นกน้อย อุไรพร ทุ่มงบ 50 ล้าน ปลุกกระแสคืนชีพ เสียงอิสาน ตอบปมโดนแซะแก่ใกล้ตาย ทำไมไม่ลาวงการ ฝน ธนสุนทร ร่วมวง เผยแม่นกคือฮีโร่ เป็นแสงสว่างในชีวิต

noknoi fon 8

นกฟีนิกซ์คัมแบ๊ก แม่นกน้อย อุไรพร ควงลูกสาวในวงการ ฝน ธนสุนทร เปิดใจปลุกชีวิตวงหมอลำในตำนาน เสียงอิสาน ที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี พลิกโฉมใหม่ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท คว้า ฝน ธนสุนทร ร่วมวงหลังจากไม่ได้ร่วมงานกันมานานเกือบ 10 ปี พร้อมย้อนเล่าคำพูดก่อนเสียชีวิตของพ่อหลอด อดีตหัวหน้าวงเสียงอิสานผู้ล่วงลับที่ทำเอาแม่นกน้อยถึงกับน้ำตาตกในและคำดูถูกที่ทำให้แม่นกน้อยเดือดถึงขั้นเลือดขึ้นหน้า ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกร

การรวมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นได้ยังไงเห็นว่ากระแสปังขึ้นมากๆ เลย? ฝน : “ปังมากแล้วก็ฮือฮามากๆ เพราะว่าพี่ฝนเคยได้ขึ้นเวทีเสียงอิสานกับคุณแม่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว”

ณ ตอนนั้นทำอะไร พี่ฝนเป็นหมอลำมาก่อนเหรอ? ฝน : “ไม่ได้เป็นหมอลำ เป็นนักร้องนี่แหละค่ะ แต่ว่าเป็นนักร้องบ้านเอ็ม ก็คือคอนเสิร์ต M150 ซึ่งตอนนั้น M150 เขาจะทัวร์ทั้งภาคกลางที่เป็นลูกทุ่งแล้วก็ทัวร์หมอลำ ก็คือหมอลำเสียงอิสานไปทั่วประเทศ พี่ฝนจะขึ้นในฐานะนักร้องบ้านเอ็ม เหมือนเป็นงานอีเว้นต์ไปขึ้นรวมกับคุณแม่ แต่ไม่ได้ร้องหมอลำ”

บรรยากาศเป็นยังไงบ้างตอนนั้น? ฝน : “คนดูเป็นหมื่นๆ เลย คนดูเยอะมาก เราก็เหมือนเป็นลูกสาวแม่อีกคนนึง เราเป็นคนอุดรฯ เหมือนกัน แม่ก็เลยจะเอ็นดูเรามากเป็นพิเศษ”

เห็นบอกว่าวันแรกที่พี่ฝนเข้าวงไป แม่นกน้อยตั้งกำแพงใส่พี่ฝนด้วย? ฝน : “เรารู้สึกได้เหมือนกัน คือตอนนั้นเราเดินเข้าไปหลังเวที ก็ถามว่าแต่งหน้ากันตรงนี้เหรอ เหมือนเราจะถามว่าปูเสื่อแต่งหน้ากันตรงนี้เหรอ แล้วแม่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ “ฉันก็แต่งตรงนี้แหละ” แต่เราไม่ได้อะไรนะคะ จำได้เลยว่าแม่ตอนนั้นผมยาวสีดำสนิทเลย ตัวเล็กๆ แม่ก็จะมีความนางพญา เราก็จะกลัวๆ นิดๆ แต่เราก็ไม่ได้กลัวอะไรนะคะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งแม่ก็คงมองดูพฤติกรรมเราว่าเป็นยังไง”

วันนั้นแม่ได้ยินประโยคอะไรจากพี่ฝน? แม่นกน้อย : “คือพี่ฝนจะเป็นคนที่ไม่รู้อันไหนความจริงอันไหนที่ไม่จริงไง พี่ฝนจะซับซ้อน ทะลึ่ง จับประเด็นไม่ได้เลยว่าอันไหนความจริงของฝน คือวิถีชีวิตของหมอลำไม่ได้เป็นเจ้าหญิงเหมือนพี่ฝน ณ ตอนนั้นก็ที่ไหนก็ได้”

