สร้างเสียงเฮให้กับคนไทยทั้งประเทศจริง ๆ หลังจากที่ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาว ทีมชาติไทย ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถเอาชนะ กัว ฉิง จอมเตะสาว ทีมชาติจีน แบบบีบหัวใจนิด ๆ 2 – 1 ยก ผงาดคว้าเหรียญทอง เทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2024 รุ่น 49 ก.ก. หญิงไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักกีฬาคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญ โอลิมปิก ได้ถึง 3 เหรียญ แถมยังเป็นเหรียญทองถึง 2 สมัยติดต่อกันด้วย นอกจากนี้ ในรอบชิงฯ ซึ่งแข่งขันในเวลา 02.21 น. ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งเข้าสู่วันที่ 8 ส.ค. เป็น วันเกิดครบรอบอายุ 27 ปี ของพาณิภัค พอดิบพอดีอีกต่างหาก

หลังแข่งขัน โค้ชเช ชัชชัย เช เผยว่า จังหวะชาเลนจ์ ทั้งรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ก็มาจากประสบการณ์ มั่นใจว่าโดนเลยขอชาเลนจ์ไป ซึ่งก็สำเร็จ พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ก่อนรอบชิงค่อนข้างกดดัน ก็พยายามคุยกับเทนนิส ว่าเล่นให้เหมือนรอบแรก ๆ ตอนที่เสมอกัน แล้วเข้าสู่ยกสาม เขาก็หน้าตามึน ๆ เหมือนตกใจ แต่ว่าก็บอกเขาว่าเราทำได้ มั่นใจ เล่นให้เต็มที่ ซึ่งนักกีฬาจีนเขาก็ศึกษาเรามา เราก็เตรียมการบ้านมาเช่นกัน ฉะนั้นเลยไม่มีปัญหา

จริงๆ ตอนได้เหรียญทอง ครั้งก่อนรู้สึกไม่เหมือนครั้งนี้ เมื่อก่อนเหมือนเป็นคนต่างชาติ แต่ตอนนี้ ผมเป็นคนไทยแล้ว ชื่อ ชัชชัย เช จริง ๆ ผมมาที่นี่ คุยกับนักกีฬาแล้วว่าอยากได้เหรียญทอง อยากให้รู้ว่าคนไทยทำได้

นอกจากนี้ โค้ชเช เผยอีกว่า การคว้าเหรียญทองได้ในวันแรกสำคัญมาก จะเป็นกำลังใจสำคัญให้ทัพนักกีฬาไทยที่ยังเหลืออีก 2 รุ่น คือ หยู บัลลังก์ ทับทิมแดง รุ่น 68 กิโลกรัมชาย และ ใบเตย ศศิกานต์ ทองจันทร์ รุ่น 67 กิโลกรัมหญิง ทำผลงานที่ดีต่อไป

เรียกได้ว่า เป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆชาวนักแบดมินตันคู่ผสมทีมชาติไทย เมื่อ บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ นักแบดมินตันคู่ผสมทีมชาติไทย คุกเข่าขอแฟนสาว เอิร์ธ พุธิตา สุภจิรกุล อดีตนักแบดมินตันไทย แต่งงาน หลังจบภารกิจโอลิมปิก 2024

ล่าสุด ทาง บาส นักแบดมินตันคู่ผสมทีมชาติไทย มืออันดับ 7 ของโลก ได้โพตส์บนเฟสบุ๊กส่วนตัว เป็นรูปคุกเข่าขอแต่งงานและกำลังสวมแหวนให้แฟนสาว พร้อมระบุข้อความว่า Hold my hand and grow old together ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ต่อจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่มีวันปล่อยมือจากกัน เริ่มต้นชีวิตคู่ไปด้วยกันนะ #060867

โดย บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 6 ของโลก จบภารกิจทำศึกโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 หลังแพ้ให้กับ ยูตะ วาตานาเบ้ และ อาริสะ ฮิกาชิโนะ 0-2 เกม 21-23 และ 14-21 ยุติเส้นทางในรอบก่อนรองชนะเลิศ

สำหรับ เอิร์ธ พุธิตา สุภจิรกุล อดีตนักแบดมินตันสาว มืออันดับ 18 ของโลกในประเภทหญิงคู่ ได้ประกาศแขวนแร็กเก็ตไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา

เรียบเรียง news.in.th

ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาไทย ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค.

