ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 11
Featured posts

ลูกค้าใจหาย “ร้านสุกี้ชาบูดัง” ประกาศปิดกิจการ

เรียกว่าใครที่ชอบกินสุกี้หม่าล่าต่างใจหายกันเป็นแถว เมื่อร้านสุกี้ชื่อดัง “สุกี้เผิงโหย่ว” ที่ครองใจสายกินย่านบรรทัดทอง ได้ประกาศปิดกิจการ เปิดขายวันพรุ่งนี้ 22 กรกฎาคม 2567 เป็นวันสุดท้าย

ลูกค้าใจหาย ร้านสุกี้ชาบูดัง ประกาศปิดกิจการถาวร

โดยเพจเฟซบุ๊ก สุกี้เผิงโหย่ว – Sukipengyou  ได้มีแชร์รูปภาพที่ระบุข้อความว่า “ประกาศปิดกิจการ เปืดให้บริการวันสุดท้าย 22 กรกฎาคม 2567

ร้านเผิงโหย่ว ขอขอพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนนเป็นอย่างดีตลอดมา ทางร้านขอเปิดให้บริการถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เป็นวันสุดท้าย”

ลูกค้าใจหาย ร้านสุกี้ชาบูดัง ประกาศปิดกิจการถาวร

ทั้งนี้ ร้านสุกี้เผิงโหย่ว เป็นร้านอาหารประเภท สุกี้หม่าล่า หรือชาบูหม่าล่า มีบริการสายพาย ตั้งอยู่ใจกลายเมืองย่านถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ

ลูกค้าใจหาย ร้านสุกี้ชาบูดัง ประกาศปิดกิจการถาวรลูกค้าใจหาย ร้านสุกี้ชาบูดัง ประกาศปิดกิจการถาวร

ลูกค้าใจหาย ร้านสุกี้ชาบูดัง ประกาศปิดกิจการถาวร

หนุ่มเมาไม่ได้สติ ถูกเพื่อนทิ้ง มุดท่อระบายน้ำ โผล่ออกมานอนข้างถนน

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 21 ก.ค. 67 ศูนย์วิทยุสภ.แม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุคนนอนหมดสติ อยู่บริเวณกลางถนนบริเวณทางเข้าบ้านซอย 6 ประมาณ 200 เมตร ที่เกิดเหตุพบชาย 1 คน อายุประมาณ 20 กว่าปี พูดจาสับสนเสื้อผ้าเนื้อตัวใบหน้ามอมแมมไปด้วยขี้โคลน นอนหมดสติคว่ำหน้า อยู่ปากท่อระบายน้ำข้างถนน

สอบถามเจ้าตัวให้การว่าไปดื่มเหล้ากับเพื่อนและถูกเพื่อนทิ้ง ก่อนจะได้มุดท่อออกมา และพูดจาอยู่ในอาการมึนเมา พูดวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมลุกไปไหน เจ้าที่กู้ภัยจึงเกลี้ยกล่อมให้ไปนอนในที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายรถยนต์ทับได้ จากนั้นเจ้าที่กู้ภัยได้นำตัวขึ้นรถพามานอนที่หน้าหน่วยชีพเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสันนิษฐานว่า ชายคนดังกล่าวอาจจะไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมาได้ที่และครองสติไม่ได้ก่อนที่จะคานลงไปในท่อระบายน้ำ และโผล่ขึ้นมายังจุดที่เกิดเหตุ โชคดีที่ออกมาจากท่อได้ จนมีชาวบ้านมาพบนอนหมดสติอยู่ริมตะแกรงเหล็กปากท่อแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือได้ทัน