ได้ยินพี่ฝนถามแบบนั้นใจแม่เป็นยังไงตั้งกำแพงเลยไหม? แม่นกน้อย : “อ๋อ เยอะหรอ! (หัวเราะ) แล้วแม่ก็เชิ่ดๆ แล้วก็แต่ง”

เห็นแม่เขาเชิ่ดๆ แต่ความจริงตื่นเต้นมากที่ได้เจอ ฝน ธนสุนทร? แม่นกน้อย : “อันนี้จริงค่ะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือฝนจะมาอยู่กับเราได้เหรอ จะมาคลุกคลีอยู่กับฝุ่นแบบนี้ได้เหรอ เพราะว่ามีศิลปินหลายๆ ท่านพอจะมาขึ้นหมอลำ มีคำถามว่าหนูต้องพักโรงแรมห้าดาวไหม หนูต้องนั่งเบนซ์ไหม แต่ในชีวิตของเรามันคลุกคลีตีฝุ่นอยู่ตลอด”

พอเจอกันกำแพงตรงนั้นละลายตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เริ่มเปิดใจว่าเด็กคนนี้มันน่ารัก? แม่นกน้อย : “ก็ไม่นานนะ แม่ก็ต้องปรับตัวหาพี่ฝน พี่ฝนก็ต้องปรับตัว”

ฝน : “ในวันที่ฝนรู้สึกว่าแม่ทลายหมดทุกอย่างแล้ว คือมีอยู่วันนึงพี่ฝนนั่งเล่นกับหางเครื่องแล้วก็พูดเรื่องตลกเฮฮาทะลึ่งโน่นนี่นั่น แล้วแม่คงแอบเห็นแม่ก็เลยไปถามเด็กๆ หางเครื่องว่าพี่ฝนเป็นยังไง ทุกคนก็บอกว่าพี่ฝนเป็นกันเอง หลังจากนั้นเรียกเราขึ้นรถทุกวันเลย”

เห็นว่าฟีนิกซ์คืนชีพ? แม่นกน้อย : “ฟินิกซ์นี่คือแม่ได้เรื่องราวฟีนิกซ์แล้วศึกษาเรื่องนกฟีนิกซ์กรีกโบราณที่เขาแลกมาด้วยน้ำตา ตายแล้วเกิดใหม่ ตายเป็นสิบเกิดเป็นแสน ณ ชั่วโมงนั้นก็คือพ่อหลอดตาย แล้วตำนานฟีนิกซ์ก็ขึ้นมาเลยแล้วได้งานเพลงได้งานโชว์ของฟีนิกซ์เสียงอิสานจึงเป็นฟีนิกซ์คืนชีพ แล้วก็ได้รุ่นลูกมาต่อยอดศิลปินเสียงอิสานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมหมอลำของพ่อหลอด”

แขกรับเชิญเปิดวงใหม่ทำไมถึงเป็นพี่ฝน? แม่นกน้อย : “รักมาก ดวงใจของแม่”

เห็นว่ามีเรื่องที่เคยสัญญากันไว้ด้วย? ฝน : “ตอนนั้นเราได้ไปเดินสายกับแม่ แม่แบกปัญหาอะไรเยอะ เรารู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ ปีกของแม่โอบอุ้มทุกคน แต่ปีกของแม่หนักมาก แม่ต้องแบกไว้หนักมาก เลยพูดออกไปว่าแม่ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวฝนจะดูแลแม่เอง พูดเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่ได้ไปเดินสายกับแม่”

แล้วโปรเจ็กต์ใหม่ที่คุณแม่ติดต่อไป นึกถึงคำสัญญามั้ย? ฝน : “ใช่ค่ะ หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป บางทีงานที่มันเยอะๆ พอถึงช่วงโควิดมันหายไปหมดเลย มันไม่มีเลย เราแทบจะหมดเนื้อหมดตัวเพราะเราไม่มีงาน ใช้เงินเก่า ใช้บุญเก่า แล้วเราก็รู้สึกว่าเห็นแม่เจอปัญหาหนักหน่วงแต่เราช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย บางทีเราก็รู้สึกเสียใจมาก

