Home Blog Page 125

สุดกลั้น! สุนารี ปล่อยโฮกลางงานพิธีฌาปนกิจ หลัง อ่านประวัติของคุณแม่

นับว่าเป็นเรื่องเศร้าของนักร้องลูกทุ่งอย่าง สุนารี ราชสีมา ที่ได้สูญเสียคุณแม่ยม สอนนา อายุ 97 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 เวลา 12.30 น. สุนารี ได้ประกอบพิธีสวดมาติกาและทอดผ้าบังสุกุล อุทิศส่วนกุศล ให้กับคุณแม่ยม ก่อนเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดทำนบพัฒนา ในเวลา 14.00 น.

โดยก่อนเคลื่อนย้ายศพได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป ประกอบพิธีสวดมาติกา หลังจากนั้นได้ประกอบพิธีทอดผ้าบังสุกุล 15 ชุด โดยมีศิลปินแห่งชาติ 2 ท่าน ได้แก่ ครูสลา คุณวุฒิ และกำปั่น บ้านแท่น เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่เเละศิลปินดารามาร่วมพิธีกันอย่างมากมาย

หลังจากนั้น สุนารี ราชสีมา ได้อ่านประวัติของคุณแม่ยม สอนนา ด้วยตัวเอง โดยระหว่างที่อ่านประวัติสุนารี ถึงกับน้ำตาคลอสะอื้นเสียใจ ก่อนที่ผู้ร่วมงานทั้งหมดจะพร้อมกันยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที หลังจากนั้นผู้ร่วมงานทั้งหมด ได้มาวางดอกไม้จันทน์ ไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นได้ตั้งขบวนเคลื่อนศพของคุณแม่ยม ไปที่เมรุวัดทำนบพัฒนา เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณของแม่ยม ไปสู่สรวงสวรรค์

ด้านครูสลา คุณวุฒิ กล่าวว่า สุนารีเหมือนเป็นน้องสาวตน เพราะทำงานร่วมกันมานาน โดยเฉพาะรายการไมค์ทองคำ ทำร่วมกันมานานกว่า 10 ปี และสุนารีเป็นคนที่นิสัยดีมาก เป็นผู้หญิงแบบบ้านๆ มีความจริงใจกับเพื่อนร่วมงานทุกคน ใครทำงานด้วยกันแล้วจะรักหมดทุกคน ซึ่งวันนี้เป็นวันสูญเสียครั้งสำคัญของสุนารี ตนจึงเป็นตัวแทนของศิลปินมาร่วมให้กำลังใจ สุนารี ไม่ใช่เฉพาะตนเท่านั้นที่รัก สุนารี สังเกตได้จากวันนี้มีประชาชนเดินทางมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศมาให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น

เรียบเรียง news in thailand

แห่ปลอบ พระเอกดัง ร้องไห้หนัก เลิก แฟนสาว ที่คบนาน 5 ปี

อีกหนึ่งพระเอกหนุ่มมากฝีมือ สำหรับ ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต เราจะเห็นผลงานของ หนุ่มไอซ์ มากมายหลากหลายด้าน ความสามารถล้นเหลือ งานปัง งานเด่น แต่สำหรับความรัก

เจ้าตัวเปิดใจร้องไห้หนักมาก เมื่อต้องเลิกกับแฟนสาวที่คบกันมานาน 5 ปี โดยได้มาเปิดใจในรายการ หลังไมค์ UNCENSORED เผยว่า เป็นวันที่พังที่สุด ร้องไห้หนัก

รองลงมาจากตอนที่เสีย คุณพ่อ ถามว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะเข้ามาทำให้ตนเปิดใจได้อีกครั้ง ยอมรับว่า ยาก เพราะไม่แน่ใจตัวเอง แต่เน้นความสบายใจเป็นหลัก

เปิดพฤติกรรม เชอรีน สร้างโปรไฟล์ตัวเอง ล่อเหยื่อมาลงทุน ก่อนโศกนาฏกรรม 6 ศพ

จากกรณีพบผู้เสียชีวิต 6 ราย เป็นชาวเวียดนาม ภายในห้องพักโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ในพื้นที่ สน.ลุมพินี โดยถูกวางไซยาไนด์ ก่อนมีรายงานว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำวางยาทั้งหมด สาเหตุมาจากปมหนี้สิน 10 ล้าน ที่ชักชวนมาลงทุน