ยายวัย 72 ปี ออกไปหาปลาในแม่น้ำ พบจมน้ำดับ

สืบเนื่อจากเมื่อวันที่ 20 ก.ค.67 ร.ต.อ. วสันต์ แสงโทโพธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งว่ามีนางอำนาจ แพงแก้ว อายุ 72 ปี ชาวบ้านแก่งสาคร หมู่ 6 ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย ออกไปหาปลาที่แม่น้ำเลย บริเวณสะพานบ้านหนองผำ ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง แล้วไม่กลับบ้าน ญาติคาดว่านางอำนาจน่าจะจมน้ำ ประสานไปยังกู้ภัยสว่างคีรีธรรม จ.เลย กู้ภัยมูลนิธินเรศวร จ.หนองบัวลำภู กู้ภัยสว่างเมธาธรรม จ.อุดรธานี ระดมค้นหาจนถึงเย็นวานนี้ก็ไม่พบ

จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ก.ค.67 กู้ภัยฯ พร้อมชาวบ้าน วางแผนใช้เรือท้องแบน และนักประดาน้ำ ระดมค้นทางน้ำ จนพบร่างนางอำนาจ แพงแก้ว อายุ 72 ปี บริเวณใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเลย บ้านกกเกลี้ยง ต.ผาบิ้ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กม. พบร่างติดกับกอไม้ไผ่ มีฆ้องหาปลาติดอยู่ที่เอว ส่วนสวิงติดกับลำไม้ไผ่ จึงได้นำร่างขึ้นมาจากน้ำ แพทย์ชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย สาเหตุน่าจะมาจากเป็นล้มหน้ามือล้มลงแม่น้ำเป็นเหตุให้เสียชีวิต และญาติก็ไม่ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต มอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป

ส่วนนายไพโรจน์ อุปรีที อายุ 52 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า คุณแม่เป็นคนดี ขยัน ชอบหาปลา ในวันเกิดเหตุถือสวิงและฆ้องใส่ปลาติดเอวคนเดียว ไปที่ริมแม่น้ำเลยบ้านหนองผำหมู่ 3 เพื่อหาปลา เป็นคนไม่มีศัตรูกับใครที่ไหนโอบอ้อมอารี ส่วนการพบศพครั้งนี้คุณแม่หายตัวไปเมื่อ 10.30 น. วันที่ 19 นับถึงวันนี้ที่พบศพเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ครบ 3 วันหรือ 48 ชั่วโมงพอดี และวันนี้เป็นแม่เกิดของแม่ด้วย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เลย รายงาน

หนุ่มขี้น้อยใจ ตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองกลางขื่อบ้าน

ช่วงบ่ายของวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาศูนย์อาสาฯกู้ภัยทางหลวงอุดรธานี หน่วยกุมภวาปี จุดบริการอำเภอโนนสะอาด ได้รับแจ้งจาก ห้องวิทยุสื่อสาน สภ/โนนสะอาด ว่ามีเหตุชายผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านบริเวณจุดเกิดเหตุ บ.โนนทิง เลขที่ 51 ม. 11 ต.บุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ขอให้ออกตรวจสอบ ร่วมกับร.ต.อ.สิทธิศัดดิ์ บุญล้ำ พนักงานสอบสวนเวร สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี รีบออกไปยังจุดเกิดเหตุบ้านเลขที่ดังกล่าวหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงอุดรธานึ จุดบริการอำเภอโนนสะอาด

ถึงบ้านที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อยู่ในสภาพ นอนอยู่ที่พื้นบ้าน ที่พักอาศัยของตัวเอง หลังจากที่พี่สาวมาเจอในสภาพแขวนคอตัวเองด้วยเชือกจึงทำการช่วยเหลือโดยใช้มีดตัดเชือกลง แต่ตรวจสอบพบว่าน้องชายได้เสียชีวิตลงแล้วจึง แจ้งเพื่อนบ้านช่วยกันดู รีบประสานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมพนักงานสอบสวนคดีอาญาประจำ สภ.โนนสะอาด ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบข้อมูลผู้เสียชีวิตคือ นาย ทรงศักดิ์ ท่าสะโก อายุ 42 ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัว 51 หมู่ 11 ต.บุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานีใช้เชือกผูกคอตายกับขื่อบ้านต่อมาทีมเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนคดีอาญา พร้อมทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและเก็บหลักฐาน ตรวจสอบโดยละเอียดเป็นที่เรียบร้อยภายในบริเวณที่เกิดเหตุ

