Home ข่าว ข่าวสังคม “อ.รักษ์”พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง”เหรียญหลวงปู่ทวด”

“อ.รักษ์”พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง”เหรียญหลวงปู่ทวด”

49

จากประเด็นดราม่าอันร้อนระอุ วงการพระเครื่องบ้านเรา กับเหรียญหลวงปู่ทวด เลื่อนสมณศักดิ์ ปี2508 เนื้อทองคำ ไม่ผ่าปาก ล่าสุด “ทีมข่าวไทยนิวส์” ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ “อ.รักษ์ ศรีเกตุ”แชมป์แฟนพันธุ์แท้พระพุทธรูปปี2006 ซึ่งได้มีการให้ความรู้เปิดมุมมองไว้อย่างน่าสนใจ

ซึ่ง อ.รักษ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าตนนั้นเล่นพระมาเป็นเวลานานมากแล้ว เข้าวงการตั้งแต่อายุได้ 11 ปี เพราะว่าพี่ชายของตนเป็นคนเล่นพระ และแก่กว่าตน 15 ปี ตนจึงมีพี่ชายเป็นแบบอย่างในการศึกษาเรื่องพระ ตลอดการอยู่ในวงการมาหลายสิบปี ทำให้ตนกลายเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่งในวงการ เวลาคนเล่นพระ ตนจะมีความชัดเจน เก๊คือเก๊-แท้คือแท้ อีกอย่างหนึ่ง ตนก็อยู่กับสมาคม เป็นคณะกรรมการตัดสิน รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้วย

\"อ.รักษ์\"พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง\"เหรียญหลวงปู่ทวด\"

หากถามว่าจะมองอย่างไรว่าอันไหนพระแท้หรือเทียม ต้องบอกว่าเรื่องนี้มันมีจุดสิ้นสุด มันจะแท้หรือเก๊ย่อมพิสูจน์ได้ด้วยตัวของมันเอง ส่วนใหญ่แล้วเวลาที่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ปัญหามักจะอยู่ที่ว่า “คนที่ดูว่าเก๊จะยอมรับไหม” แต่คนที่ดูว่าแท้ย่อมต้องยอมรับอยู่แล้ว เพราะถือว่าคำตัดสินของคณะกรรมการเป็นข้อยุติ

ในขณะเดียวกัน พระแท้ก็มีคุณสมบัติของมันอยู่ พิมพ์ถูก เนื้อใช่ ขายได้ แต่ถ้าพิมพ์ถูก เนื้อใช่ตามที่คุณบอกว่าแท้ ทว่าขายไม่ได้ นั่นแหละคือปัญหา คุณจะยอมรับหรือไม่ ถ้าคุณยอมรับ มันก็เป็นมาตรฐาน แต่ถ้าคุณไม่ยอมรับ พระองค์นั้นก็ช่วยไม่ได้แล้ว เพราะคุณจะเอาไปขายที่ไหนก็ขายไม่ได้ หากคนอื่นเขาดูว่าเก๊ แต่คุณยังดูว่าแท้อยู่

\"อ.รักษ์\"พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง\"เหรียญหลวงปู่ทวด\"

จริง ๆ แล้ว “ผ่าปาก” เป็นเหรียญมาตรฐานนิยม มีการสร้างขึ้นมาหลายเนื้อ ได้แก่ เนื้อเงิน เนื้อทองคำ เนื้อทองแดง และเนื้ออัลปาก้า ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล 100% ที่ไม่สามารถเถียงได้ ที่มีการถกเถียงกันคือ เหรียญหลวงปู่ทวด “พิมพ์ไม่ผ่าปาก” ซึ่งโดยทั่วไปพบเจอในเนื้ออัลปาก้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในมุมของคุณบอยก็ได้ออกมาพูดว่า “พระมันต้องแท้ที่ตัวพระ” จะมีหรือไม่มี ถ้ามันเป็นพิมพ์เดียวกันกับพิมพ์อัลปาก้า และมีตำหนิครบทุกอย่าง ก็ต้องถือว่าแท้ ทีนี้เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งกับผู้วิจารณ์และผู้ครอบครอง โดยคุณบอยได้ซื้อเหรียญนี้มาในราคา 5 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นเหรียญเก๊จริง ๆ ในระดับนี้ เขาก็คงไม่ซื้อแน่นอน

