เจอแล้ว! ร่างคุณตาถูกกระแสน้ำพัดจมหาย ค้นตัวเจอลอตเตอรี่เต็มกระเป๋า ซื้ออยู่แค่ 2 เลข
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท นายวีระพล รักเสมอวงศ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน นาคำวัง ต.นาไหม่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่ามีชาวบ้านไปพบรถจักรยานยนต์ล้มจมอยู่ในน้ำ ข้างถนนตั้งแต่บ่าย 2 แต่ไม่พบคนขับ ที่ถนนเส้นนาคำวัง-ไปตลิ่งชัน ชึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีน้ำท่วม ปิดถนนรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต่อมา ทางญาติได้ออกตามหาจนสุดความสามารถแล้ว จึงแจ้งมายังนายวีระพล ที่เพิ่งกลับมาจากช่วยพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่ถูกน้ำท่วม ให้ประสานหน่วยก็ภัยใกล้เคียงออกค้นหาคาดว่า หลังจาก จยย.ล้มลง คนขับน่าจะถูกกระแสน้ำพัดไป จากนั้น หน่วยกู้ภัยได้ทำการออกค้นหาเกือบทั้งคืนไม่พบ จึงยุติการค้นหาก่อน จนกระทั่งล่าสุก วันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา นายวีระพล รักเสมองวง์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท พร้อมทีมกู้ภัยทางน้ำสว่างเมธาบ้านดุง ร่วมกับสมาคมกู้ภัยศรีสุทโธบ้านดุง ได้นำเจสกีขับตีวงออกค้นหาและเรือออกค้นหา เชื่อว่าศพที่ถูกน้ำพัดพาไปคงจะลอยขึ้นเหนือน้ำแล้ว จนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 68 ปี ลอยขึ้นมาติดกับต้นยูคาลิปตัสห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณเกือบสามร้อยเมตร กู้ภัยฯจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นเรือ และพาขึ้นฝั่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายพนมยงค์ แดงแก้ว อายุ 68 ปี ชาว ต.นาแจนแลน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าได้ตรวจตามกระเป๋าผู้เสียชีวิต...
แว่วจากเรือนจำ ชีวิต”แม่ตั๊ก”ล่าสุด เรียนทำดอกไม้ ออกมาจะได้มีอาชีพติดตัว
แว่วจากเรือนจำ ชีวิต”แม่ตั๊ก”ล่าสุด เรียนทำดอกไม้ ออกมาจะได้มีอาชีพติดตัว เกาะติดคดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ หลังจากล่าสุด วันที่ 8ต.ค.67 ตำรวจ บก.ปคบ. ได้ทำการยึดรถหรู”แม่ตั๊กป๋าเบียร์” เพิ่มเติมรวมเป็น 9 คัน รวมมูลค่า 120 ล้านบาท หลังก่อนหน้านี้ยึดไปแล้ว 5 คัน พร้อมมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ได้ประสาน ปปง. เดินหน้ายึดบ้าน 9 หลังและโฉนดที่ดินอีก16 แปลงต่อทันที ในส่วนของเงินสด ตำรวจได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารของบริษัทที่ทั้ง 2 คนเป็นกรรมการได้กว่า 24 ล้านบาท แต่ส่วนของทรัพย์สินอื่นๆ เช่นกระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู และเครื่องประดับ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการซื้อขาย โดยเบื้องต้นพบข้อมูลนาฬิกา 6 จาก 8 เรือน รวมมูลค่า 28.7 ล้านบาท ที่นำไปล้างทำความสะอาด ว่าซื้อมาจากร้านใดแล้ว ล่าสุดมีกระแสข่าวจากวงใน ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของแม่ตั๊กในคุก โดยเพจ อีซ้อขยี้ข่าวตัวจริง เผยว่า แว่วจากเรือนจำ แม่ตั๊กเริ่มปรับตัวได้ ส่วนผมยังไม่ได้ตัด เล็บถอดแล้วไม่งั้นล้างก้นไม่ได้ ส่วนช่วงกลางวันก็ไปฝึกอาชีพเรียนทำดอกไม้ประดิษฐ์ นวดแผนโบราณ ออกมาจะได้มีอาชีพติดตัว ด้าน พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เผยเรื่องการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์นั้น...