แล้วมีครั้งนึงที่มีการไลฟ์สดที่ไปช่วยกันที่บ้านเสียงอิสาน เราไม่มีเงินช่วยแม่แต่เราไปช่วยด้วยกำลังแรงกายของเรา เราไม่มีกำลังเงินที่จะช่วยแม่ได้เลย เรารู้สึกผิดตลอดเวลา ยิ่งไฟไหม้ เราช่วยแม่ไม่ได้ เจอปัญหาที่เขายกเครื่องอะไรไป เราก็ยังช่วยแม่ไม่ได้ แล้ววันที่แม่โทรหาให้เราไปช่วย พี่ฝนร้องไห้บอกแม่เลยว่าฝนรู้สึกคำนี้มันติดอยู่ในหัวเรา ฝนพูดเลยว่าฝนยังไม่มีปัญญาช่วยแม่เลย แต่แม่กลับมาช่วยเรา”

ตอนที่แม่โทรไป พี่ฝนร้องไห้ แม่รู้สึกยังไงบ้าง? แม่นกน้อย : “ปกติศิลปินทุกคนต้องมีอีโก้สูงอยู่แล้วพี่ฝนก็เช่นเดียวกัน แต่ในความที่เป็นแม่ในช่วงชีวิตที่มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ หลังจากวันที่ 20 เมษา 67 ที่ผ่านมาครบรอบ 1 ปีที่พ่อหลอดตายจาก วันที่ 22 ไฟไหม้ แม่ก็ไปไม่ถูกเช่นเดียวกัน คือมันจุก กลืนก้อนน้ำตากลับ เราอ่อนแอไม่ได้ คือทัวร์กับดราม่ามันมาลงเรามากพอแล้ว บอกตัวเองว่าต้องประคับประคองวงตัวเอง หลังจากนั้นได้มีความคิดว่าพอไฟไหม้ คือก่อนที่พ่อหลอดจะตาย พ่อหลอดบอกว่าถ้าจะทำวงต่อนะ ต้องสร้างเอาใหม่ ผมไม่ให้นะ ของผมอย่ามากินบุญเก่า แม่ก็คิดทันทีว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องรวมพลคนเสียงอีสานที่จะมาช่วยกัน”

ฝน : “วันที่แม่โทรมา แม่โทรมาเช้าตรู่เลย แล้วแม่ก็บอกว่าเอาไปพิจารณานะ แล้วก็บอกว่าไม่ต้องพิจารณา ไปจ้า ไปเลย ก็คือตอบเลยทันที”

แม่อยากบอกอะไรพี่ฝนไหมได้ยินแบบนี้? แม่นกน้อย : “แม่อยากบอกพี่ฝนว่ารักมาก รักมากก็ห่วงมาก ในช่วงที่แม่เจอมรสุมต่างๆ มากมาย ไม่ได้คิดถึงพี่ฝนนะ คิดว่าลูกก็คงลำบากเช่นเดียวกันกับแม่ เวลาที่ฮึดสู้ยังจะสู้ไหม สัญญานั้นยังจำได้อยู่หรือเปล่า เพราะว่าศาสตร์ของหมอลำไม่ได้เรียนกันง่ายๆ แล้วถ้าพี่ฝนบอกว่าอยากดูแลแม่ พี่ฝนต้องมาดูแลรุ่นน้องรุ่นต่อๆ ไปแล้วล่ะเพื่อที่แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ต้องทวงสัญญากันแล้วไง”

เสียงอิสานเจออุปสรรคเยอะมาก การสูญเสียพ่อหลอด โควิด ไฟไหม้ แม่เอาแรงจากไหนมาฮึดสู้กับเรื่องพวกนี้? แม่นกน้อย : “สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นการพิสูจน์นั่นก็คือครอบครัวเสียงอิสานซึ่งไม่ไปไหน ทุกคนรอความหวังว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงเก่ง แม่ต้องสู้นะ ห้ามท้อนะ เป็นความหวังของครอบครัว”