อ.รักษ์ กล่าวต่อว่า ตนถือเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูง และพิจารณาพระทั้งในด้านสีสัน รูปแบบ และพิมพ์ทรง สุดท้ายผู้ซื้อก็เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่ง เพราะเมื่อใดที่เซียนพระชื่อดังคนใดซื้อพระมา ไม่มีใครอยากสืบหาว่าแท้หรือเก๊ แต่จะสนใจว่า “ซื้อมาเท่าไหร่” และ “จะขายต่อเท่าไหร่” มากกว่า เช่นเดียวกับเหรียญที่ผ่านมือคุณบอย หรือ “ต้น ท่าพระจันทร์” เซียนทั่วไปย่อมมองว่าคงไม่น่าเก๊ เพราะคนระดับนี้ซื้อในราคาระดับนั้น

แต่ถามว่าจะมีความผิดพลาดหรือความบกพร่องเกิดขึ้นได้หรือไม่ คำตอบคือ “มีได้หมด” การที่ตนออกมาพูดเพราะแฟนคลับอยากทราบความเห็น ในกรณีพิพาทระหว่าง “บุคคลท่านหนึ่ง” กับคุณบอย ตนจึงออกมาในฐานะสื่อกลางว่า หากเป็นพระเก๊ มันก็จะมีจุดบกพร่องของมัน ส่วนพระแท้ก็มีจุดเด่นชัดของมัน

\"อ.รักษ์\"พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง\"เหรียญหลวงปู่ทวด\"

สำหรับเหรียญที่เป็นประเด็น ตนยังไม่ได้ดูของจริง แต่ที่กล้าออกมาฟันธง เพราะมีนัยยะสำคัญพระแบบนี้ ผิวแบบนี้ พิมพ์แบบนี้ แล้วยังมีเซียนระดับประเทศไปซื้อ ตนจึงกล้าพูดได้ หากวันหนึ่งพบว่ามันเก๊จริง ๆ ตนก็พร้อมยอมรับสภาพ เพราะตนเชื่อมั่นในหลักการ แต่ก็ย้ำว่าหากได้ดูของจริงแล้ว ตนพร้อมตัดสินอย่างสุภาพบุรุษ  ถ้าผมดูเก๊ มันก็ต้องเก๊ แต่ถ้าผมดูแท้ คุณก็ต้องยกผลประโยชน์ให้ผม

สำหรับเรื่องนี้ เป็นเพียงเรื่องของคนสองคนที่มีความเห็นต่าง คนหนึ่งเชื่อว่าแท้ อีกคนเชื่อว่าเก๊ และแม้จะมีการตั้งตัวกลางคือนายกสมาคมขึ้นมา ฝั่งที่เชื่อว่าแท้ย่อมเชื่อมั่นในคำของนายกอยู่แล้ว แต่ฝั่งที่เชื่อว่าเก๊อาจไม่ยอมรับ เพราะเขาก็มีความเชื่อของเขาเอง ต่อให้ใครมาดูว่าแท้ หากเขาไม่ยอมรับ มันก็จะกลายเป็นประเด็นต่อไป

\"อ.รักษ์\"พูดแล้ว ดราม่าร้อนวงการพระเครื่อง\"เหรียญหลวงปู่ทวด\"

และหากตัวกลางชี้ว่าพระองค์นั้นแท้ ฝ่ายที่บอกว่าเก๊ก็อาจมองว่าตัวกลางเข้าข้างอีกฝ่าย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาความเป็นกลางในกรณีแบบนี้

อ.รักษ์ ทิ้งท้ายว่า เรื่องของพระเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันวัดกันด้วยสายตาและความชำนาญ ไม่ใช่เครื่องมือวิทยาศาสตร์ “คุณจะเอาเครื่องมือวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบก็ได้ ตรวจทองก็รู้ว่าเป็นทอง

cr.ภาพ เด่น อยุธยา