ช็อกหนัก! สาววัย 21 ปี คิดว่าตัวเองอ้วน สุดท้ายพบเป็นมะเร็ง หากมีอาการ 4 ข้อนี้ รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
จากสื่อได้รายงานว่า สาวชาวจีนสกุลหลี วัย 21 ปี เธอเปิดใจเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เธอสังเกตเห็นว่าคอของเธอผิดปกติ มีลักษณะบวมใหญ่ขึ้น เธอคิดว่าเป็นเพราะเธอกินเยอะจึงเริ่มตัดสินใจลดน้ำหนักควบคุมอาหาร หลังลดน้ำหนักไปสักพักเธอก็ต้องหยุดชั่วคราว เพราะเธอหักโหมลดน้ำหนักมากเกินไป ประกอบกับอ่อนเพลียเป็นไข้ จึงซื้อยามากิน แต่อาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับที่คอของเธอบวมขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนร่วมงานที่มีญาติมีอาการแบบนี้บอกให้เธอไปพบแพทย์ด่วนๆ เพราะอาจเป็นอาการของโรคมะเร็ง หลังตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์เผยผลตรวจระบุว่า เธอเป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ระยะที่ 2 และต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน นางสาวหลียอมรับช็อกและตกใจมาก ไม่คิดว่าอาการป่วยที่เธอชะล่าใจ จะนำมาซึ่งโรคร้ายครั้งนี้ ขณะที่ Chen Rongjian มะเร็งต่อมไทรอยด์แบบ papillary เป็นมะเร็งชนิดที่พบบ่อยที่สุดในต่อมไทรอยด์ ซึ่งคิดเป็น 80% ของผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ แต่โรคนี้ก็ถูกมองข้ามได้ง่ายเนื่องจากไม่มีอาการ อาการไม่ชัดเจน หรือเข้าใจผิดว่าเป็นอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ มีอาการ 4 ข้อนี้ รีบไปพบแพทย์โดยด่วน -คอบวมผิดปกติและต่อเนื่อง แต่ไม่เจ็บปวด -ก้อนเนื้อ ก้อนบวมที่คอไม่มีอาการเจ็บ -ต่อมน้ำเหลืองบวม อาจมีหลายก้อนหรือก้อนเดียว ต่อมเหล่านี้มักแข็งขึ้นอย่างช้าๆ และไม่เจ็บปวดในระยะแรก -รู้สึกอึดอัดในลำคอ โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนานไปจะทำให้กลืนลำบาก ความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอม หรือเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงแหบ
ย้อนคำพูด ! ในวันแต่งงาน เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ-มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ – chuydaily
เรียกว่าออกมาเคลียร์ชัดสถานะกับสามีไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่ได้ยอมรับว่าห่าง กับ มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร มานานแล้ว แต่ยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ให้กับลูกสาว น้องโนล่า เหมือนเดิม และเมื่อหากย้อนไปในวันที่ 19 ต.