ล่าสุดวันที่ 17 ก.ค.67 ชุดสืบสวน บกน.5 ได้สอบปากคำสามีของ น.ส.ธิ เหงียน เฟือง ลาน (หมายเลข 2) ที่เป็นชาวเวียดนาม แต่ไปทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ทราบว่า เจ้าตัวอ้างว่า ไม่รู้ว่าแฟนสาวทำธุรกิจอะไร และปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ไปทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น เพียงแต่ไปท่องเที่ยวเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำทราบว่า พฤติกรรมของ น.ส.เชอรีน ชอง อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งคาดว่าเป็นคนก่อเหตุ มักจะทำให้ตัวเองดูมีความน่าเชื่อถือ จะบอกกับเหล่าแวดวงนักธุรกิจชาวเวียดนามว่า ตัวเองเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันที่ประกอบธุรกิจมากมาย แล้วจะชวนคนมาร่วมลงทุนด้วย

และหลังจากรู้จักสนิทสนมกันแล้ว ก็จะยืมเงินเป็นจำนวนมาก อย่างกรณีที่ยืมเงิน น.ส.ธิ เหงียน เฟือง (หมายเลข 1) และ นายฮง ฟาม ธาน อายุ 49 ปี (หมายเลข 6) เป็นสามีของ น.ส.ธิ เหงียน เฟือง

เปิดตัวนางร้ายคนใหม่ ช่องมากสี แฟนๆแห่ชม แถมดีกรีไม่ธรรมดา!

เรียกได้ว่าเป็นนางร้ายป้ายแดงสำหรับช่อง7อย่าง ศิตา ชุติภาวรกานต์ ซึ่งเธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะ Media and Communication สาขา Economics and Production, University of New South Wales ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

ล่าสุดตอนนี้ ศิตา กำลังมีละครเรื่อง ขวัญหล้า ที่เเฟนๆช่อง7ได้ดูผลงานการเเสดงเธอเเล้วต่างยกนิ้วให้เธอเลย บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับนางร้ายคนใหม่อย่าง ศิตา ชุติภาวรกานต์

เรียบเรียง news in thailand

ผลหวยลาววันนี้ 17 กรกฎาคม 67

ตรวจผลหวยลาว งวดประจำวันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 20:00 น. ของวันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

หวยลาววันนี้ งวดประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2567

หวยลาวเลข 6 ตัว

xxxxx

หวยลาวเลข 5 ตัว

xxxxx

หวยลาวเลขท้าย 4 ตัว

xxxx

หวยลาวเลขท้าย 3 ตัว

xxx

หวยลาวเลขท้าย 2 ตัวบน

xx

เลข 2 ตัวล่าง

xx

สลากพัฒนา5/45

xx

xx

xx

xx

xx

คลิป

‘นุ่น รมิดา’ เคลียร์แล้วภาพสามี ‘หลุยส์ สก๊อต’ อุ้มเด็กน้อยที่แท้ลูกใคร

ก่อนที่จะมีคนเข้าใจผิดงานนี้ทำเอาสาว นุ่น รมิดา ถึงกับต้องออกมาโพสต์ชี้แจงทันที กับภาพข่าวที่สามีอย่างหลุยส์ สก๊อต กำลังอุ้มเด็กน้อย ซึ่งในภาพก็มีข้อความให้คิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของทั้งคู่ โดยทางด้านนุ่น รมิดา ได้โพสต์ข้อความชี้แจงไว้ว่าเป็นลูกใคร

“เดี๋ยวอันนี้อะไร นั่นเฟญาลูกพี่บอยมั้ย #แต่เราดูเหมือนแม่ลูกอ่อนเหมือนกันนะ ถึงว่ากลับชัยภูมิมีแต่คนถามมีน้องแล้วเหรอค่ะ #พอก่อนเบาได้เบา”

ซึ่งงานนี้คุณพ่อตัวจริงอย่างบอย พิษณุ ก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า “โอยยยย ข่าวหนอ ” ส่วน หลุยส์ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ติดตลกต่ออีกว่าว่า “ก็แสดงว่าพี่ @boy_pisanu ขโมยลูกผม”

