เดินทางมาขอปรึกษากับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

หลังสาวถูกเอเจนซี่หาคู่ หลอกให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจ โปรไฟล์ดีมีคอนโดหรูหรา อยู่ประเทศจีน แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงต้องใช้ชีวิต อยู่อย่างลำบากในบ้านเก่าบนภูเขา ไม่มีห้องน้ำ จนต้องหนีกลับมาประเทศไทย ภายหลังพบว่าเอเจนซี่ยังได้ฮุบเงินค่าสินสอดไป กว่า 7 แสนบาท

ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีคนรู้จักมาแนะนำว่า มีเอเจนซี่ที่จะช่วยหาคู่ให้ ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อยากมีภรรยาเป็นคนไทย โดยจะได้ค่าสินสอดหลักแสน อยู่ดีกินดี มีครอบครัวที่ดี ตนจึงสนใจ และลองคุยกับฝ่ายชายผ่านทางแอปพลิเคชั่นวีแชท

โดยฝ่ายชายบอกโปรไฟล์ว่าเป็นนักธุรกิจ มีคอนโดหรูในเมือง ซึ่งคุยกันประมาณ 1 เดือน ก็คุยถูกคอตนจึงตอบตกลงที่จะไปจดทะเบียนสมรส และใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีน โดยเอเจนซี่ได้ให้เงินมา 9 หมื่นบาท ค่าสินสอด

สาว24 ถูกเอเจนซี่ หลอกแต่งงาน กับชายจีน อ้างรวย สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา

โดยทางฝ่ายชายได้ออกค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ทั้งหมด ตนเดินทางไปถึงวันที่ 20 ส.ค. พอไปถึงก็มีแฟนของเอเจนซี่พาฝ่ายชายมารับ จากนั้นก็ขับรถไป แต่ระหว่างทางเริ่มเป็นการขึ้นภูเขา ห่างไกลเมืองไปเรื่อย ๆ ตนก็แปลกใจว่าจะมีบ้านคนอยู่แถวนี้จริงๆ หรอ

พอไปถึงพบว่า เป็นบ้านหลังสุดท้ายบนภูเขา ห่างไกลจากชุมชนมาก ลักษณะเป็นฟาร์มแกะ ไร่ข้าวโพด ตนก็ถามฝ่ายชายว่าไหนบอกว่าจะพามาอยู่คอนโดหรูในเมือง ฝ่ายชายก็บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยว ต้องมาช่วยแม่ทำงานก่อน แล้วเดี๋ยวจะพากลับลงไปอยู่ในเมือง

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนไม่มีทางเลือกแล้วก็เลยลองอยู่ดูก่อน โดยฝ่ายชายได้พาไปจดทะเบียนสมรส แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ ปรากฏว่าลำบากมาก ไม่มีห้องน้ำต้องตักน้ำใส่กะละมังมาไว้ในห้องแล้วเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ ถ้าจะสระผมต้องรอสัปดาห์ละครั้ง ที่ฝ่ายชายจะพาลงไปใช้ห้องน้ำในชุมชน ส่วนการเข้าห้องน้ำ ก็ต้องไปขุดหลุมในไร่ข้าวโพด ตนจึงกลั้นไว้รอตอนไปสระผม ทำให้ท้องผูก และก็ไม่มีน้ำสะอาดให้กินด้วย

นอกจากนี้ ฝ่ายชายยังไม่ค่อยอาบน้ำ ทำงานในไร่ในฟาร์ม กลับมาก็ถอดชุดแล้วนอนเลย ตนทนนอนด้วยไม่ได้ ต้องไปนอนที่โซฟา ฝ่ายชายก็ไปฟ้องเอเจนซี่ว่าตนไม่ยอมนอนด้วย ซึ่งตนก็อธิบายปัญหาให้ฟัง แต่เอเจนซี่ก็ไม่ช่วยเหลืออะไร

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ตนสบโอกาสตอนที่แม่ฝ่ายชายเข้าไปในไร่ข้าวโพด ตนจึงหาทางหนีโดยต้องแอบเดินออกมาตามไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นขั้นบันไดที่มีเหวลึก ตอนนั้นรู้สึกเสี่ยงตาย แต่ถ้าอยู่ก็ไม่มีอะไร ดีจึงเดินมาเรื่อย ๆ ใช้เวลาเดินกว่าครึ่งวัน ก็มาพบกับชุมชน จึงขอให้ชาวบ้านช่วยมาส่งในเมือง และต่อรถบัส 4 ชั่วโมงมาที่สนามบินเพื่อรอเที่ยวบินกลับกรุงเทพ ฯ

