จากกรณีที่ได้มีข่าวประเด็นเกี่ยวกับ เอก สายเต๊าะ ออกมามากมาย จนทำให้ชาวเน็ตไม่พอใจกับพฤติกรรมบางอย่างที่ได้กระทำนั่นเอง โดยทางด้าน กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ เป็นอดีตภรรยา ศรราม เทพพิทักษ์ ได้เผยคลิปผ่านทาง TIKTOK @mama.veeji ขณะที่ได้เดินทางไป สน.ดอนเมือง เพื่อเยี่ยมเอก และได้เผยอีกว่า วันนี้มาเยี่ยมเขาที่ สน.ดอนเมือง และที่หลายคนพาดพาดพิงว่าทำไมมาคบคนไม่ดี คนเลว มีเพื่อนเลว เพื่อนชั่ว กุ้งพลอยก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า ในการทำงานของเรา กุ้งพลอยเคยล้ม เคยผิดพลาดเหมือนกัน แล้วตอนนั้นก็ยังมีคนให้โอกาสเลย วันนี้ก็เชื่อว่าคนล้ม คนพลาด ก็ลุกขึ้นได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเขาออกมาจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเองยังไง แต่เราเชื่อว่าเขาสามารถทำได้ แล้วที่นี้อยู่ที่สังคมแล้ว ว่าจะตัดสินยังไง ให้โอกาสหรือไม่ให้โอกาส แต่เราเชื่อเสมอว่าคนล้มอย่าข้าม

เรามาเยี่ยมเพื่อนเรา ซื้อข้าว ซื้อน้ำ ซื้อนม แล้วก็กล้วยปิ้งมาให้ เพราะเขาต้องนอนที่นี่ เพราะฉะนั้นสำหรับเราเราเป็นเพื่อน เราดูแลกันในส่วนของการทำงาน อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ว่าไปตามถูก เพราะฉะนั้นคนที่ทำผิดก็ได้รับผิดตามความสมควร แต่ระหว่างเราและเพื่อนเรา เราให้โอกาสเพื่อนเราเสมอ ในความเป็นเพื่อนก็ต้องแยกแยะกันนะคะ

ตอนนี้เขาอยู่ชั้น 2 และได้รับการลงโทษของเขาเรียบร้อยแล้ว เราทำหน้าที่ของเพื่อนได้เท่านี้ ซัปพอร์ต ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เขาโดนด่าเยอะแล้ว ส่วนเราก็ได้ต่อว่าเขาไปแล้วนิดๆ หน่อยๆ ว่าต้องปรับเปลี่ยน แล้วก็เตือนสติ กุ้งพลอยให้โอกาสคน ให้โอกาสตัวเองและผู้อื่น เชื่อว่าเขาทำสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้

และในโพสต์ถัดไปจะลงรูป เอก สายเต๊าะ พร้อมใส่ข้อความว่า มึงออกมากูจะพามึงไปบวช รับกรรมที่ทำไว้ให้หมด แล้วออกมาจากคุกเป็นคนดีของสังคม ให้ได้ กูไม่สนับสนุน ในสิ่งที่มึงทำ มันคือการสร้างความเดือดร้อนให้สังคมและผู้อื่น แต่กูก็ยังเชื่อในสิ่งที่มึงสัญญากับกูนะ ว่ามึงจะเปลี่ยนแปลงและแก้ไขให้ดีขึ้น ถ้ามึงอ่านช็อตโน๊ตกูทุกวันในคุก มึงจะออกมามึงทำได้ ถ้ามึงเปลี่ยนใจกลับเนื้อกลับตัว มึงจะเป็นคนดีของสังคมได้ ดอกไม้ชีวิตมึงจะเบ่ง

งานนี้ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันต่างๆนานา อาทิ ไปเป็นเพื่อนกันตอนไหน, หาแสง อยากได้แสงหรือเปล่า, รู้จักกันดีแค่ไหน ถึงเชื่อว่ามันจะดีขึ้น, ถ้าออกมาแล้วเอาเอกไปอยู่ด้วยนะ ไหนๆ ก็ช่วยเหลือแล้ว, เป็นบุญของพี่หนุ่ม ศรราม เป็นต้น

เรียบเรียง news.in.th

โลดแล่นอยู่บนเส้นทางบันเทิงมายาวนานมากๆ สำหรับอดีตพระเอกดังยุค90 แจ็บ เพ็ญเพ็ชร ปัจจุบันอายุ 48 ปีแล้วแต่ยังคงหล่อเหลา

แถมฝีมือการแสดงไม่มีตก ล่าสุดเจ้าตัวได้มานั่งเปิดใจรายการ Club FridayShow ย้อนอดีตชีวิตเมื่อก่อนเคยเจ้าชู้และรักสนุกมาก เป็นผู้ชายเรียบร้อยมากี่ร้อยก็เรียบ แต่พอเจอคนที่ใช่จริงๆ เจ้าชู้มันเลิกได้!