รวมถึงหลายคนที่อวยพรให้ นุ่น รมิดา มีลูกเร็วๆ และเมื่อมีคอมเมนต์บอกว่า “นึกแต่ว่าเรื่องจริง อุตส่าห์ดีใจอย่างแรง” ทางด้าน นุ่น รมิดา ก็ตอบชัดด้วยว่า ” งื้อ นิก็อยากได้ค่ะ”

น้ำ รพีภัทร พูดถึงใคร ชาวเน็ตฟังแล้ว ลั่น เป็นห่วง

หลายคนต่างตกใจเมื่อ น้ำ รพีภัทร โพสต์คลิประบายลงโซเชียล ที่มีการพูดถึงเพื่อนคนหนึ่ง โดยบอกว่า “เพื่อนกัน ไม่ใช่เป็นเฉพาะมีความสุข คุณอายุเท่าไหร่แล้ว 40 ผมก็ 40 เรื่องเล็กว่ะ คุณแย่ อีโก้ ลดอีโก้ลงบ้าง

เชื่อผมปะว่าความทุกข์คุณเหมือนกับความทุกข์ผม ผมก็ทุกข์ อย่าทุกข์เยอะ ทุกข์เยอะ มันก็เข้าที่ช่างมันก็เกิน อย่าทุกข์ขนาดนั้น เพราะทุกข์เยอะ เข้าด่านตรวจมันก็เกิน เพื่อนเอ้ย ขอบคุณครับ จุ๊ฟ”

ทำเอาแฟนคลับคอมเมนต์สนั่น อาทิ พ่อไม่ว่าไหร่ๆ, อันนี้ยังไม่เป็นซุปเปอร์ไซย่านะ, เข้าใจครับลูกพี่, FC น้ำ เสมอเป็นคนเป็นกันเองมาก ไม่มีถือตัว, ดูแลตัวเองครับหัวหน้า, เป็นห่วงค่ะ เป็นต้น

ฮือฮา แฟนสาวทุ่มสุดตัว ให้นาคแฟนหนุ่มขี่คอวนรอบโบสถ์ หลวงพี่เปิดใจหลังบวช ไม่คิดแฟนจะทำจริง

วันที่ 17 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้คนในโซเชียลต่างพากันฮือฮากับภาพแฟนสาวให้นาค ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ขี่คอแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ พร้อมคลิปภาพการซ้อมก่อนวันงานจริง จนมีผู้คนพากันแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังหลวงพี่เต้ หรือ พระสมรักษ์ รุ่งเรือง เล่าว่า ตนคือเจ้านาคตามภาพที่ปรากฏในโซเชียล รู้สึกตื่นเต้น ดีใจมากๆ ไม่คิดว่าแฟนสาวคือน้องไอซ์ จะทุ่มสุดตัวสุดใจ ในการให้ตนในเวลานั้นเป็นเจ้านาคขึ้นขี่คอวนรอบโบสถ์ 3 รอบ ทั้งขย่ม ทั้งเต้น

ตนและแฟนสาว เป็นคนบ้านเนินกระถิน ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้จัดงานบวชขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2567 และก่อนหน้าจะถึงวันบวช แฟนสานคือน้องไอซ์ ก็มีการซ้อมด้วยการให้ตนขี่คอรอบบ้าน

ตอนแรกก็ขำๆ คิดว่าน้องไอซ์จะทำเล่นๆ แต่พอวันจริง ที่มีการแห่นาคจากบ้านไปวัดวังเย็น พอเข้าในกำแพงโบสถ์ ก็เอาจริง น้องไอซ์แต่งชุดราตรีสีขาวมาอย่างสวยน่ารัก พร้อมให้เจ้านาคขึ้นขี่คอ สร้างความฮือฮาไปทุกสายตา บนความสนุกสนาน

ฮือฮา แฟนสาวทุ่มสุดตัว ให้นาคแฟนหนุ่มขี่คอวนรอบโบสถ์ หลวงพี่เปิดใจหลังบวช ไม่คิดแฟนจะทำจริง

