จากสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ค. 68) พบว่ามีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนกว่า 2,000 – 3,000 คน ได้เดินทางมาปักหลักรออยู่บริเวณหน้าประตูด่านถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี พร้อมสัมภาระเต็มมือ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อรอเวลา 09:00 น. ที่เจ้าหน้าที่ไทยจะเปิดประตูอนุโลมให้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาได้ แรงงานเหล่านี้ให้เหตุผลว่ายังไม่วางใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องการเดินทางกลับบ้านเกิดก่อนในช่วงนี้
จากสถานการณ์ความมั่นคงที่ทวีความตึงเครียดขึ้นในปัจจุบัน นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุดตามคำสั่งกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (เฉพาะ) ที่ 1290/2568 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เพื่อควบคุมพื้นที่และรักษาอธิปไตย รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย
มาตรการป้องกันและตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ การปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทางการค้าทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วย จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน , จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน , จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านซับตารี ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว , จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านสวนส้ม ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว , จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านบึงชนังล่าง ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : สระแก้วบ้านเรา
มาตรการควบคุมการผ่านเข้า-ออก ดังกล่าวระบุให้ งดการผ่านเข้า-ออก ของยานพาหนะทุกประเภท , งดการเดินทางผ่านเข้า-ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชาที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ สามารถผ่านแดนได้เฉพาะช่วงเวลา 09.00 – 15.00 น. เท่านั้น คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีจะแจ้งการเปลี่ยนแปลง โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : สระแก้วบ้านเรา
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์