สาเหตุในเบื้องต้นจากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิตได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวร่วมกับพี่สาวแค่สองคน พี่สาวให้การว่าน้องชายมีประวัติเป็นจิตเวชเดิมและมีประวัติเสพมาก่อน หน้านี้เกิดจากความน้อยใจและคิดไปเองจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในครั้งนี้ น้องชายชอบอยู่ภายในบ้านตลอดเวลาช่วงเช้ายังปกติพอช่วงบ่ายตัวเองได้เข้ามาในบ้านได้พบว่าน้องชายใช้เชือกแขวนคอผูกติดกับคานหลังคาบ้านตัวเองจึงใช้มีดตัดเชือก นำน้องชายลงมาก่อนแต่ก็พบว่าน้องชายได้เสียชีวิตลงแล้วจึงประสานญาติและผู้นำหมู่บ้านแจ้ง เจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องออกดำเนินการตามขั้นตอน

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ รับคำสั่งเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเข้าชันสูตรร่วมแพทย์เวรโดยละเอียดอีกครั้งภายหลังแพทย์เวรทำการชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตได้แจ้งสาเหตุของการเสียชีวิตแล้วทางญาติไม่ติดใจเอาความของการเสียชีวิตในครั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.อุดรธานี รายงาน

เปิด 2 กลุ่มนี้ โดนตัดสิทธิ์ ไม่ได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บ.

หลังจากที่รัฐบาลประกาศ Timeline แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะให้ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ภายใต้วงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยร้านค้า และประชาชนจะลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ในไตรมาส 3 และเริ่มแจกเงินในไตรมาส 4 ผ่าน Supper App ในปี 2567

แต่ก็มีประเด็นในโลกโซเชียลที่ว่า การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะให้เฉพาะผู้ที่ยื่นภาษีพิสูจน์รายได้เท่านั้น สร้างความฮือฮาให้กับชาวเน็ตอย่างมาก

ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความชี้แจงถึงความชัดเจนของผู้ที่ได้สิทธิ์รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล์ตดังนี้

ผู้มีสิทธิ์ได้เงิน 10,000 บาท ในโครงการ Digital Wallet

อายุ 16 ปี ขึ้นไป ทุกคน ทั้งอยู่ในระบบภาษีและไม่อยู่ในระบบภาษี (ทั้งที่ยื่นแบบและไม่ยื่นแบบ)

ตัด ผู้ที่มีรายได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปี ออก

ตัด ผู้ที่มีเงินฝากในสถาบันการเงินพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ออกที่เหลือ ได้ทุกคน ซึ่งจะมีคนผ่านเงื่อนไขนี้ราว 50 ล้านคน

เศร้ารับวันพระใหญ่ หลวงตาลิน พระเกจิดังหนองบัวลำภู มรณภาพ สิริอายุเลขมงคล

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 มีรายงานเศร้าในวงการสงฆ์ หลวงตาลิน มรณภาพ พระครูวิมลธรรมากร (หลวงตาลินทอง จตฺตมโล) เจ้าอาวาสวัตศรีบุญเรืองบุตราราม ได้มรณภาพเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 01.38 น. ณ กุฏิเจ้าอาวาส วัดศรีบุญเรืองบุตราราม ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งก็คือวันอาสาฬหบูชา

