วันที่ 17 ก.ค.67 น.ส.ปิกน้อย โชติยา อายุ 58 ปี และ นายกวาง บานกลีบ อายุ 67 ปี ชาว อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แม่และพ่อเลี้ยงของ น.ส.ฤทัยวรรณ กมลเลิศ อายุ 29 ปี เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ กรณี น.ส.ฤทัยวรรณ ถูกกระสุนปืนปริศนาเจาะเข้าบริเวณราวนม ระหว่างไปหาหอยกับสามีและเพื่อนรวม 3 คน บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสง่า ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย.66

ต่อมาวันที่ 23 ก.ย.66 ตำรวจ สภ.ละหานทราย แจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นชายอายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายร้านขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย โดยผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่าซ้อมยิงปืนแล้วกระสุนเกิดพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต

แต่เหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 1 ปี ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยเห็นกระทั่งหน้าของผู้ก่อเหตุเลย ไม่เคยมีคำขอโทษจากตัวผู้ก่อเหตุหรือครอบครัวเลย แม้แต่เงินเยียวยาหรือช่วยเหลืองานศพก็ไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว ซ้ำครอบครัวยังต้องเป็นหนี้ที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงเกรงว่าลูกสาวจะตายฟรี

น.ส.ปิกน้อย กล่าวว่า การที่ตนสูญเสียลูกสาวก็ทำให้คนเป็นแม่ทุกข์ทรมานใจอยู่แล้ว ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท ยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ แต่ตัวคนก่อเหตุและทางครอบครัวกลับไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย แถมยังใช้ชีวิตได้ปกติ จึงอยากฝากถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว และครอบครัวที่ต้องสูญเสียด้วย หากคู่กรณีไม่มีสำนึกที่จะเยียวยาอะไรเลย ก็อยากให้ลงโทษตามกฎหมายถึงที่สุด อย่าให้ลูกต้องตายฟรี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมก็รับเรื่องไว้ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการเรื่องคดี และเงินเยียวยาจากกระบวนการยุติธรรมให้แม่ของผู้เสียชีวิตได้รับทราบในเบื้องต้นด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.อ มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย ก็ได้รับการเปิดเผยว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีทราบว่า หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ก็ได้สอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า คืนวันเกิดเหตุซ้อมยิงปืนจริง และหลังจากทราบว่ากระสุนไปโดนคนเสียชีวิต ก็หลบหนีไปต่างจังหวัดก่อนจะถูกจับกุม

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา แล้วสรุปสำนวนพร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวชั้นศาลและต่อสู้คดีตามกระบวนการ ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานอัยการตรวจสำนวนเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน แต่หากทางครอบครัวไม่สบายใจก็สามารถสอบถามทางพนักงานสอบสวน หรือติดต่อทางพนักงานอัยการเพื่อสอบถามรายข้อมูลได้