ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 15
Featured posts

เกือบปีไร้เยียวยา สาวเหยื่อกระสุนซ้อมยิงปืน ซ้ำเป็นหนี้กว่า 6 หมื่น โร่ร้องขอความเป็นธรรม

วันที่ 17 ก.ค.67 น.ส.ปิกน้อย โชติยา อายุ 58 ปี และ นายกวาง บานกลีบ อายุ 67 ปี ชาว อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แม่และพ่อเลี้ยงของ น.ส.ฤทัยวรรณ กมลเลิศ อายุ 29 ปี เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ กรณี น.ส.ฤทัยวรรณ ถูกกระสุนปืนปริศนาเจาะเข้าบริเวณราวนม ระหว่างไปหาหอยกับสามีและเพื่อนรวม 3 คน บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสง่า ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย.66

ต่อมาวันที่ 23 ก.ย.66 ตำรวจ สภ.ละหานทราย แจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นชายอายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายร้านขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย โดยผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่าซ้อมยิงปืนแล้วกระสุนเกิดพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต

แต่เหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 1 ปี ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยเห็นกระทั่งหน้าของผู้ก่อเหตุเลย ไม่เคยมีคำขอโทษจากตัวผู้ก่อเหตุหรือครอบครัวเลย แม้แต่เงินเยียวยาหรือช่วยเหลืองานศพก็ไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว ซ้ำครอบครัวยังต้องเป็นหนี้ที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงเกรงว่าลูกสาวจะตายฟรี

น.ส.ปิกน้อย กล่าวว่า การที่ตนสูญเสียลูกสาวก็ทำให้คนเป็นแม่ทุกข์ทรมานใจอยู่แล้ว ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท ยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ แต่ตัวคนก่อเหตุและทางครอบครัวกลับไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย แถมยังใช้ชีวิตได้ปกติ จึงอยากฝากถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว และครอบครัวที่ต้องสูญเสียด้วย หากคู่กรณีไม่มีสำนึกที่จะเยียวยาอะไรเลย ก็อยากให้ลงโทษตามกฎหมายถึงที่สุด อย่าให้ลูกต้องตายฟรี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมก็รับเรื่องไว้ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการเรื่องคดี และเงินเยียวยาจากกระบวนการยุติธรรมให้แม่ของผู้เสียชีวิตได้รับทราบในเบื้องต้นด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.อ มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย ก็ได้รับการเปิดเผยว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีทราบว่า หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ก็ได้สอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า คืนวันเกิดเหตุซ้อมยิงปืนจริง และหลังจากทราบว่ากระสุนไปโดนคนเสียชีวิต ก็หลบหนีไปต่างจังหวัดก่อนจะถูกจับกุม

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา แล้วสรุปสำนวนพร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวชั้นศาลและต่อสู้คดีตามกระบวนการ ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานอัยการตรวจสำนวนเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน แต่หากทางครอบครัวไม่สบายใจก็สามารถสอบถามทางพนักงานสอบสวน หรือติดต่อทางพนักงานอัยการเพื่อสอบถามรายข้อมูลได้

หนุ่มขับรถจักรยานยนต์ส่งของ เจอรถบรรทุกกำลังจะถอย เกือบจะมาชน ตัดสินใจบีบแตรเตือนคนขับ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 เพจ เจ๊ม้อย v+ เจ้าพ่อรถบรรทุก ?? ไรเดอร์โดนฟันศรีษะ เหตุเพราะแพ้เสียงแตร สงสัยคงบีบหัวใจรถบรรทุก คนขับรถบรรทุกกับคนนั่งข้าง ก็ลงมาจาก รถพร้อมอาวุธ มาทำร้ายหนุ่มโดยที่ใช้มีดฟันที่ศรีษะ น้องยืนยันนะคะ ว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว จนตอน นี้ยังจับตัวไม่ได้ ได้ทำงานขับรถตามปกติเหตุเกิดมา 3 เดือนกว่า ซอยนวมินทร์ 111 แยก 9