พระครูวิมลธรรมากร (หลางตาลินทอง จูตุตมโล) เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 คณะแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดเต็มความสามารถ จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 หลวงตาลินทอง มีอาการทรุดลง และได้แจ้งความประสงค์กับทางคณะแพทย์ขอเดินทางกลับไปพำนักรักษาตัวที่วัดศรีบุญเรืองบุตราราม ซึ่งคณะแพทย์จึงพิจารณาให้ออกมาพักตามเจตนาดังกล่าว โดยได้ประสานงานให้อยู่ในการดูแลของคณะแพทย์โรงพยาบาลโนนสังเพื่อทำการดูแลอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 01.38 น.หลวงตาลินได้ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 74 ปี 7 เดือน 19 วัน 54 พรรษา

สำหรับ หลวงตาลินทอง เป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอโนนสัง โดยก่อนมรภาพ หลวงตาลินเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโนนสัง เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งข่าวการมรณภาพของ หลวงตาลินทอง จตฺตมโล สร้างความอาลัยให้กับศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก โดยลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้นำข้อมูลที่เป็นบันทึกเสียงของหลวงตาลิน ที่ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 โดยได้ประชุมสั่งการเกี่ยวกับพิธีสลายสรีระธาตุขันธ์ อันเป็นความประสงค์ และเป็นคำสั่งสุดท้ายที่ต้องซึ่งหลวงตาลิน ได้สั่งไว้ในขณะที่ท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ครบถ้วน โดยข้อปฏิบัติตามคำสั่ง 8 ข้อของหลวงตาลินมีใจความว่า เก็บร่างไว้ 1 วัน (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง) ไม่ให้บรรจุหีบ ให้นำร่างขึ้นกองฟอนทันที

ด่วน! ผู้ก่อเหตุ ยิ ง รอง ผกก.สน.ท่าข้าม เสียชีวิต ล่าสุด ยิ งตัวเองหนีความผิด ดับคาบ้าน

จากรณี ตำรวจ สน.ท่าข้าม เข้าระงับเหตุ รองผกก.ป.โดนยิ งเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 เจ้าหน้าที่ได้เร่งปิดล้อมจับกุมคนร้ายยังอยู่ในบ้านพัก หมู่บ้าน ดีเค ซอย 2 ถนนพระรามสอง เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายใช้อาวุธปืนยิ ง พ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม ขณะนำกำลังเข้าระงับเหตุ เมื่อเวลา 21.45 น.ที่ผ่านมา เหตุเกิดภายในหมู่บ้าน ดีเค ซอย 2 ถนนพระรามสอง แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตอยู่ในบ้านพัก มีตำรวจบาดเจ็บอีก 1 นาย

ขณะนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พร้อมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม อยู่ระหว่างนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัวคนร้าย เบื้องต้นนำร่างของ พ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม ออกมาได้แล้ว

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 21 ก.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าการปิดล้อมจับกุมคนร้ายใช้อาวุธปืนยิ ง พ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม เสียชีวิต ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ป.สน.ท่าข้าม บาดเจ็บขณะเข้าระงับเหตุ พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นทราบว่าอยู่บริเวณชั้นลอยของบ้านยังไม่มีท่าทีสงบ และใช้อาวุธปืนยิงสวนตำรวจเป็นระยะๆ แต่ตำรวจที่คุมสถานการณ์อยู่บริเวณโดยรอบบ้าน ยังไม่ยิ งตอบโต้

เนื่องจากเกรงว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกข้างเคียงจะถูกลูกหลง ขอประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก และปฏิบัติการอย่างรอบคอบที่สุด ส่วนการเยียวยา ครอบครัว พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ยืนยันจะดูแลอย่างเต็มที่ จากข้อมูลตัวผู้ก่อเหตุนั้นเป็นบุคคลชอบสะสมปืน และเคยฝึกฝนการยิ งปืน โดยปื นทั้งหมด เป็นปื นที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องผู้ก่อเหตุ มีอาการป่วยทางจิต หรือไม่ ต้องขอตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง พล.ต.ท.ธิติ ระบุ