ขณะเดียวกัน ยังจะเห็นว่าเจ้านาคได้หว่านโปรยกัลปพฤกษ์แบบไม่อั้น ไม่มีหมด ในขบวนแห่ในรอบโบสถ์ ทราบว่าเป็นเงินที่ทั้งสองเก็บออมทำกัลปพฤกษ์สะสมมาไว้เพื่อวันนี้

พิธีกรดัง สงสารพร้อมช่วย ลิลลี่ เหงียน ดันเข้าวงการ หลังยกหนี้ให้อยากเป็นนักแสดง

เรียกได้ว่า เป็นอีกคนที่กำลังมาแรง อย่าง ลิลลี่ เหงียน ที่ก่อนหน้านั้นได้ไปออกรายการโหนกระแส ปมยืมเงิน และในรายการนั้นมีการพูดคุย ที่ทำเอาชาวเน็ตต่างชื่นชอบ ลิลลี่ เพราะเธอได้เผยถึงเรื่องราวที่ไปรู้จัก ปู ด้วยว่า รู้จักพี่เขาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รู้จักผ่านรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทกัน วันนั้นได้ไปกินอาหารญี่ปุ่นแล้วเจอพี่ปู วันนั้นเป็นวันแรก ตอนนั้นลี่โดนข่าวเอิร์ก เลเดอเรอร์โกง

พอรู้จักพี่เขา เขาบอกจะพาน้องลี่ไปหาผู้ใหญ่ เข้าวงการเข้าให้ถูกคน น้องลี่จะได้ไม่โดนหลอก โดนโกงอีกนะ วงการบันเทิง หนูอยากเป็นดารา อยากเป็นนักแสดง อยากเป็นผู้จัด หนูเลยอุ้ย ดีใจจัง เราเข้ามาในวงการเสียเงินเยอะมาก โดนหลอกเยอะมาก พอเจอพี่ปู พี่ปู เขาเป็นนักแสดง หนูเป็นแฟนคลับตั้งแต่เด็ก ชื่อเสียงบารมีครอบครัวก็ถือว่าดังที่สุดแล้ว หนูก็ดีใจ ก็โอเค วันรุ่งขึ้นพี่เขาก็โทรมา น้องลี่ พี่ขอยืมเงินหน่อย เป็นต้น

ล่าสุด ทาง หนุ่ม กรรชัย พูดถึง ลิลลี่ ในรายการ ข่าวใส่ไข่ ตอนหนึ่งว่า “ลิลลี่ อยากเป็นดารา ถามนางว่าเอาไหม ช่อง3 อยากได้นางร้าย นางบอกให้เล่นเป็น กะxx ก็ได้

ด้าน มดดำ คชาภา ออกปากว่า สงสาร ลิลลี่ พร้อมทั้งขอเบอร์ติดต่อ ลิลลี่ จาก กรรชัย เพื่อไปออกรายการ แฉ ด้วย พร้อมทั้งประกาศด้วยว่า จะไปฝากลิลลี่ให้เล่นละคร เอ็นดูนางตลก

เปิดความสัมพันธ์ 6 ศพ แฉสาวอีกคนตัวเชื่อม เศร้าช่างแต่งหน้าโดนดึงร่วมลงทุน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 ที่สน.ลุมพินี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงภายหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีที่ชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ศพ ภายในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเกตุ เก็บพยานหลักฐาน สืบสวนสอบสวน ซักถามพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง พยานแวดล้อม และญาติผู้เสียชีวิต มากกว่า 10 ปาก รวมถึงตรวจหลักฐานกระเป๋าเสื้อผ้า 8 ใบ เรียบร้อยแล้ว สามารถสรุปข้อมูลได้ ดังนี้

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย มีข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทยและการเข้าพักที่โรงแรมนี้ คือ

1.นางสาว ธิ เหงียน เฟือง อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม สวมใส่เสื้อสีขาว พบเสียชีวิตใกล้ประตูห้อง เดินทางเข้าไทยวันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 13.48 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเคยเดินทางมาแล้ว 3 ครั้ง

2.นางสาว ธิ เหงียน เฟือง ลาน อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม สวมใส่เสื้อสีชมพู พบเสียชีวิตภายในห้องนอน เดินทางเข้าไทยวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 12.56 น. จากเมืองดานัง โดยเคยเดินทางมาแล้ว 17 ครั้ง