เคยมีท้อมากๆ มั้ย? แม่นกน้อย : “ท้อ มีช่วงนึงที่พ่อหลอดอาการหนัก แล้วลูกๆ ในครอบครัวไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทำอะไร โควิดด้วย สองคนแม่กับพ่อคุยกันว่า ผมขอให้คุณยุบวงตั้งแต่เสียงอิสานยุคทองที่เราสองคนมีมากมายจนจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไร แต่คุณดื้อดึงเอง คุณจะยังทำวงต่อ ตอนนี้มีช้อยส์ให้เลือกคือ ขายบ้านตองห้าและยุบวง แม่จะเลือกอะไร แม่ก็บอกว่าแม่เลือกขายบ้านตองห้าเพราะมันเป็นสมบัติของพ่อหลอด ถ้าเหลือส่วนต่างที่รักษาท่าน ส่วนที่เหลือใช้หนี้ว่าจะทำวงต่อ แล้วแม่ก็ออกมาไลฟ์สดว่าแม่จะขายบ้านตองห้า มันไม่แปลกใจเลยที่คนเจอปัญหาแล้วจะฆ่าตัวตาย มันตันไปหมด”

เคยไปถึงจุดนั้นด้วยเหรอ? แม่นกน้อย : “จุดนั้นด้วยค่ะ”

บนความโชคร้ายยังมีความโชคดีเพราะวันที่เกิดไฟไหม้ ไม่ตรงโกดังที่เก็บรถเก็บของเวที หมดเลย แต่วันนั้นลมเปลี่ยนทิศ กำลังจะลามไปถึงบ้านคนงาน? แม่นกน้อย : “ถ้าลมไม่เปลี่ยนทิศก็ไปหมดทั้งบ้านตองห้า”

เสียหายมูลค่ารวมเท่าไหร่? แม่นกน้อย : “เครื่องเสียงของพ่อหลอด ชุด ห้องสตูฯ รถอีกหลายๆ คัน น่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน”

เสียงพ่อหลอดดังมาในหูเลยไหมว่าถ้าจะทำวงใหม่คุณต้องเริ่มใหม่? แม่นกน้อย : “ดังมาเลย ตอนแรกแม่น้ำตาไหล พอเสียงเพราะหลอดแว่วมา แม่กลืนก้อนน้ำตากลับเข้าไป ไม่เป็นไร ถ้าพ่อไม่ให้ พ่อเอาของพ่อไป แม่จะสู้ใหม่”

แม่จะเกษียณตัวเอง? แม่นกน้อย : “ความหมายของแม่คือ แม่ประเมินอายุ อย่างฝน ธนสุนทร ก็กลับมา ปอยฝ้ายก็กลับมา แล้วมีลูกๆ ที่กำลังออดิชั่นเข้ามา ทุกคนให้ความสนใจและยินดีที่จะมาต่อยอดศาสตร์หมอลำ แล้วแม่เคยบอกว่าถ้าแม่อายุ 70 แม่จะขึ้นเวทีไหวมั้ย แล้วเด็กพวกนี้จะไม่ให้เราพักเลยเหรอ”

แม่ทุ่มงบทำวงใหม่เท่าไหร่? แม่นกน้อย : “คือไฟมันไหม้หมด ทุกอย่างไปกับไฟหมด น่าจะ 50 กว่าล้าน”

มีคอมเมนต์แรง “แก่ใกล้จะตายมาทำวงอีกทำไม” อันนี้เป็นคำพูดที่โดนมา? แม่นกน้อย : “บางครั้งแม่ก็ออกมาโพสต์แล้วทิ้งเบอร์โทรเลย สายตรงมาเลยข้องใจอะไร”

รู้สึกยังไงที่คนคิดแบบนี้ เราเหนื่อยแทบตาย? แม่นกน้อย : “แม่คิดเลยว่า เราเป็นดารา เราดัง คนสนใจ ถ้าเราเป็นคนธรรมดาทั่วไปใครจะเข้ามาสนใจชีวิตเราเหรอ ไม่เป็นไร เราเป็นดารา เรารับได้ คิดมุมนี้ค่ะ ถึงผ่านได้เพราะมันเยอะมาก”

อยากบอกอะไรซึ่งกันและกันบ้าง? ฝน : “ต้องบอกว่าแม่คือแสงสว่างของฝนจริงๆ แม่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก แม่คือฮีโร่ของฝน ฝนจะดูแลแม่ตลอดไปค่ะ”

แม่นกน้อย : “อยากบอกฝน ธนสุนทร ว่าฝนคือดวงใจของแม่นกน้อยค่ะ”

noknoi fon 5

noknoi fon 2

noknoi fon 6

noknoi fon 4

noknoi fon 7

noknoi fon 3