โดยในคลิปอธิบายว่า จักรยานยนต์กำลังจะไปส่งของ แล้วรถบรรทุกกำลังถอยออกมา แล้วเป็นรถใหญ่ถ้าถอยออกมา เราเป็นรถเล็กๆจะมองไม่เห็นก็เลยบีบแตร เพราะว่าเขากำลังจะชนแล้ว แล้วพอบีบแตรเขาก็เลยมองหน้า ก็ไม่ได้อะไร ก็ไปส่งของจากที่หนึ่งต่อ จากนั้นรถบรรทุกก็ขับมาชนแล้วก็มาฟั นหัว พาเพื่อนมารุม (แฟนคนขับจักรยานส่งของเล่าเหตุการณ์)

พ่อป่วยหนักหายใจไม่ออก โรงพยาบาล ไล่กลับบ้าน สุดท้าย!! พ่อเสียชีวิต ลูกสาวร่ำไห้ เดือนหน้าจะรับปริญญาแล้ว พ่อยังไม่ได้เห็นเลย

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 67  ที่ วัดสระเพลง ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา มีการประกอบพิธีฌาปนกิจ นายสมพร รัศมี อายุ 50 ปี ชาว สปป.ลาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของชาวบ้านที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะทางภรรยา และลูกสาว ของนายสมพร ที่สวมชุดครุย คณะวิยาการจัดการ เอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มาร่วมพิธีฌาปนกิจผู้เป็นพ่อ ยืนกอดรูปร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก

เนื่องจาก นางสาว วรรณภรณ์ สีสม อายุ 25 ปี เพิ่งเรียนจบและเตรียมเข้ารับใบปริญญาบัตรในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ นอกจากนี้ทางนางสาววรรณภรณ์ เตรียมตัวเป็น ว่าที่เจ้าสาว เนื่องจากกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย แต่ทางนายสมพร ผู้เป็นพ่อนั้นมาเสียชีวิตอย่างกระทันหันไปเสียก่อน ยังไม่ทันเห็นลูกสาวได้ใส่ชุดครุย ทางนางสา ววรรณภรณ์ จึงสวมชุดครุยมาร่วมพิธีในครั้ง เพื่อให้พ่อใด้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจ

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทาง นายอธิบดี ภัทรกวิน อายุ 30 ปี ลูกเขยของนายสมพร ได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชน หลังจากนายสมพร นั้นมีอาการป่วยและไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน ทางโรงพยาบาล ปฏิเสธการรักษา ก่อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง

แต่เนื่องจากอาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปหาหมออีกครั้ง จนอาการทรุดลงทางโรงพยาบาลดังกล่าว จึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชฯ แต่กว่าจะไปถึงอาการ นายสมพร ทรุดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเสียชีวิตในเวลาต่อมา นายอธิบดี เล่าให้ฟังว่า นายสมพร ได้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของคืนวันที่ 21 ก.ค. ด้วยอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก โดยไปยังห้องฉุกเฉิน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 3-4 คน โดยในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลไม่เชื่อว่า ทางนายสมพรนั้นมีอาการวิกฤตจริง ทางเจ้าหน้าที่เลยแจ้งว่า รพ. ช่วงเวลานี้รับเฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยวิกฤตจริงเท่านั้น ตอนนี้มาทำไม ทำอะไรไม่ได้ พร้อมกับให้กลับบ้านและปฏิเสธการรักษาท่าเดียว

ซึ่งเวลานั้นทางครอบครัวได้ขอร้องให้ทางโรงพยาบาลรับนายสมพรเอาไว้ เพื่อนอนรอดูสังเกตุอาการแต่ทางโรงพยาบาลได้ทำการปฏิเสธ และไล่นายสมพร ลงจากเปลผู้ป่วยให้มานอนตรงที่นั่งพักรอคิว ในขณะนั้นทางนายสมพรนั้นอาการเริ่มทรุดหนัก สังเกตจากสีหน้าเพราะไม่สามารถนั่งได้แล้ว นอกจากนี้ทางโรงพยบาลได้มีการตำหนินายสมพร ว่า ทำไมถึงไม่ใส่หน้ากากอนามัยมา จึงให้แม่ยายของตนนั้น วิ่งออกไปซื้อหน้ากากอนามัยหน้าโรงพยาบาล เพื่อมาใส่ให้กับนายสมพร ก่อนที่จะให้กลับบ้านพร้อมจ่ายยาที่ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับอาการป่วยของนายสมพร

ซึ่งยาที่ให้มานั้น มียาบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ ยาลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกลือแร่ ซึ่งจากรับยาทางโรงพยาบาลก็ให้กลับไปบ้าน และบอกว่าให้มาใหม่ในช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ค. แต่หลังจากกลับไปบ้านแล้ว นายสมพรอาการไม่ดีขึ้น พร้อมกับทรุดหนักลงกว่าเดิม โดยอาเจียนเป็นเลือด ซึ่งทางญาติจึงได้นำตัวนายสมพรไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งตอนเวลา 06.00 น. กว่าจะได้รักษาก็เวลา 08.00 น.