อย่างไรก็ตาม ตอนที่ตนอาศัยอยู่กับฝ่ายชาย ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าหากทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะโดนต่อว่าพูดจาไม่ดี ทั้งนี้ตนก็รู้มาว่า มีกรณีของผู้หญิงคนอื่นที่หาคู่ผ่านเอเจนซี่รายเดียวกันนี้แต่เมื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศจีนแล้ว ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายด้วย

ต่อมาเมื่อตนเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว จึงได้ติดต่อหาเอเจนซี่ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าเอเจนซี่บังคับให้ตนกลับไป เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าปรับให้กับฝ่ายชาย 350,000 บาท เพราะฝ่ายชายได้ให้เงินค่าสินสอดมาแล้ว

ขณะที่ฝ่ายชายก็พยายามติดต่อมาหาตน และบอกว่าทำไมถึงต้องหนี เพราะให้เงินค่าสินสอดไป 8 แสนบาท พอที่จะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวได้แล้ว ยังไม่พอหรอ ทำให้ตนเพิ่งรู้ว่าเงินที่ฝ่ายชายให้มา เอเจนซี่เป็นคนเก็บไว้ และให้ตนมาแค่ 9 หมื่นบาท

จนถึงขณะนี้ตนก็ถูกเอเจนซี่ตามมาคุกคามและข่มขู่คนในครอบครัวว่า ถ้าไม่จ่ายค่าปรับก็จะฟ้องและบังคับให้เซ็นสัญญาเงินกู้ วันนี้จึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้พาเข้าแจ้งความเอาผิดกับเอเจนซี่ จึงอยากฝากเตือนผู้หญิงที่กำลังคิดจะหาแฟนเป็นคนจีนว่าให้ระวังด้วย

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะทางเอเจนซี่ได้รับเงินจากชายจีนมา 8 แสนบาท เพื่อทำการส่งหญิงไทยไป ซึ่งทีมงานจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์

ฝากถึงผู้หญิงไทยที่อยากมีสามีเป็นคนจีนว่าให้ระวัง เพราะเคยมีเคสที่ตนไปช่วยเหลือมาได้ เป็นหญิงชาวไทยที่ไปแต่งงานกับชายชาวจีน แต่มีลูกเป็นผู้หญิง จึงถูกทำร้ายทุบตีเพราะครอบครัวฝ่ายชายต้องการให้ได้ลูกชาย

ด่วน! เกิดเหตุรถไฟ ชนกับรถกระบะ เสียชีวิตหลายราย

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nonthawat Wisutthipat ได้รายงานภาพอุบัติเหตุ ระบุว่า บันทึกแจ้งเหตุ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 40 (สุราษฏร์-กรุงเทพอภิวัฒน์) กซข.ป2529 นายนิพัทธ์ อินทรสุภาพ พขร. นาย อนนท์ นุ้ยสุข พรร.. ยาว 3 โบกี้ ละแม ออก 10.08 ช้า 8 นาที เวลา 10.10 น.ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ จาก พขร.ข.40 ว่า ชนรถยนต์ มิตซูบิชิ สีขาว บริเวณ ทางลักผ่าน สทล.545 -15/16 ขบวนรถติดอยู่กับรถยนต์ (กีดขวางการเดินรถ) ระหว่าง ละแม.-คลองขนาน

เบื้องต้น นสน.ละแม ประสาน กู้ภัย ละแม พร้อมตำรวจ สภ.ละแม เข้าไปที่เกิดเหตุแล้ว ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็น รถกระบะ มิตซูบิซิ ทะเบียน บล.5779 ชุมพร เบื้องต้น เสียชีวิต 3 คน รอดชีวิต 1 คน ซากรถยนต์ อยู่บนราง กู้ภัย ละแม กับ จนท.ตำรวจ กำลังลากรถยนต์ ออกจากรางครับ

โพสต์

แม่ใจสลาย ลูก 1 ขวบ ถูกพบเสียชีวิตอยู่ในตู้ ปากอมเหรียญ พอรู้พี่เลี้ยงอยู่ไหนตอนเกิดเหตุ ยิ่งเดือดหนัก

ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งควรจะเป็นวันรวมญาติ อย่างไรก็ตาม มีข่าวเศร้าเกิดขึ้นในครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเขตเป่ยถุน เมืองไทจง เมื่อเด็กชายวัย 1 ขวบครึ่ง ถูกพบเสียชีวิตในตู้ที่บ้านของพี่เลี้ยงเด็ก ด้วยอาการขาดอากาศหายใจ พบในปากมีเหรียญและของเล่น