3.นายดิน ซาน ฟู อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม พบเสียชีวิตใกล้กันกับผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 นางสาวธิ เหงียน เฟือง และผู้เสียชีวิตหมายเลข 4 นายฮุง ดัง วาน เดินทางเข้าไทยวันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 12.28 น. จากเมืองดานัง โดยเคยเดินทางมาแล้ว 11 ครั้ง

4.นายฮุง ดัง วาน อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน ใส่เสื้อสีกรมท่า พบเสียชีวิตใกล้กับผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 นางสาวธิ เหงียน เฟือง เดินทางเข้าไทยครั้งแรก วันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 09.55 น. จากเมืองไทเป ไต้หวัน

5.นางสาวเชอรีน ชอง อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน พบเสียชีวิตบริเวณโต๊ะอาหาร เดินทางเข้าไทยวันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 13.05 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเคยเดินทางมาแล้ว 5 ครั้ง และนางสาวเชอรีน เป็นผู้ที่เข้าพักห้อง 502 ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ

6.นายฮง ฟาม ธาน อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม เป็นสามีของผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 นางสาวธิ เหงียน เฟือง พบเสียชีวิตในห้องนอน เดินทางเข้าไทยครั้งแรก โดยมาพร้อมกันกับภรรยา วันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 13.48 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเป็นคนที่ไม่ปรากฏรายชื่อเช็กอินเข้าพักที่โรงแรม เนื่องจากใช้ชื่อของภรรยาในการจองห้องเข้าพัก

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า มีการจองโรงแรมเพื่อเข้าพัก 7 คนนั้น จากการตรวจสอบของ ตม.พบว่า คนที่ 7 เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 ซึ่งเดินทางเข้าไทยมาพร้อมกับพี่สาวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม แต่เดินทางกลับไปก่อนเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งทาง ตม.อยู่ระหว่างประสานเพื่อสอบถามสาเหตุการเดินทางกลับก่อน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม พบว่า ทุกคนได้มาเช็กอินเข้าพักด้วยตัวเอง และไม่มีบุคคลอื่นเข้าไปพักด้วยเลย และภาพจากกล้องวันที่ 14-15 กรกฎาคม ตามไทม์ไลน์ที่เกิดเหตุ ณ เวลานี้ยืนยันได้ว่า ไม่มีบุคคลอื่น นอกเหนือจาก 6 คนนี้ที่เข้าไปในห้อง 502 ที่เกิดเหตุเลย ทั้งทางประตูหน้าและประตูหลัง นอกจากพนักงานเสิร์ฟอาหารที่ได้เรียกมาให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว

ซึ่งวันที่พบศพคือ วันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 16.30 น. พนักงานโรงแรมได้เข้าไปตรวจสอบ เพราะเลยเวลาเช็กเอาท์แล้ว พอส่องไฟไปที่ใต้ประตูพบมีคนนอนอยู่ นึกว่าเป็นลม จึงไปนำเครื่องปั๊มหัวใจ แต่ประตูด้านหน้าห้องล็อกจากด้านใน จึงอ้อมไปด้านหลัง พบทั้ง 6 คนเสียชีวิต จึงมาเปิดประตูด้านหน้า เรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

โดยเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม พบว่า ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 เป็นผู้เข้าพักห้องที่เกิดเหตุ โดยอีก 5 คน เข้ามาที่ห้องนี้ช่วง 23.00-24.00 น. แล้วแยกย้ายกลับห้องตัวเอง พอวันที่ 15 กรกฎาคม ทั้งหมดขนกระเป๋ามารวมกันที่ห้อง 502 หลังจากเช็กเอาท์ห้องอื่นๆ โดยผู้เสียชีวิตหมายเลข 4 ได้สั่งอาหารจากโรงแรม ตอนเวลา 11.42 น. โดยสั่งข้าวผัด 5 จาน, ต้มยำกุ้ง 4 จาน, ผัดผัก 4 จาน , ผัดผักบุ้ง 1 จาน และชาร้อนอังกฤษ 2 กา พร้อมแก้วน้ำชา 6 ใบ