ล่าสุดได้มีการเปิดตัวชุดพิธีการ ที่จะใช้ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “ปารีสเกมส์ 2024” ในวันที่ 26 ก.ค. 2567 โดยเปลี่ยนจากเดิมในมหกรรมกีฬาครั้งก่อนๆที่เป็นชุดสูตรสีเทา เป็นชุดผ้าไหมสีฟ้า และมีลายที่กระดุม

สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ ประเทศไทย ได้รับโควตาเข้าร่วมทั้งหมด 51 คน จาก 17 ชนิดกีฬา

เพจดัง ชื่นชม คำสอน โค้ชเป้ พูดกับ วิว กุลวุฒิ ทำให้รู้สึกปลอดภัย ในสถานการณ์ที่กดดัน ทั้งยังมีแต่รอยยิ้ม ไม่มีอารมณ์เสีย ไม่ตะคอก ไม่ดุด่า

เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ โพสต์ข้อความถึงคำพูดปลุกใจของ โค้ชเป้ ภัททพล เงินศรีสุข ผู้ฝึกสอนของวิว กุลวุฒิ ระหว่างเกมการแข่งขันของ วิว ความว่า คำพูดที่ทำให้เรารู้สึก ‘ปลอดภัย’ ในสถานการณ์ที่กดดัน … “มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ” “มันก็แค่เกมนึงแหละวะ ใช่ไหม”

“พี่บอกแล้วไง เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ปะ”

คำกล่าวเหล่านี้เป็นคำพูดของ ‘โค้ชเป้’ ที่พูดกับ วิว กุลวุฒิ นักแบดมินตันชาวไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญเงินเหรียญประวัติศาสตร์ในรอบ 32 ปีของวงการแบดมินตันไทยจากโอลิมปิก ที่ปารีส

กว่าที่เขาจะฟันฝ่ามาถึงรอบชิงเหรียญทอง เขาต้องฝ่ากับความกดดันของการแข่งขันมานับไม่ถ้วน หลายครั้งความคาดหวัง ความกดดันนั้นส่งผลต่อสมาธิและการเล่นของวิวอย่างมากทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

“มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ”

คือ คำกล่าวตอนที่วิวต้องเจอกับมือหนึ่งของโลกจากจีนอย่าง ฉือ หยู่ฉี … ตอนนั้นวิวเสียคะแนนติดต่อกันในเกม … จนโค้ชเป้ กล่าวประโยคนี้กับวิว จนในที่สุดเขาก็คว้าชัยชนะมาได้

“มันก็แค่เกมนึงแหละวะ ใช่ไหม”

คือ คำกล่าวตอนที่วิวต้องเจอกับมือ 7 ของโลกจากมาเลเซียในวันที่วิวกำลังได้เปรียบคู่แข่งอยู่ คำพูดที่ดึงสติของวิวให้กลับมาโฟกัสกับตัวเองว่า “มันก็คือการแข่งขันธรรมดาๆ เกมหนึ่ง ก็เท่านั้น” ทำอย่างที่เคยทำ เล่นอย่างที่เคยเล่น ไม่ต้องกดดันอะไรมากมาย … ไม่มีคำพูดปลุกใจที่กดดันจนเกินไป ราวกับว่า โค้ชเชื่อมั่นในตัวของเขาอย่างสนิทใจว่าเขาจะทำมันได้อย่างดี

“พี่บอกแล้วไง เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ปะ”

คือคำกล่าวของโค้ชเป้เมื่อคืนขณะที่เขาต้องเจอกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น ที่กำลังทำคะแนนออกห่างวิวไปทุกที คือแบบว่า เก่งบ้าบอมาก แขนยาวขายาว เก็บได้ทุกเม็ด อีตานี่อิหยังนี่ สู เก่งเกินนะ 555

นึกสภาพเราต้องแข่งกับคนที่เก่งมาก ๆ รู้ทันรู้ทางเราไปเสียหมด เราพลาด เขาไม่พลาดเลย หลายคนคงหมดกำลังใจที่จะแข่งไปแล้ว ไหนจะต้องแบกรับความคาดหวังจากคนไทยทั้งประเทศอีก

ตัดภาพมาที่โค้ชเป้ ภายนอกชิลมาก มีรอยยิ้มให้เสมอ ไม่มีอารมณ์เสีย ไม่ตะคอก ไม่แว๊ด ไม่ดุด่าอะไรด้วยซ้ำ

“เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิด วิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ป่ะ”

เล่นเพื่อเรียนรู้ มิใช่เพียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น แม้ก็รู้ในใจว่าเราอยากชนะเหลือเกิน เพราะชัยชนะคือสิ่งหอมหวาน และการพ่ายแพ้คือยาขม เราจะโอบรับผลของยาขมนั้นแล้วเติบโต เก่งขึ้น หรือจะแค่ตีโพยตีพายกับความขมของยา เราเลือกได้เอง สิ่งเหล่านี้พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะการพ่ายแพ้นั้นโหดร้ายกับใจที่อ่อนแอ แต่คงไม่ใช่กับวิว กุลวุฒิ

มิใช่เพราะได้เหรียญเงินมาครอบครองแล้ว ใจจึงไม่เป็นไร แต่หากเพราะวิวคงรู้ว่า สุดท้ายแล้วเขาจะมีพื้นที่ปลอดภัยอย่างโค้ชและครอบครัวเป็นที่พักพิงใจในวันที่เขาผิดหวังและอ่อนแอ

เพราะกว่าจะชนะมาถึงตรงนี้ วันที่ได้เหรียญเงินโอลิมปิก วิวต้องเจอกับความขมของความพ่ายแพ้ และความหอมหวานของชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน และเขาก็ผ่านมันมาได้อย่างดี