โดย แจ็บ เพ็ญเพชร เผยว่า “สมัยเด็กๆ ไม่ได้สนใจเรื่องให้เกียรติกับแฟนเรามากเท่าไหร่ ก็ไปคุยกับคนนั้น คนนี้ ไปเรื่อยครับ

ไม่ค่อยรู้สึกผิดเท่าไหร่ จะรู้สึกตอนจับได้ จับได้ก็ไม่รับ รับก็รับไม่หมดครับ เผลอก็ทำใหม่”

เมื่อถามว่าเคยหักอกนางเอกหรือไม่? แจ็บ ตอบชัดเจนว่า “ไม่เคยเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำให้เขาหักอกเรามากกว่า

แต่เคยทำให้เขาเจ็บ จนเขาขอเลิกไปเอง “เขาไม่ไหวแล้ว ไปดีกว่า เพราะโดนส่วนตัวเราเป็นเพื่อนที่ดี แต่เป็นแฟนที่ไม่ดี”

ทั้งนี้แจ็บยังได้พูดถึงรักแท้ เมื่อได้มาเจอภรรยาคนนี้ว่า คนนี้เข้ากับเราได้หมด ทั้งเรื่องส่วนตัวนิสัยใจคอ การพูดการจา

ซึ่งเราคิดว่าคนนี้เราพลาดไม่ได้เพราะอาจจะไม่เจอคนแบบนี้อีกแล้ว ณ วันแต่งงานตั้งปณิธานไว้ว่า

“เราจะไม่เป็นแบบที่เราเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ลูกคือจุดโฟกัสเราไม่อยากให้ให้เขามีชีวิตที่ไม่ดีในอนาคต เราต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีจากนั้นก็เปลี่ยนเลย

วันที่ 20 ก.ย.2567 ในโซเชียลมีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งหลังจากที่ไปเข้าพักห้องเช่าแบบรายวันแห่งหนึ่ง

แล้วต้องกับสภาพห้องพักที่หลายๆคนถึงกับแซวว่า ไปนอนแล้วคงต้องมีเรื่องแปลกๆกลับมาเล่าบ้างแล้วละ

โดยสมาชิกกลุ่มผู้บริโภครายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ชีวิตแฟนผมมีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวันครับ คืนละ500+กุญแจ300=800

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก บางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า ปกติฟังสดหรือย้อนหลังเป็นหลักครับ

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ท.ดิลก ปรีดาศักดิ์ สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณด้านข้างแฮปปี้แลนด์เซ็นเตอร์ ถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสามูลนิธิสยามรวมใจ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณซอยข้างห้างแฮปปี้แลนด์ เซ็นเตอร์ ที่บริเวณด้านหลัง ห้าง พบศพนายคุน ชิน มัน (Khun Shin Mon) ชาวเมียนมา อายุ 34 ปี อาชีพช่างทาสี ในสภาพสวมเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกแทงที่คอฝั่งซ้าย 1 แผล และหน้าอกซ้าน 1 แผล เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนมอบหมายให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปีสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาดำ กางเกงขายาวสีเข้ม โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดพกแทงคอผู้ตาย จากนั้นผู้เสียชีวิตพยายามจะตามไล่ไปทำร้ายร่างกายคืน แต่จากบาดแผลที่ถูกแทงทำให้เสียเลือดมาก ก่อนจะล้มลงหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพของมูลนิธิสยามรวมใจได้พยายามทำ CPR นาน 40 นาที แต่ไม่ตอบสนองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ผู้ก่อเหตุหลังกระทำความผิดได้หลบหนีไป

จากการสอบสวน นางนัง โฮม (NANG HONE) ชาวเมียนมา ภรรยาผู้ตาย ได้ความว่า จากการดูภาพจากกล้องวงจรปิด ตนไม่รู้จักกับชายผู้ก่อเหตุมาก่อน โดยขณะเกิดเหตุสามีได้อยู่กับเพื่อนอีกคนนึงภายในห้อง และขณะออกมาจากห้องพัก ปรากฏว่ามามีเรื่องกับชายคนดังกล่าวและถูกแทงเสียชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ออกตามหาผู้ก่อเหตุตามรูปพรรณสัณฐานที่พบจากกล้องวงจรปิด ในย่านที่เชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งที่อยู่ของชาวเมียนมา พร้อมมอบหมายให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่ง สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรศพตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่า สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวไทยใช้รถจักรยานยนต์ดัดแปลงหรือ custom ให้คล้ายรถ harley davidson โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะผู้ชายคนดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทำร้ายเพื่อนของผู้เสียชีวิต ก่อนชักมีดเข้าไปแทงผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตาย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กรุงเทพมหานคร รายงาน