ต่อมาผู้เสียชีวิตหมายเลข 3 ได้สั่งอาหารเพิ่มเป็นข้าวผัด 1 จาน ขอให้มาส่งที่ห้องเวลา 14.00 น. ซึ่งพนักงานเสิร์ฟ ได้มาส่งอาหารเวลา 13.51 น. ใช้เวลาเข้าไปเสิร์ฟอาหาร 6 นาที ซึ่งจากการสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟ บอกว่า ตอนเข้าไปพบเพียงแค่ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 ซึ่งพนักงานบอกว่าจะขอชงชาให้ แต่ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 บอกว่าไม่ต้อง ขอจัดการเอง

ทั้งนี้ พนักงานเสิร์ฟบอกว่า สังเกตเห็นว่าผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 มีอาการค่อนข้างเครียด ไม่ยิ้มแย้ม ขนาดพนักงานเสิร์ฟแซวว่า แต่งชุดสวย ก็ยังไม่ยิ้ม

หลังพนักงานเสิร์ฟกลับออกมา ตอนเวลา 13.57 หลังจากนั้น ตั้งแต่เวลา 14.03 น. ผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ ก็ทยอยเข้ามาที่ห้อง 502 และหลังจากนั้นไม่พบใครเข้าออกอีกเลยจนกระทั่งพบศพ

ขณะที่ผลตรวจของ พฐ. ในเบื้องต้นพบว่า ที่กระติกชาและแก้วทั้ง 6 ใบในห้องพัก พบสารไซยาไนด์ ดังนั้น ณ เวลานี้ ฝ่ายสืบสวนจึงเชื่อว่า 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ก่อเหตุใช้สารไซยาไนด์ผสมกับเครื่องดื่มหลังจากพนักงานเสิร์ฟกลับออกมา ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์หลักฐานทั้งหมด, ผลชันสูตรศพ, ดีเอ็นเอลายนิ้วมือแฝง รวมถึงประสานกับสถานทูตเวียดนาม สถานทูตสหรัฐอเมริกา และ FBI เข้ามาร่วมคลี่คลายด้วย

ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตบางส่วนได้เรียกมาสอบปากคำแล้วเมื่อคืนนี้ ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความขัดแย้งของกลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตเชื่อว่ามี 1 ใน 6 คนที่ทำให้เกิดเหตุขึ้น ไม่ได้ติดใจในประเด็นอื่น

โดยญาติให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 ได้ให้ผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 เป็นนายหน้าไปชักชวนผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 และผู้เสียชีวิตหมายเลข 6 เป็นสามีภรรยากัน ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำถนนที่ประเทศเวียดนาม ให้ร่วมลงทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดมูลค่าเป็นเงินไทย 10 ล้านบาท

แต่ต่อมาไม่เห็นความคืบหน้าการลงทุนดังกล่าว ผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 และผู้เสียชีวิตหมายเลข 6 จึงได้ทวงถามมาตลอด จนล่าสุดทั้งหมดนัดหมายจะไปเคลียร์เรื่องนี้กันที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ติดขัดเรื่องการขอวีซ่า จึงเปลี่ยนมาที่ประเทศไทยแทน และทราบว่าทั้งหมดมีแพลนจะไปไหว้พระที่วัดยานนาวาด้วย

“ยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวของทั้ง 6 คน ไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ผลักดันมาก่อเหตุในประเทศไทยแต่อย่างใด”รองผบช.น. กล่าว

รองผบช.น. กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบของผู้เสียชีวิต ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แต่พบเอกสารการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับที่ดินของผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 แต่คู่ความเป็นบุคคลอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เสียชีวิต

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้สั่งการให้ชุดสืบสวน ไปไล่ตรวจสอบไทม์ไลน์ของกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้งหมด ตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทย ว่าได้เดินทางไปที่ไหน ไปพักที่โรงแรมแห่งใดบ้าง พบปะใครบ้าง เพื่อหาความชัดเจนว่าทั้งหมดทำธุรกิจอะไร และเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่ออะไร โดยได้ให้ ตม.ประสานกับสถานทูตตรวจสอบประวัติภูมิหลังของทุกคนด้วย