ต่อมาเพจ บิ๊กเกรียน ได้เผยความคืบหน้าล่าสุดว่า ผู้ก่อเหตุ ที่ยิ ง รอง ผกก.สน.ท่าข้าม เสียชีวิต ล่าสุด ยิ งตัวเองหนีความผิด ดับคาบ้าน

ภาพจาก บิ๊กเกรียน

แนวทางในการซื้อสลากกินแบ่ง 1สิงหาคม 67 โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ฝันเห็นรอยสักหลวงปู่ศิลา

ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ สลากกินแบ่งรัฐบาลประจำวันที่ 16 ก.ค.67 สำหรับวันนี้เราก็มีแนวทางมาฝากกันอีกเช่นเคย สำหรับวันที่ 1 ส.ค.67 อย่างไรก็ตามเน้นย้ำว่าเป็นแนวทางในการซื้อสลากกินแบ่งเท่านั้น และโปรดใช้วิจารณญาณ เป็นความชอบความเชื่อ ของแต่ละบุคคลเท่านั้น โดยล่าสุด ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่ม แบ่งปันแนวทางสลากกินแบ่ง เล่าความฝันระบุว่า

เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

เป็ฯความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว พันตำรวจโท กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ ถูกยิ งเสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.67 เพจ สืบนครบาล IDMB ได้โพสต์ข้อความระบุว่า พันตำรวจโท กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม วัย 59 ปี เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ขณะเข้าระงับเหตุชายคลั่งในย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร

ประวัติการรับราชการ

1. เกิดวันที่ 16 เมษายน 2508

2. เริ่มรับราชการตำรวจในปี 2537 ที่ระดับรองสารวัตร

3. ปี 2551 ดำรงตำแหน่งสารวัตร

4. ปี 2558 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้กำกับการ

ตำแหน่งสำคัญในอดีต

1. รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี (ปี 2560)

2. รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรรามัน จังหวัดยะลา

3. รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปี 2563)

4. รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางมด กรุงเทพมหานคร (ปี 2565-2566)

ตำแหน่งสุดท้าย

รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม กรุงเทพมหานคร

ประวัติครอบครัว

– มีภรรยาและบุตรชายที่รับราชการตำรวจเช่นเดียวกัน ผลงานและความเสียสละ

1. มีประสบการณ์การทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น จังหวัดปัตตานีและยะลา

2. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ โดยเฉพาะในเหตุการณ์สุดท้ายที่เข้าเจรจากับคนร้ายโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง

3. เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ แสดงถึงความเสียสละอย่างสูงสุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน การยกย่องและเกียรติยศ

– สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวอย่างเต็มที่

– ได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมงานและประชาชนในฐานะวีรบุรุษผู้เสียสละ

เปิดกลโกง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แค่โทรกลับสูญ 4 ล้าน

วันที่ 20 ก.ค.2567 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยกรณีมีนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของเชียงใหม่ ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงินไป 4 ล้านกว่าบาท ว่า โดยพื้นที่ภาค 5 พวกแก็งคอเซ็นเตอร์หลอก วันหนึ่งก็จะมีไม่ต่ำกว่า 2-3 ราย ที่เกิน 1 ล้านบาท

และก็เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอด ก็อยากฝากเตือนพีน้องประชาชนอย่าไปหลงเชื่ออย่าไปรับสายเบอร์คนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก โดยเฉพาะที่หลอกว่าบัญชีเราไปพัวพันคดีสำคัญ ยาเสพติด คดีฟอกเงิน ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีการโทรศัพท์ไป หรือวิดีโอคอลหา

ตัวอย่างคดีสำคัญที่เกิดขึ้นล่าสุดที่เชียงใหม่ ที่ทางตำรวจได้รับแจ้งเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เป็น้องนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังของเชียงใหม่ น้องเขาโดนแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามา อ้างว่าบัญชีของน้องไปพัวพันกับการกระทำความผิด มีการบอกให้กับน้องนักศึกษาว่า อย่าไปบอกใคร และให้ส่งบัญชีมาตรวจสอบ แก็งคอลเซ็นเตอร์ได้สอบถามน้องนักศึกษาว่ามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ หรือมีเงินฝากมีทรัพย์สินอื่นหรือไม่