วันที่ 21ก.ค.67 พ.ต.ต.ปรีชา เข็มศิริ สว.(สอบสวน)สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกง หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถชนคนบนทางด่วนบูรพาวิถีกม.40+300ขาเข้ากทม.หมู่ 6 ต.บางวัว อ.บางปะกง พบรถกระบะ สีขาว จอดอยู่ข้างทางติดขอบทาง

โดยยางหลังฝั่งขวาแตก และมีอุปกรณ์เปลี่ยนยางตกอยู่บนถนน บริเวณหน้ารถพบร่าง นายธีรยุทธ อายุ 31 ปี คนขับรถกระบะนอนเสียชีวิต ซึ่งมีภรรยา และคนในครอบครัวนั่งร้องไห้อยู่ข้างตัว

ใกล้กันพบรถบรรทุกหกล้อ สีขาว มีรอยบเฉี่ยวฝั่งซ้ายจอดอยู่ มีนายเมทนี อายุ 32 ปี เป็นคนขับสอบสวนนายเมทนี ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถเข้ากทม.พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตนมองไม่เห็น นายธีรยุทธ ที่นั่งเปลี่ยนยางอยู่ข้างถนน ทำให้เฉี่ยวชนร่างนายธีรยุทธ จนกระเด็น

ด้านน.ส.วารี อายุ 62 ปี แม่นายธีรยุทธ ให้การว่า ลูกชายกำลังขับรถไปเยี่ยมญาติที่นครปฐม ซึ่งมีภรรยากับลูก 3 คน และแม่กับพ่อไปด้วย โดยเพิ่งขับขึ้นทางด่วนรบูรพาวิถีไม่ถึง 5 นาที ยางหลังฝั่งขวาเกิดแตก จึงประคองรถไปจอดข้างทาง โดยไม่ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนที่ลูกชายจะรีบลงไปเปลี่ยนยางเอง โดยมีพ่อลงไปโบกท้ายรถให้ แต่ระหว่างนั้นตนก็ได้ยินเสียงข้างรถ จากนั้นก็รีบลงไปดู ก็พบว่าลูกชายถูกรถชนไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะสอบสวนทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม มีรายงานจากกู้ชีพนพรัตน์ว่า เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บถูกแทงที่ห้างใกล้แฮปปี้แลนด์เสียชีวิต ยังอยู่สภาพเดิม รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

ในขณะที่ทาง NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ได้มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด เผยภาพคนที่ถูกแทง ก่อนหมดสติ คือคนเสื้อขาว ส่วนผู้ก่อเหตุใส่เสื้อลายขาวดำ

เรียกได้ว่าหลายคนอาจมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องดวงใช่ไหมคะ โดยวันนี้ทีมงานสยามนิวส์จะพาไปเปิด 2 ราศีต่อไปนี้ ดวงซวยหนัก หนี้สินพัวพัน ชีวิตไม่สุขสบายสักที เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก ชีวิตติดขัดสุดๆ ไปเลยช่วงนี้

เพราะนอกจากการเงินที่ฝืดเคือง รายได้ที่ลดน้อยลง ยังต้องเจอกับปัญหาหนี้สินบานปลาย ไม่สามารถผ่อนปลนหรือเจรจาได้ อาจจะต้องลองหาทางขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ได้แก่ ราศีสิงห์ ราศีพิจิก

เรียบเรียง สยามนิวส์

อดีตนางเอกในตำนาน จิ๊ก เนาวรัตน์ ได้มาพูดคุยในรายการ ขมคอ Story Podcast และบางช่วงบางตอนได้กล่าวถึงลูกชายที่ตอนนี้แต่งงานออกเรือนเป็นฝั่งฝาแล้วจิ๊ก เนาวรัตน์ พูดไว้ในรายการขมคอ story ถึงประเด็นเรื่องลูกว่า

“คำว่าลูก อย่าหวังให้เขามาเลี้ยงเรา หรือให้เราไปเป็นภาระเขา เรามีลูกชาย เขาไปสร้างครอบครัว เขาไปมีเมียมีลูก จำไว้นะอย่าต้องไปเกลียดลูกสะใภ้ ว่าเขาเอาลูกเราไป แล้วเขาไม่มาดูแลเรา ทุกคนจะเจอหมด อยู่ที่เราต้องทำใจ คิดเสียว่าในโลกใบนี้ศีลเราเสมอกันเขามาอาศัยท้องเราเกิด เราเลี้ยงเขาให้โต เขาจะไปจากเราจะอยู่กับเรา หรือจะดีกับเขาอันนี้อยู่ที่เขาแล้ว เราไม่สามารถไปบังคับเขาได้

เขาก็เป็นคนคนหนึ่งที่เป็นลูกเรา แต่ก็เป็นคนคนหนึ่งที่จะเลี้ยงดูเราหรือไม่ อยู่ที่ตัวเขาเอง แม่ว่านะ เราอย่าไปชี้บอก เธอต้องมาเลี้ยงดูฉันนะ คำพูดพวกนี้พูดไปมันก็บั่นทอนกัน”