ซึ่งหลังจากไปรอบที่ 2 ทางหมอและพยาบาลก็ได้ตรวจร่างกายและอีกหลายอย่างก่อนที่จะเห็นว่า อาการไม่ดีขึ้น เกินความสามารถในการรักษาของโรงพยาบาล จึงได้มีการส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลมหาราชฯ ซึ่งกว่าจะมาถึงและเข้ารับการรักษาก็เป็นเวลา 11.00 น. แล้ว ซึ่งขณะกำลังรักษาอยู่ที่ รพ.มหาราชฯ นั้น ทางแพทย์และพยาบาลก็ให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายนายสมพร ได้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ก.ค.

ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งแรก เนื่องจากตนรู้สึกว่า การดูแลรักษาคนไข้นั้นไม่เต็มที่ และมารยาทก็ไม่ดี ทั้งเรื่องการให้นายสมพร พ่อตาของตน ลงจากเปลไปนอนอยู่ที่นั่งรอคิว รวมไปถึงการตำหนิเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ทำไมถึงต้องให้ทางแม่ยายของตนนั้นวิ่งออกไปหาซื้อหน้ากากอนามัย ทั้งที่ทางโรงพยาบาลน่าจะมีแค่ 1 ชิ้น ก็ให้ไม่ได้เลยเหรอ นายอธิบดี เล่าต่อว่า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทางตนและครอบครัวของแฟนได้มีการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เข้าตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น

ซึ่งหลังจากร้องเรียนไปไม่นานทาง ผอ.โรงพยาบาลได้ติดต่อเข้ามาพูดคุย เพื่อหาทางเยียวยาต่างๆ แต่พฤติกรรมของทางโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่ เนื่องจากในวันเผา 28 ก.ค. ทางโรงพยาบาลนั้นก็ไม่ได้ส่งตัวแทนมารวมไปถึงพวงหรีด เพื่อแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ตนรู้สึกรับไม่ได้กับเรื่องนี้ และเตรียมที่จะดำเนินการให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก

ด้านนางสาววรรณภรณ์ ลูกสาวของนายสมพร เล่าให้ฟังว่า ที่ตนใส่ชุดครุยมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้พ่อเห็น เพราะพ่อนั้นยังไม่เคยเห็นตนใส่ชุดครุยสักครั้ง ซึ่งตนจะเข้ารับปริญญาในวันที่ 21 ส.ค. นี้ และจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้ แต่ทางพ่อนั้นไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ต้องมาเสียชีวิตไปเสียก่อน

ซึ่งตนก็สงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ รพ.ดังกล่าว เพราะพ่อของตนไปรับการรักษาตอนตี 3 ทางเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธการรักษาพร้อมไล่กลับบ้าน ซึ่งถ้าหากในวันนั้นเจ้าหน้าที่รับพ่อของตนไว้รักษา อาจทำให้มีโอกาสรอดชีวิต ถึงแม้จะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากให้ทางรพ. ออกมาชี้แจงรายละเอียดว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่รับพ่อของตนไว้รักษาตั้งแต่แรก ซึ่งทางแม่ของตนและพี่ชายก็พยายามบอกให้ทางโรงพยาบาลรับตัวพ่อเอาไว้ เพื่อดูอาการ เพราะอาการพ่อของตนนั้นไม่ดี แต่ทางโรงพยาบาลกลับปฏิเสธพร้อมกลับให้ไปรักษาตัวที่บ้าน จนกระทั่งอาการพ่อของตนนั้นทรุดหนัก ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราช ก็สายเกินไปจนพ่อของตนนั้นเสียชีวิตในที่สุด