การสืบสวนของตำรวจเปิดเผยว่า เด็กที่เสียชีวิตถูกนำตัวไปอยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยงเด็ก อย่างไรก็ตาม ในเวลาเกิดเหตุพี่เลี้ยงเด็กได้ “ออกไปซื้อของ” คาดว่าเด็กชายคลานเข้าไปในตู้ประตูบานเลื่อนเพื่อเล่นคนเดียว อีกทั้งยังกลืน เหรียญ 1 หยวนและของเล่นเล็กๆ เข้าไป ส่งผลให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ทั้งนี้ยังพบว่ามีอาการบาดเจ็บหลายจุดตามร่างกายด้วย

ตามรายงานระบุด้วยว่า ผู้เป็นแม่ส่งเด็กชายไปอยู่บ้านพี่เลี้ยง ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ จ่ายค่าดูแลในราคา 25,000 หยวนต่อเดือน (มากกว่า 1 แสนบาท) โดยไม่คาดคิดว่าลูกจะเสียชีวิตในอีก 6 เดือนให้หลัง เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ใหญ่อย่างไรก็ดี แม่ของเด็กชายเปิดเผยด้วยว่า เธอพบรอยฟกช้ำที่หลังและหน้าผากของลูกชาย เมื่อตอนไปเยี่ยมลูกเมื่อ 5 วันก่อน

การสอบสวนโดยสำนักงานกิจการสังคมพบว่า พี่เลี้ยงเด็กรายนี้ รับเด็กอยู่ในความดูแลพร้อมกันถึง 4 คน แต่กลับไม่มีใบอนุญาตพี่เลี้ยงเด็ก ตามคำสารภาพเธอเล่าว่า ในวันเกิดเหตุเธอพาเด็กคนหนึ่งออกไปข้างนอกด้วย ส่วนเด็กอีก 3 คนอยู่ในบ้าน ภายใต้การดูแลของลูกๆ ที่โตแล้วของเธอ แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน ก็พบเด็กชายอยู่ในตู้เสื้อผ้าด้วยใบหน้าซีดเซียวเธอรีบทำให้เด็กคายเหรียญและของเล่นออกจากปาก

อย่างไรก็ดี สุดท้ายเด็กชายยังคงเสียชีวิตหลังจากถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลฉุกเฉิน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บทั้งเก่าและใหม่เป็นบริเวณกว้างทั่วร่างกาย ซึ่งในเรื่องบาดแผลตามร่างกายนั้น พี่เลี้ยงเด็กแย้งว่า มาจากการหกล้มหรือตีเขาเมื่อซุกซนเท่านั้น โดยปฏิเสธว่าไม่มีการล่วงละเมิดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุการตายที่แท้จริงยังคงอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่

เตือนด่วน! พายุซูริคเข้าไทยทั้งลูก ในอีก 96 ชั่วโมง เปิดเส้นทางจังหวัดที่ต้องเตรียมรับมือ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 67 เวลา 07.00 น มีรายงานรูปร่างตัวพายุซูริค วันนี้ก่อตัวที่บริเวณทะเลจีนใต้ คาดการณ์ว่าวันที่ 18 พายุจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม เข้ามายังประเทศไทยตอนบน จะทำให้จังหวัดทางภาคอีสาน มีฝนตกหนัก รวมทั้งจังหวัดทางภาคเหนือ จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบหนัก เช่น น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ รวมทั้งพื้นที่ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก บางพื้นที่ อาจจะได้รับผลกระทบด้วย

ทั้งนี้ ถ้าพายุลูกนี้ไม่ยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทาง อาจจะเกิดน้ำท่วมซ้ำเติมในหลายพื้นที่ จึงขอประกาศเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ภาพแผนที่อากาศ

เรียบเรียงโดย mumkhao

สุดทน”ฝันเด่น”ซัดรัฐบาลนั่งโต๊ะ ปมน้ำท่วมเชียงราย ลั่นออกมาดูประชาชนบ้าง

จากสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ต้องนี้น้ำเริ่มลดลงแล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการที่ภาครัฐต้องเข้ามาเยียวยาประชาชนที่บ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้

สุดทน\"ฝันเด่น\"ซัดรัฐบาลนั่งโต๊ะ ปมน้ำท่วมเชียงราย ลั่นออกมาดูประชาชนบ้าง

ล่าสุดทำเอา “ฝันเด่น จรรยาธนากร”อาสาสมัครกลุ่มใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ถึงกับเดือดกลางไลฟ์ ขออาสาเป็นตัวแทนประชาชนพูดความในใจจากคนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยพูดถึงการทำงานของรัฐบาลว่า…