อีก 4 ปีรอเชียร์วิวอีกครั้ง

หลังจากที่ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย สู้สุดใจในรอบชิงฯ แบดมินตัน โอลิมปิก 2024 ให้กับ วิกเตอร์ อักเซลเซ่น นักแบดมินตัน เดนมาร์ก 0-2 เกม โดย ระหว่างเกม แฟนขนไก่ไทย ต่างบ่นกันเป็นเสียงเดียวว่า ความยาวของ วิกเตอร์ ทำให้ กุลวุฒิ ตีเท่าไร วางมุมไหน วิกเตอร์ก็เก็บได้ทั้งหน้า-หลัง

จากข้อมูลพบว่า วิกเตอร์ มีความสูงอยู่ที่ 194 เซนติเมตร ขาด 2 เมตรไปแค่ 6 เซนติเมตร และ ความยาวช่วงแขน หรือ วิงสแปน นั้น วิกเตอร์ เคยโพสต์ภาพการวัดเอาไว้เมื่อปี 2023 ให้แฟนๆได้ทายกัน ก่อนที่เจ้าตัวจะเฉลยว่า ยาว 2 เมตรพอดี ขณะที่ สนามแบดมินตัน ประเภทเดี่ยว ซึ่งนับเส้นใน มีความกว้าง 5.18 เมตร วิกเตอร์ จึงแทบไล่เก็บได้ทุกลูกตามที่ได้ปรากฏไว้แล้

เป็นอีกหนึ่งสาวดีกรีนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นฮีโร่ และเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ สำหรับ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

นอกจากจะเป็นนักกีฬาเทควันโดแล้ว เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศตั้งแต่ปี 2559 จากการสร้างชื่อเสียงให้กับประชาติในฐานะนักกีฬาเทควันโด ก่อนจะถูกปรับเลื่อนยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง จากการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 นั่นเอง

ล่าสุด ในปี 2024 หรือปี 2567 เทนนิส พาณิภัค ได้รับการประดับยศเรืออากาศโทหญิง อย่างเป็นทางการ อยากรู้มั้ย ยศเรืออากาศโทหญิง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หากเทียบกับอัตราเงินเดือนแล้วจะได้รับเท่าไหร่

ตามพระราชบัญญัติระเบียนข้าราชการทหาร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2558 ระบุ นายทหารสัญญาบัตรยศร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี ถึงร้อยเอก เรือเอก เรืออากาศเอก ให้ได้รับเงินเดือนระดับ น.1

โดยอัตราบัญชีเงินเดือนข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ระบุว่า นายทหารสัญญาบัตรยศดังกล่าวจะได้รับเงินเดือนระดับ น.1 ซึ่งมีอัตราเงินเดือนที่แบ่งตามขั้นตั้งแต่ 6,470-38,750 บาท

คนไทยปลื้มใจ ตื่นเช้ามาไทยได้ 3 เหรียญรวดในคืนเดียว 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง โดยน้องเทนนิสสร้างประวัติศาสตร์ป้องกันเหรียญโอลิมปิกได้ เป็นคนไทยคนแรก

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กองประชาสัมพันธ์ กกท.

วันที่ 8 สิงหาคม 2567 เป็นวันที่คนไทยทุกคนตื่นมาแล้วก็ต้องยิ้มแก้มปริกันถ้วนหน้า เพราะทัพนักกีฬาไทย สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 ได้ 3 เหรียญในคืนเดียว โดยเป็นเหรียญทอง 1 เหรียญ, เหรียญเงิน 1 เหรียญ และเหรียญทองแดง 1 เหรียญ

สำหรับเหรียญแรกที่ได้ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 7 สิงหาคม มาจาก ยกน้ำหนักชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 61 กิโลกรัม มีฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย ลงแข่งขัน และคว้าเหรียญเงินได้สำเร็จ ด้วยน้ำหนักท่าสแนตช์ 132 กิโลกรัม และท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 171 กิโลกรัม รวมทั้งหมด 303 กิโลกรัม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กองประชาสัมพันธ์ กกท.

เหรียญที่ 2 ที่ได้ ก็ยังคงมาจากยกน้ำหนักหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม มีออย สุรจนา คำเบ้า ลงแข่งขัน ซึ่งสามารถยกท่าสแนตช์ 88 กิโลกรัม และท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 112 กิโลกรัม รวมทั้งหมด 200 กิโลกรัม คว้าเหรีญทองแดงมาครองได้สำเร็จแบบฉิวเฉียด นำอันดับ 4 จากอินเดีย 1 กิโลกรัม

ส่วนไฮไลต์สำคัญที่สุดที่ทุกคนรอลุ้น คือ น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กับการลงแข่งเทควันโด้หญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม รอบชิงชนะเลิศ โดยพบกับกัว ซิง จากจีน 2-1 ยก ด้วยคะแนน 6-3, 2-3, 6-2 คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กองประชาสัมพันธ์ กกท.