เด็ก 4 ขวบไม่รู้ พ่อเสียชีวิตแล้ว ระหว่างมาเซอร์ไพรส์วันเกิด

จากกรณีเรื่องราวสะเทือนใจของครอบครัวนายสัญญา อายุ 31 ปี พ่อเลี้ยงเดี่ยวชาว ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่ดูแลลูกลำพังตั้งแต่แรกคลอด ในวันเกิดอายุครบ 4 ขวบของลูกชาย นายสัญญาซื้อของเล่นเป็นรถตักจำลอง แล้วขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าสายฝนจะเอาไปเซอร์ไพรส์ลูกที่รักษาตัวจากการป่วยไข้หวัดใหญ่อยู่ที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม

แต่ของเล่นกลับไปไม่ถึงมือลูกน้อย เมื่อนายสัญญาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง หลังจากทราบเรื่องราว เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือได้นำเอาของเล่นที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเค้กวันเกิดปักเทียนเลข 4 ไปเซอร์ไพรส์เด็กน้อย โดยที่ยังไม่มีใครกล้าบอกว่าคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว

นางอลิษา อายุ 52 ปี ป้าของนายสัญญา เล่าทั้งน้ำตาว่า นายสัญญาเป็นหลานชาย ทั้งพ่อและแม่ของนายสัญญาต่างก็เสียชีวิตหมดแล้ว ส่วนนายสัญญาเคยแต่งงานมีภรรยา หลังภรรยาคลอดลูกไม่ถึงเดือนก็หย่าร้างกัน ตอนนั้นนายสัญญาอุ้มน้องน้ำ ลูกชายวัยแบเบาะมาหาตน พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย บอกกับตนว่าช่วยเลี้ยงลูกชายคนนี้ให้ด้วย เพราะกังวลว่าตัวเองเป็นผู้ชายคงเลี้ยงดูได้ไม่ดีแน่ ตนจึงรับเลี้ยงน้องน้ำตั้งแต่นั้นมา ส่วนนายสัญญาต้องไปทำงานรับจ้างหารายได้

ก่อนเกิดเหตุสลด น้องน้ำป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม ตนกับหลานชายจึงมีการผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแล

วันที่เกิดเหตุตนได้โทรบอกหลานให้มาเปลี่ยนเวรดูแลน้องน้ำ ตอนนั้นฝนตกอยู่ ตนก็เตือนว่าให้รอฝนซาก่อนค่อยออกมาเปลี่ยนเวรกัน ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุรับวันเกิดลูกชาย ตนทราบข่าวเพราะมีญาติโทรมาบอกให้ไปดูหน่อยว่าเป็นรถของนายสัญญาหรือไม่ ขณะนั้นในใจภาวนาว่าถ้าเป็นหลานชาย ขอให้ปลอดภัย

พอไปถึงที่เกิดเหตุ ตนเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยคลุมผ้าขาวแล้ว จึงขอดูหน้าผู้เสียชีวิต ปรากฏว่าเป็นหลานชายตนจริง ถึงกับช็อคปล่อยโฮทันที ยิ่งตรวจดูที่กระเป๋าสะพายพบรถของเล่นแบคโฮ ที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ลูกชายในวันเกิดที่ 29 กรกฎาคมนี้ ทำให้ตนแทบเป็นลมเพราะของขวัญวันเกิดไปไม่ถึงมือลูกชายเขา มาถึงตอนนี้ ยังไม่กล้าบอกหลานชาย และร่วมอวยพรจัดวันเกิดให้ โดยไม่กล้าบอกว่าพ่อเสียแล้ว

หนุ่มเมาไม่ได้สติ ถูกเพื่อนทิ้ง มุดท่อระบายน้ำ โผล่ออกมานอนข้างถนน

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 21 ก.ค. 67 ศูนย์วิทยุสภ.แม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุคนนอนหมดสติ อยู่บริเวณกลางถนนบริเวณทางเข้าบ้านซอย 6 ประมาณ 200 เมตร ที่เกิดเหตุพบชาย 1 คน อายุประมาณ 20 กว่าปี พูดจาสับสนเสื้อผ้าเนื้อตัวใบหน้ามอมแมมไปด้วยขี้โคลน นอนหมดสติคว่ำหน้า อยู่ปากท่อระบายน้ำข้างถนน