สุดทน\"ฝันเด่น\"ซัดรัฐบาลนั่งโต๊ะ ปมน้ำท่วมเชียงราย ลั่นออกมาดูประชาชนบ้าง

“รัฐบาลแบ่งนั่งโต๊ะออกมาหน้างานบ้างเน้อ พวกข้างใน พวกแอร์เย็นๆ ไม่รู้หรอกว่าประชาชนรู้สึกยังไง ออกมาบ้างนะ จะเห็นมาตลอดในพื้นที่ภัยพิบัติว่าเราเจออะไรบ้าง เห็นอะไรบ้างเราเรียนรู้ความเจ็บใจเรื่องของสิ่งที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ว่ะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้วะ ทำไมไม่เต็มที่กว่านี้วะ ถ้าเกิดไม่มีอาสาสมัครแบบพวกเราๆ ไม่ใช่แค่ผมนะ หมายถึงอาสาทั่วไปในกลุ่มจิตอาสา ผมว่าเจ๊ง บอกเลยว่าเจ๊ง เจ๊งนี่หมายถึงคนที่มีหน้าที่โดยตรงที่กินภาษีประชาชน กูว่าโดนถลกหนังหัวแน่นอนเลย แต่นี่ดีที่มีอาสาเข้ามาบรรเทาไง เขาเลยลืมไปไง ถูกไหม

สุดทน\"ฝันเด่น\"ซัดรัฐบาลนั่งโต๊ะ ปมน้ำท่วมเชียงราย ลั่นออกมาดูประชาชนบ้าง

เพราะเขามีคนอื่นมาซัปพอร์ตให้ไง แล้วตัวเองก็นั่งเช็กชื่อไป จริงๆ น่าจะลงมาบริหารจัดการ รวบรวมสรรพกำลัง เขาคนเยอะแยะ เจ้าหน้าที่ ทำด้วยหน้าที่ บางครั้งหน้าที่มันจบที่ 4 โมงเย็นรึเปล่าวะ แล้วหน้าที่มันกำเนิดตอน 8 โมงเช้าหรือเปล่า วันเสาร์-อาทิตย์ติดขัด วันหยุดราชการ อะไรก็ไม่รู้ ให้พูดตรงๆ วันนึงถ้าเป็นคนปากหมามากๆ ก็อยากจะถลกหนังหัวเลยนะ แล้วบอกเฮ้ย! มึงทำอย่างนี้เพื่ออะไรกัน

สุดทน\"ฝันเด่น\"ซัดรัฐบาลนั่งโต๊ะ ปมน้ำท่วมเชียงราย ลั่นออกมาดูประชาชนบ้าง

พวกเรามากันด้วยทุนตัวเอง ทุนชาวบ้านเพื่อมาช่วยกัน อาสาบางคนยอมลา ยอมออกจากงานเพื่อมาช่วยคน แล้วไปหางานใหม่ คิดดูว่าเขาเสียสละแค่ไหน แต่อย่างผมเขาไม่ให้ค่าหรอก เพราะไม่อวยเขา แต่ก็ไม่ใช่ประเด็น ผมไม่ได้มีหน้าที่ต้องอวยใคร ผมมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น แต่ผมก็ไม่ได้ว่าแบบเหมาเข่งหรอกนะ ผมรู้ว่ายังมีคนที่ใจดี มีใจอยากจะช่วยประชาชนแต่เขาก็ต้องรอคำสั่ง มันยังมีคนดีอยู่เยอะ ฉะนั้นเราต้องเอาคนดีขึ้นมามีอำนาจ มีตำแหน่ง เพื่อจะเอาคนดีมาผลักดันคนดี เพื่อประชาชน มันต้องเป็นอย่างนั้น”

Popular Posts

My Favorites

เปิดเส้นทางรัก อ๋อม อรรคพันธ์-ดาเรีย ภรรยาผู้อยู่เคียงข้าง จนนาทีสุดท้าย

0
เปิดเส้นทางรัก อ๋อม อรรคพันธ์-ดาเรีย ภรรยาผู้อยู่เคียงข้าง จนนาทีสุดท้าย  นับเป็นความโศกเศร้าของเพื่อนพ้องคนในวงการบันเทิง และครอบครัวจำนวนมาก หลังจากที่สูญเสียพระเอกมากฝีมือ อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร อย่างไม่มีวันกลับ ในวัย 39 ปี ด้วยโรคมะเร็ง และมีอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนฮือฮานั่นคือการปรากฏตัวของ ดาเรีย เชฟรุก หญิงสาวชาวต่างชาติ ภรรยาของพระเอกหนุ่ม ซึ่งไม่เคยมีแฟน ๆ คนไหนทราบข่าวมาก่อนว่าพระเอกหนุ่มได้สมรสมีภรรยาแล้ว ทำให้ทุกคนพากันให้ความสนใจในเธอเป็นอย่างมาก และอยากจะรู้ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสอง สำหรับเส้นทางรัก อ๋อม-ดาเรีย รู้จักกันนานกว่า 4 ปี...