ปรากฏว่าน้องเขาก็มีสลากออมสิน ซึ่งผู้ปกครองเขาใช้ชื่อน้องนักศึกษาในการซื้อสลากออมสิน แก็งมิจฉาชีพ ก็ได้ออกอุบายให้น้องนักศึกษา ไปแจ้งสลากหาย ซึ่งสลากออมสินพ่อของน้องนักศึกษาเป็นผู้เก็บเอาไว้ ตัวสลากไม่ได้อยู่ที่น้องนักศึกษา น้องเขาก็ไปแจ้งสลากออมสินหายเพื่อทำสลากออมสินใหม่ เสร็จแล้วก็ขายสลากออมสินคืน เพื่อที่จะโอนเงืนเพื่อที่จะให้แก็งมืจฉาชีพเอาไปตรวจสอบ พอส่งเงินไปก็ไม่ได้เงินกลับ

รายนี้บังคับให้น้องซึ่งเป็นนักศึกษาโทรศัพท์ผ่านไลน์ วิดีโอลคอลตลอดเวลา ห้ามปิดเครื่อง บังเอิญวันนั้นก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง สัญญาณอินเตอร์เน็ตดับไป สัญญาณก็ตัด แต่ด้วยความที่น้องเขากลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าไปพัวพันเกี่ยวกัยเรื่องการทำธุรกิจผิดกฏหมาย น้องเขาก็ได้โทรศัพท์กลับ พวกแก็งพวกนี้ก็เลยหลอกต่อได้อีก

วันนั้นหากน้องนักศึกษา ฉุกคิดขึ้นมานิดหนึ่งแล้วโทรศัพท์กลับไปหาผู้ปกครอง หรือหาตำรวจหรือเพื่อนฝูง ก็จะได้รับคำปรึกษา อุบายของพวกมิจฉาชีพ คือไม่ให้ตัดสัญญาณ พยายามพูดหลอกล่อ จนบรรลุ สุดท้ายน้องเขาสูญเงินไป 4 ล้านกว่าบาท และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ผ่าน 1441

และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป ตอนนี้แก็งคอเซ็นเตอร์มีจำนวนมากหลายร้อยแก๊งทุกด้าน ด้านตะวันตก,ทิศเหนือ,อีสาน,ใต้ คือมีเป็นร้อยๆแก๊ง บางแห่งเช่าตึกคนละช้้น คนละแก๊ง แก๊งพวกนี้ ตอนนี้ไม่ใช้เอไอแล้ว ใช้คนนี่แหละ ก็ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตรวจสอบให้ดีๆ

Popular Posts

My Favorites

เพื่อนนักแสดงสุดห่วง! “เบนซ์ ธนธิป” อดีตดาราไร้งานเข้าขั้นวิกฤติ ตกเตียงเลือดคั่งในสมอง

0
“เบนซ์ ธนธิป” อาการโคม่า อดีตนักแสดงสมทบ หลังไร้งานแสดงจนป่วยจิตเวช เจอนอนอยู่บนกองขยะที่ในทาวน์โฮม ตกเตียงผู้ป่วยเลือดคั่งในสมองในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อนนักแสดงสุดห่วง เข้าขั้นวิกฤติต้องดูวันต่อวัน จากกรณี นายเฉลิมพงษ์ รังสิวัฒนศักดิ์ รองประธานสภา อบจ.ปทุมธานี น.ส.อารรัตน์ นฤดมพงษ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ พิเศษ พมจ.ปทุมธานี ฝ่ายปกครอง อ.ธัญบุรี และเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ร่วมกันเข้าช่วยเหลือ นายธนธิป รัศมีประเสริฐ...