สอบถามเจ้าตัวให้การว่าไปดื่มเหล้ากับเพื่อนและถูกเพื่อนทิ้ง ก่อนจะได้มุดท่อออกมา และพูดจาอยู่ในอาการมึนเมา พูดวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมลุกไปไหน เจ้าที่กู้ภัยจึงเกลี้ยกล่อมให้ไปนอนในที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายรถยนต์ทับได้ จากนั้นเจ้าที่กู้ภัยได้นำตัวขึ้นรถพามานอนที่หน้าหน่วยชีพเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสันนิษฐานว่า ชายคนดังกล่าวอาจจะไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมาได้ที่และครองสติไม่ได้ก่อนที่จะคานลงไปในท่อระบายน้ำ และโผล่ขึ้นมายังจุดที่เกิดเหตุ โชคดีที่ออกมาจากท่อได้ จนมีชาวบ้านมาพบนอนหมดสติอยู่ริมตะแกรงเหล็กปากท่อแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือได้ทัน

ด่วน! ‘ชาย’ กระโดดสะพานพระปิ่นเกล้า จนท.ระดมกำลัง เร่งค้นหา

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 22.20 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รับแจ้งจากฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ เหตุประชาชนกระโดดสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ กำลังไปที่เกิดเหตุ

ต่อมา เวลา 22.29 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ ถึงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเป็นเพศชาย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหา

แจงดราม่า พี่จอง-คัลแลน เที่ยวเกาะปันหยี ปมจ่ายแพง ชี้เป็นราคาปกติ

แจงแล้ว ดราม่า พี่จอง-คัลแลน เที่ยวเกาะปันหยี จ่ายแพงทุกอย่าง ค่าเรือ-ค่าอาหาร-ของที่ระลึก เผย เป็นราคาปกติ วอนหยุดสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้าน

จากกรณีดราม่าหลังจากคลิปรายการท่องเที่ยว ช่อง Cullen Hateberry ตอนล่าสุด กระบี่ EP2 ที่พี่จองและคัลแลน ไปเที่ยวที่เกาะปันหยี เผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า พี่จอง และคัลแลน สองหนุ่มถูกเอาเปรียบ

ทั้งเรื่องค่าเดินทางที่แพง ของฝากที่ราคาสูง รวมทั้งของกิน โดยค่าเรืออยู่ที่ 1,000 บาท, ของฝากที่ซื้อ เป็นหอยมุก 500 บาท กับสร้อยข้อมือ 300 บาท รวมเป็น 800 บาท แต่เมื่อพี่จองขอให้ป้าที่ขายช่วยลดราคาให้ ป้ากลับบอกว่า แถมสร้อยให้อีกเส้น รวมเป็น 1,000 บาท

แจงแล้ว ดราม่า พี่จอง-คัลแลน เที่ยวเกาะปันหยี จ่ายแพงทุกอย่าง ค่าเรือ-ค่าอาหาร-ของที่ระลึก เผย เป็นราคาปกติ วอนหยุดสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้าน

ล่าสุด นางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด ชี้แจงเรื่องอาหารแพง ว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟ่ต์หรือเมนูตามสั่ง ส่วนปลานั้น ที่แพงอาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็น ๆ ที่มีราคาสูงในกระชัง นำขึ้นมาปรุงก็ได้

นางยาวาเราะห์ กล่าวยืนยันว่า ทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า ส่วนร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือ แต่ละร้านก็ตั้งราคากันเอง และมีอยู่หลายร้าน ซึ่งผู้ซื้อผู้ขายสามารถต่อรองราคากันตามพอใจ

นางยาวาเราะห์ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดการแชร์การคอมเมนต์ที่สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยว จะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง

ด้าน นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำในพื้นที่ หลังจากทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของค่าเรือ 1,000 บาทนั้น พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท จึงเป็นราคาปกติ

นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของฝากจากหอยมุกนั้น สอบถามจากคนขายพบว่า คนซื้อเลือก 2 ชิ้น 800 บาท และอยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น รวมราคา 1,100 บาท และลดเหลือ 1,000 บาท โดยไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด

นายประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลก์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ch3plus.com

