วันนี้ 18 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และผู้อำนวยการจังหวัด กล่าวว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางแจ้งว่า ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 3 (226/2567) ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 05.00 น.

แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันออก และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 17/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2567 คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม 2567 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 19-23 ดุลาคม 2567 รวม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอพนมทวน และอำเภอท่ามะกา

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเกอ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการป้องกันและเฝ้าระวัง ดังนี้

1.กรณีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ให้ดำเนินการแจ้งไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลียงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรป้องกันทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายด้วย

2.กรณีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป้าไหลหลาก ให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้อำนายการอำเภอสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง

3.ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการก่อสร้าง บำรุงรักษาถนน ในการตรวจสอบปรับปรุง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาโครงการที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาการระบายน้ำในช่วงฝนตกหนัก พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร ติดตั้งป้าย/สัญญาณจราจรแจ้งเตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวให้ชัดเจน

และ 4. หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและมาตรการ ตามหนังสือกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุด ที่ กจ (กอปภ.จ.) 0021/ว194 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2567 และสามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ทราบทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-515998 โทรสาร 034-516795 เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กาญจนบุรี รายงาน