สำหรับที่มาของสารไซยาไนด์ที่พบ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเป็นการนำเข้ามา หรือมาสั่งซื้อในประเทศไทยอย่างไร รวมถึงหีบห่อที่บรรจุสารดังกล่าวก่อนผสมในเครื่องดื่ม ก็ต้องรอผลอย่างละเอียดจาก พฐ.อีกครั้ง

ส่วนความสัมพันธ์ของกลุ่มผู้เสียชีวิต นอกจากผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 และหมายเลข 2 ที่ชักชวนผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 และหมายเลข 6 มาร่วมลงทุน ในส่วนของผู้เสียชีวิตหมายเลข 3 และหมายเลข 4 ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่ 2 คนนี้ยังไม่ได้ให้เงินลงทุน แต่เชื่อว่าน่าจะถูกชักชวนมาเพื่อพูดคุยให้ลงทุนเช่นกัน และพบว่าผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 เป็นผู้จองห้องพักให้ผู้เสียชีวิตหมายเลข 4 แต่ผู้เสียชีวิตหมายเลข 4 ใช้บัตรเครดิตของตนเองในการรูดจอง

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากการเก็บวัตถุพยานทั้งแก้วกาแฟ กระติกชา และเก็บตัวอย่างของเหลวในกระติกชา ขวดน้ำผึ้ง กล่องชา เพื่อไปหาสารพิษ และเก็บลายนิ้วมือแฝง สำหรับผลการตรวจเชิงคุณภาพเบื้องต้น พบว่ามีสารไซยาไนด์ อยู่ที่ของเหลวในกระติกน้ำชา และยังพบสารไซยาไนด์ในคราบที่ติดอยู่ที่ถ้วยกาแฟทั้ง 6 ถ้วย รวมถึงจากตัวอย่างเลือดศพที่เสียชีวิตที่นั่งพิงกำแพงอยู่ ก็พบว่าเลือดมีส่วนผสมของสารไซยาไนด์

ส่วนการตรวจเชิงปริมาณว่าจะมีปริมาณสารไซยาไนด์มากน้อยแค่ไหน หรือมีสารประกอบอื่นหรือไม่ หลังเที่ยงวันนี้ จะทยอยวิเคราะห์ผลออกมา รวมถึงตัวอย่างอาหารที่ทยอยเก็บไปด้วย และจากการสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟ ยืนยันว่า กระติกสแตนเลสทั้ง 2 กระติกเป็นของโรงแรมที่นำชามาเสิร์ฟ

สำหรับสารไซยาไนด์นั้น จะออกฤทธิ์เฉียบพลันอยู่แล้ว ส่งผลต่อระบบหัวใจ แต่รายละเอียดการวางยาเป็นอย่างไรยังตอบไม่ได้ แต่การตรวจสอบแก้วทั้ง 6 ใบ เชื่อว่าดื่มกันทุกคน

ด้าน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า ในส่วนของ ตม. ได้ประสานขอข้อมูลผ่านทางสถานทูตเวียดนามและสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาประกอบกับข้อมูลของชุดสืบสวน ซึ่งจะทำให้ได้ความชัดเจนของคดีนี้มากขึ้น

ขณะที่ทาง FBI ได้มาขอข้อมูล แต่การสอบสวนยังอยู่ที่ตำรวจไทย และยืนยันได้ว่า ทั้งหมดไม่มีใครมีหมายจับไม่ว่าจะเป็นหมายจับสีใด เพราะหากมีหมายจับก็ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้อยู่แล้ว รวมถึงจากการตรวจสอบประวัติภายในประเทศต้นทาง ก็ไม่พบประวัติคดีอาชญากรรม

Popular Posts

My Favorites

สุดช็อก!! ลูกชายนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เสียชีวิตกะทันหัน

0
ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ศรเทพ ศรทอง ที่ล่าสุดออกมาแจ้งข่าวการจากไปของลูกชายคนที่ 2 ป๊อบ ธนชัย นารายณ์ทอง หลังจากไปอย่างกะทันหันด้วยวัยเพียง 48 ปี จากอาการเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน โดยตั้งศพสวดอภิธรรมที่วัดรวกสุทธาราม ซอยจรัลสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กทม. และจะมีการรดน้ำศพ วันที่ 15 ก.ย.67เวลา 16.00น. ส่วนคืนวันที่ 23 ก.ย.67 จะมีดนตรี...