น้ำป่าเขาใหญ่ทะลักกลางดึก อุทยานเขาใหญ่สั่งปิดด่วน 3 แหล่งท่องเที่ยว

วันที่ 30 ก.ค. 2567 จากสภาพฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ตลอดทั้งวันทั้งคืนติดต่อกัน และได้เกิดน้ำป่าจาก อุทยานแห่งเขาใหญ่ไหลหลากมาจาก น้ำตกแก่งหินเพิง บนคลองใสใหญ่ลงพื้นที่ ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่บ้านสะพาน ม.5 ต.สะพานหิน อ.นาดี ชาวบ้านต้องหนีตายหนีน้ำกันจ้าละหวั่น รวมทั้งสิ่งของมีค่า สัตว์เลี้ยง เช่น หมูไว้ยังที่ปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ทหารจากปราจีนบุรี ปภ.อาสา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (กบินทร์บุรี) ต้องนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในร่วม 200 หลังคาเรือน ถูกตัดขาดออกมาไว้ด้านนอก เช่น เด็กเล็ก สตรี ผู้สูงอายุ และหมูออกจากฟาร์มอย่างยากลำบาก เพราะกระแสน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางพื้นที่ระดับสูงเกือบ 2 เมตร

นายดำริห์ รัตนชินกรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวจ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของสวนศักดิ์สุภารีสอร์ต และผู้ประกอบการล่องแก่งหิน ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โพสต์ภาพน้ำท่วมรีสอร์ตที่ตั้งติดคลองใสใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า เป็นผู้ประสบภัยชั่วคราว น้ำจากบนเขาเริ่มลดลง ระดับน้ำที่รีสอร์ตเริ่มทรงตัว คาดว่าตีสามน่าจะค่อยๆ ลดลง พรุ่งนี้เช้าคงจะตรวจสอบความเสียหายได้ แต่คงไม่มาก เนื่องจากลูกน้องมาช่วยยกของขึ้นที่สูง อาทิตย์หน้ารับลูกค้าได้แน่นอน

ด้านนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ด้านบน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝนตกตลอดต่อเนื่องทั้ง และได้มีประกาศแจ้งการงดบริการท่องเที่ยวที่น้ำตกตะคร้อ ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากระดับน้ำแรงเชี่ยวกรากมีปริมาณสูง

และอีก 1 แห่งคือที่คลองใสใหญ่ ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวที่มีการผจญภัยล่องแก่งหินเพิง พบมีระดับน้ำสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้เอ่อบนถนนแล้วในขณะนี้ โดยน้ำป่าไหลหลากจึงสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งดังกล่าวเพิ่มต่อไปอีก 1 วัน คือในวันนี้ 30 ก.ค. 67 ปิดต่อไปเป็นวันที่ 2 ต่อเพิ่ม พร้อมกับได้พิจารณาให้ปิดแหล่งท่องเที่ยว น้ำตกนางรองจนครนายก เพิ่มอีก 1 แห่งในวันนี้ 30 ก.ค. 67 ขอให้ประชาชนด้านล่างระวังจะถูกน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้

เศร้า! ชายวัย 66 ป่วยรุมเร้าหลายโรค แต่ยังต้องออกเรือหาเลี้ยงชีพ เพราะครอบครัวไม่มีรายได้ สุดท้ายวูบเสียชีวิตในน้ำ

เมื่อเวลา 07:30 น. วันที่ 30 ก.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขลุง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในคลองขลุง สาเหตุคาดว่าตกน้ำ ภายในคลองขลุงริมป่าชายเลน ตรงข้ามกับร้านอาหารฟาร์มปูนิ่ม ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ต้องนั่งเรือออกไปห่างฝั่งประมาณ 300 เมตร ก่อนจะพบศพอยู่ภายในคอกเลี้ยงหอยนางรมของชาวบ้าน ใกล้เคียงกับป่าชายเลน เป็นพื้นที่เขต หมู่ 10 ต.เกวียนหัก อ.ขลุง สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อกันฝนสีม่วง ด้านในสวมเสื้อ กางเกงขาสั้น มือข้างซ้ายกำเชือกของคอกเลี้ยงหอยไว้แน่น ผู้เสียชีวิต เป็นชาย อายุ 66 ปี ประวัติมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเบาหวาน ความดัน เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ประมาณ 3 วัน

