นักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน มารับรางวัล รางวัล “เอ๊ะ? Awards by TK Park” ในงาน Learning Fest Bangkok 2024 ภายหลังรับรางวัลเสร็จ เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์พูดถึงผลงานละครเรื่อง พระจันทร์แดง และ ดวงใจในมนตรา ที่เล่นคู่กับแฟนสาว ณิชา ณัฏฐณิชา ไปฉายที่ประเทศอินโดนีเซีย
ละครได้ไปฉายที่ต่างประเทศ ? “เรื่องแรกมันชื่อเรื่องว่า “พระจันทร์แดง” แล้วพอดีว่ากระแสตอบรับมันดีมาก ทางอินโดนีเซียเขาก็เลยอยากจะดูผลงานของเราอีก เลยได้เป็น “ดวงใจในมนตรา” ก็รู้สึกดีใจครับผม ไม่เคยคิดว่าเราจะมีแฟนคลับที่ชอบละครเราจากต่างประเทศ”
“ตอนแรกเรางงทำไมเขามาพิมพ์ ไทเกอร์ศมา คือเราเล่นเป็นเสือชื่อศมาก็เลยไปดูในคอมเมนต์ถึงได้ทราบว่าอ๋อ…เขาไปออนที่อินโดฯ แล้วทีนี้พอกระแสตอบรับดีก็เป็น “ดวงใจในมนตรา” พี่หน่อง(อรุโณชา ภาณุพันธุ์)ส่งมาบอก ดีใจครับ แฟนๆ ก็อยากให้เราไปจัดมีตแอนด์กรี๊ดที่นู่น แต่ด้วยจังหวะเวลาด้วยงานของเราที่นี่มันก็ยังไม่มีช่วงเวลาที่มันจะไปได้”
“ผมชื่นใจในฐานะที่เราเป็นนักแสดง เราก็รักในงานของเราและทำเต็มที่ แต่ตอนที่ทำเราไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องไปถึงต่างประเทศ เราแค่โฟกัสกับบทบาทของเรา คือเพราะความตั้งใจมันไม่ใช่แค่จากผมนะ จากผู้กำกับ จากนักแสดงทุกท่าน มันเริ่มมาเห็นผลจนทำให้ต่างชาติเขาให้ความสนใจ มีแฟนคลับที่ติดตามเราจากที่โน่นก็เป็นความภูมิใจ มันก็เป็นกำลังใจที่เราอยากจะพัฒนาตัวเองต่อไป”
“ผมก็เห็นแฟนๆ แท็กกันมาเยอะพอสมควร แล้วผมคิดว่าทุกคนทำดี นักแสดงทุกท่านช่วยกัน แล้วตัวผู้กำกับเองก็ตั้งใจ ซึ่งเป็นความบังเอิญที่พี่ใหม่(ภวัต พนังคศิริ) กำกับทั้งสองเรื่องเลยทั้งพระจันทร์แดงและดวงใจในมนตรา”
แล้วได้เตรียมตัวไหมว่าอาจจะมีแฟนมีตฯ จริงๆ? “ต้องให้พี่เมย์ผู้จัดการดูคิว แล้วก็ต้องอยู่ที่ณิชาด้วยว่าคิวตรงกันมั้ย เพราะเราก็อยากให้พี่หน่อง(ผู้จัด)มีกำลังใจ เหนื่อยกันมา บางทีบางเรื่องอาจจะถูกจริตคนไทย แต่บางเรื่องอาจจะไปถูกจริตคนต่างชาติ คือขอให้เราตั้งใจกันไว้เถอะครับเพราะว่ามันก็เป็นหน้าที่ของเรา”
“แล้วคือทุกวันเนี่ยมันยากที่เราจะมาบอกว่าทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จ คือมันมีหลายแพลตฟอร์มหลายทางให้แฟนจากทั่วโลกได้เลือกดู เราในฐานะของคนสร้างคนผลิต และนักแสดง ผมว่าเราโฟกัสเล่นอย่างเดียวก็คือทำให้มันดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”
แล้วกับณิชามีเรื่องต่อไปหรือยัง ? “ตอนนี้ผมกับณิชาคิวแน่น คิวไม่ตรงกันเลย ผมก็มีถ่ายน้องก็มีถ่าย”
แล้วเขินไหมถ้าจะต้องเล่นด้วยกันอีก ? “(ยิ้ม) คือเราเคยคุยกันไว้นะว่าพอจบดวงใจในมนตราแล้ว เรายังไม่ต้องมาเล่นด้วยกัน คือผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน คือเวลาที่เราเล่นแล้วมันแตกต่างถ้าเน้นแต่จะขายจิ้นตัวผมเองไม่ถนัด”
“ผมมองว่าการแสดงคือการแสดง ผมไม่ได้มองว่าต้องมาเล่นกับคนนี้เพราะกระแส ผมจะเล่นเพราะว่าบทนี้มันดีมันท้าทายเรามันให้อะไรกับคนดู ไม่ได้มองว่าถ้ามาเล่นกับคนนี้แล้วจะดัง ผมไม่เคยใช้ตรงนั้นในการตัดสินใจในการรับงานเลย แต่ถ้าบทมันใช่เวลามันใช่ผมยินดีพร้อมเลยครับ”
ถ้าเล่นเป็นคู่รักกันในเรื่องมันจะเป็นยังไง ? “ตบจูบอย่างงี้หรอครับ (ความในใจหรือเปล่า ?) ไม่ใช่ครับ หมายถึงว่าฉีกบ้าง เพราะว่าที่เล่นกันมามันจะรักกุ๊กกิ๊ก หรืออาจจะลองให้ผมเล่นเป็นตัวร้ายบ้าง ณิชาเป็นนางเอกก็ได้แล้วคนอื่นเป็นพระเอกก็ได้ ผมคิดว่าเราเป็นนักแสดงมันค่อนข้างที่จะอิสระที่เราจะไปเป็นใครก็ได้ ขอแค่เราทำให้มันดี”
แสดงว่ามีแนวทางชัดเจนถ้าหากจะต้องร่วมงานกับณิชา ? “จริงๆ มันมีติดต่อมาตลอดแหละครับให้เล่นคู่กัน แต่ด้วยเรื่องของบท เรื่องของระยะเวลาด้วย เพราะว่าตอนนี้ณิชาก็มีเส้นทางของเขาที่อยากจะทำ ส่วนของผมก็เช่นกัน มีหนังมีซีรีส์ที่ต้องรับผิดชอบ ผมว่าสักวันนึงถ้ามันใช่ก็อาจจะต้องได้กลับมาเจอกันอีก”
เปลี่ยณิชาเล่นเป็นผู้หญิงร้ายๆ เราเป็นผู้ถูกกระทำ ไหวไหมบทนี้ ? “(ยิ้ม)ผมกำลังคิดว่ามันได้หมด อย่างที่บอกว่าการแสดงผมว่ามันหลากหลาย ท้าทายอยู่เสมอ แต่ถ้าจะให้มาเล่นเพราะว่ามีข่าวกันในชีวิตจริงเลยมารับงาน คือผมไม่ถนัด งานก็คืองาน ถ้าจะเอากระแสในเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน ผมไม่ทำอย่างนั้นครับ ถ้าผมไปขายจิ้นผมไม่ถนัดครับ”
แต่ไม่เขินใช่ไหมมาร่วมงานกับณิชา? “ไม่เขินครับ แต่ถามว่ามันมีขั้นตอนที่ยากขึ้นมั้ย มันก็ต้องมีบ้างอยู่แล้วแหละในความรู้สึก แต่ในฐานะนักแสดงผมว่าเราต้องทำให้ได้”