ทางด้าน ลูกสาวผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เคยไปพบพ่อนอนหมดสติเนื่องจากเป็นลม จากอาการโรคเบาหวาน มาครั้งหนึ่งแล้ว ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียชีวิต ต้องออกเรือนั้น เนื่องจากครอบครัวไม่มีรายได้จากทางอื่น ตัวพ่อเองป่วยอยู่ ก็กลัวจะไม่มีเงินซื้อกับข้าวกิน จึงต้องกัดฟันทั้งที่ร่างกายไม่แข็งแรง ขับเรือออกไปวางรอบดักปู เพื่อนำมาขายเลี้ยงชีพ

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกเขยของผู้เสียชีวิต ได้รับโทรศัพท์จากภรรยาว่า พ่อหายไปตั้งแต่เมื่อคืนจนเช้านี้ยังไม่กลับเข้าบ้านเลย ให้ช่วยขับเรือออกตามหน่อย จนกระทั่งมาพบว่า เรือลอยอยู่ริมฝั่งติดกับคอกเลี้ยงหอยนางรมของชาวบ้าน จึงหาบริเวณใกล้เคียงจนพบร่างพ่อตานอนเสียชีวิต อยู่ในคอกหอยนางรม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบดังกล่าว

ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา! จันทบุรีอ่วม พายุถล่มยาว นับ 10 ชม. นายกเทศบาลฯ ขอกำลังกู้ภัยอพยพ ชาวบ้าน กลางดึก

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.เพจ จันทบุรี แจ้งข่าว ได้เผยข้อความระบุว่า

รายงาน 23:33 น. 27 กค.67 จันทบุรีอ่วม พายุถล่มยาว นับ 10 ชม. นายกเทศบาลตำบลปัถวี ขอกำลังกู้ภัยอพยพ ชาวบ้าน กลางดึก เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง กตัญญูธรรมสถานจันทบุรีได้รับแจ้งจากนายอรัญ พงศ์ศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลปัถวี ขอกำลังอาสากู้ภัยพร้อมทีมเรือเข้าอพยพชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ และขนของออกจากบ้านจำนวนหลายหลังโดยพื้นที่ได้รับความเสียหายได้แก่ หมู่ 1-หมู่ 12 รวมถึงถนนสาย 317 จันทบุรี – สระแก้ว มีน้ำท่วมขังผิวจราจรรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เป็นช่วงๆ

โดยเฉพาะพื้นที่ต่ำ ระหว่างศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขต 17 ไปจนถึงแขวงการทางจังหวัดจันทบุรี ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำสัญญาณไฟติดตั้งและใช้เส้นทางเบี่ยง ในเลนส์สวนทาง ให้สามารถสัญจรได้ชั่วคราว อย่างไร ก็ตาม เทศบาลตำบลปัถวี มีการตั้งศูนย์อพยพประชาชน มห้มาพักพิงชั่วคราวที่เทศบาลตำบลปัถวี และวัดใกล้เคียง รวมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับชาวบ้าน และผู้นำชุมชน ในพื้นที่ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา กำจัด วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำที่ไหลมาติดตามคอสะพาน และฝาย ออกให้เร็วที่สุด เพื่อให้น้ำไหลสะดวก ซึ่งขณะนี้มีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หลายหลัง

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขอให้ระวังอันตราย จากฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของทางราชการใกล้ชิด หากได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-3932-5139 และ 0-3931-2100 หรือ สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชม.

Popular Posts

My Favorites

ทั้งวงการบันเทิงห่วง ลูกชาย ‘เจ – ปิ่น’ ป่วยเรื้อรัง เร่งเข้าโรงพยาบาล

0
ส่งกำลังใจให้พระเอก นักร้องหนุ่ม “เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน“ลูกชายของ “พ่อเจ เจตริน” และ “แม่ปิ่น เก็จมณี” ที่เพิ่งจะเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดใหญ่ ครั้งแรกในชีวิตหลังป่วยเรื้อรัง กับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง ทำแฟนๆ ครอบครัวส่งกำลังใจและเป็นห่วงอย่างมาก โดยอินตาแกรมของ“เจ้าขุน”ได้โพสต์ภาพตนเองที่กำลังเข้าห้องผ่าตัด และเขียนแคปชั่นบอกว่า “FIRST EVER SURGERY!! Wish me luck 🙂 หรือ ครั้งแรกที่เคยผ่าตัด!! อวยพรให้ฉันโชคดี :)” ขณะที่ตามข้อมูลที่ “เจ้าขุน...