ค. 61 ซึ่งเป็นวันวิวาห์ของทั้งคู่ เจนี่-มิกกี้ ยังได้พูดว่า เจนี่ : เจนว่าความรู้สึกของเรามันไม่จำเป็นจะต้องมานั่งสัญญาว่าเราต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง เจนว่าแค่ความความรัก ความเข้าใจที่เรามีให้กันทุกวันนี้ ใช้ชีวิตอย่างมีสติและประคับประคองกันไป เจนว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ สัญญาบางคนทำไม่ได้มันก็มี เพราะฉะนั้นเราถือว่าวันนี้คือวันที่ดีที่สุดดีกว่า มิกกี้ : ก็ไม่ได้สัญญาอะไรกันไว้ แต่ในทุกวันเราก็จะรักกันให้มากที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เป็นยังไง ก็คุยกันเข้าใจกันให้มากที่สุด เจนี่ : เคยบอกเขาว่าถ้าเราสองคนงอนกัน อย่างอนนานเกิน 24 ชั่วโมงค่ะ เป็นข้อแนะนำสำหรับทุกคนนะคะ คือมิกกี้เป็นทั้งเพื่อน แฟน และสามี เพราะฉะนั้นมันเหมือนเราเป็นทุกอย่างให้กันค่ะ การที่เราทะเลาะกันงอนกัน ถ้ามันมีอุบัติเหตุเดี๋ยวจะเสียใจเวลามันย้อนกลับมาไม่ได้ค่ะ ดีกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิกกี้มีอะไรจะบอกเจนี่ไหม ? มิกกี้ : ผมบอกรักเขาทุกวันอยู่แล้ว เช้ากลางวันเย็น ผมอยากจะบอกเขาว่า ผมจะรักเขาและดูแลเขาให้ดีที่สุด ตลอดชีวิต ขอบคุณข้อมูล: janienineeleven
เปิดภาพล่าสุด ‘กบ ปภัสรา’ กับชีวิตเรียบง่าย ที่บ้านสวนสุพรรณบุรี ปลูกผักเก็บฟัก ลูกโตขาย
กบ ปภัสรา วันว่างใช้เวลาอยู่กับแปลงผักภายในอาณาจักรสวนเกษตร ผลผลิตงดงามเก็บฟักลูกโตขายได้หลายกิโล ใช้ชีวิตได้สโลว์ไลฟ์มากๆ สำหรับกบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ภรรยาสุดที่รักของ เอ๋-พรเทพ เตชะไพบูลย์ นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วเธอยังพ่วงตำแหน่งผู้จัดละครอีกด้วย ในบทบาทชีวิตจริงนอกจากเธอจะเป็นภรรยาที่แสนดีและเป็นคุณแม่ของ น้องเหนือ เรียกว่าดูแลครอบครัวเป็นอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง อีกหนึ่งบทบาทที่ กบ ปภัสรา ตั้งใจสร้างและลงมือทำเองด้วยความภาคภูมิใจนั่นคือการทำแปลงผักหลากหลายชนิดบนอาณาจักรการเกษตรที่บ้านเกิดจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องบอกว่าผลผลิตงอกเงยออกมางดงามอลังการมาก เห็นแล้วภาคภูมิใจแทนเป็นที่สุด เพราะผลผลิตเยอะโดยเฉพาะฟักลูกโตที่รับประทานไม่ทัน เธอจึงนำมาขายเพื่อสร้างรายได้อีกทาง และผลฟักจากแปลงผักของ กบ ปภัสรา บอกเลยไม่ธรรมดาลูกโตสุดๆ ขายได้หลายกิโลกรัมเลยทีเดียว ยังมีพืชผักอีกหลายชนิดมากๆ จนหลายคนเห็นแล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปเยี่ยมเยือนถึงสวนเกษตรเลยทีเดียว
สะเทือนวงการบันเทิงไทย หนุ่ม กรรชัย โพสต์ถ้ารู้ไม่ถูกควรหยุด
สะเทือนวงการบันเทิงไทย หนุ่ม กรรชัย โพสต์ถ้ารู้ไม่ถูกควรหยุด เรียกได้ว่ารอบนี้ทำเอาสะเทือนวงการบันเทิง เมื่อล่าสุด พิธีกรคนดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้ออกมาเปิดประเด็นถึงกรณี บริษัทขายตรงชื่อดัง เปิดธุรกิจขายตรง โดยมีการใช้ดารานักแสดงดังของไทยมาเป็นบอส เป็นแม่ข่ายในการขายของ มีผู้เสียหายหลายราย โดย กรรชัย ได้เผยในรายการ ‘เที่ยงวันทันเหตุการณ์’ ว่าอยู่ในช่วงเก็บรวบรวมข้อมูล เตรียมแฉแน่นอน “บริษัทดังบางบริษัทที่มีการขายตรง ไปให้ทางตัวแทนเปิดบิล โดยการให้มีเหล่านักแสดงทั้งหลายไปเป็นพ่อข่ายแม่ข่าย ยังนะครับ ผมเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว ผมมีโอกาสคุยกับผู้เสียหายแล้ว มีบางคนถึงขั้นฆ่าตัวตายนะครับ ที่มีการไปซื้อของ แล้วก็จ่ายเงินไปแล้ว แล้วบอกขายได้แน่นอน ถึงเวลาสุดท้ายขายไม่ได้ ต้องเอาไปเร่ขายเอง กินเอง บางคน โอ้โห…ผมได้ยินมาว่าเป็น รปภ. มีการเอาเงินไปซื้อเก็บไว้ 2 แสน ปรากฏว่าไปขายก็ไม่ได้ ฆ่าตัวตาย มีนะแบบนี้ แต่ข่าวมันเงียบ เดี๋ยวเร็วๆ นี้นะครับ ตอนนี้ผมบอกเลยที่คุณส่งกันเข้ามา ผมเห็นตลอด เราคงรู้กันนะครับว่าคือที่ไหน เห็นอยู่ตลอดนะครับ ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ ก็เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ มีผู้เสียหายมาคุยกับผมหลายคน และผมว่าอันนี้ใหญ่ ผมบอกเลย” ล่าสุด วันนี้ หนุ่ม กรรชัย ยังได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กอีกด้วยว่า…....
ไม่น่าเลย! สะเทือนวงการบันเทิงไทย หนุ่ม กรรชัย โพสต์ล่าสุด
หนุ่ม กรรชัย โพสต์จ่อแฉธุรกิจเครือข่ายดังขายตรง เก็บข้อมูลทั้งหมดแล้ว ลั่นเซฟบอสเซฟบริษัทไม่เซฟผู้เสียหายเหรอ กำลังเป็นประเด็นร้อนมากๆ เมื่อพิธีกรและผู้ประกาศข่าวคนดัง หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้พูดผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ออกอากาศวันนี้ (7 ต.ค.) ปมธุรกิจขายตรงมีดารานักแสดงเป็นพ่อข่ายแม่ข่าย บอกตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลแล้ว “บริษัทดังบางบริษัทที่มีการขายตรง ไปให้ตัวแทนเปิดบิล โดยให้มีเหล่านักแสดงทั้งหลายไปเป็นพ่อข่ายแม่ข่าย ผมเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว ผมมีโอกาสคุยกับผู้เสียหายแล้ว มีบางคนถึงขั้นฆ่าตัวตายนะครับ ที่มีการไปซื้อของ จ่ายเงินไปแล้ว แล้วบอกขายได้แน่นอน สุดท้ายขายไม่ได้ ต้องไปเร่ขายเอง กินเอง บางคน โอ้โห…ผมได้ยินมาว่าเป็น รปภ. เอาเงินไปซื้อเก็บไว้ 2 แสน ปรากฎว่าขายไม่ได้ มีนะ แต่ข่าวมันเงียบ เดี๋ยวเร็วๆ นี้นะครับ ตอนนี้ผมบอกเลยที่พวกคุณส่งกันเข้ามา ผมเห็นตลอด เราคงรู้กันนะครับว่าคือที่ไหน เห็นอยู่ตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ มีผู้เสียหายมาคุยกับผมหลายคน และผมว่าอันนี้ใหญ่ ผมบอกเลย” ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ยังได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กอีกว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอสเซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?”
รู้จัก บอสพอล เจ้าของวลี ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย เคยเปิดใจกว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลยทีเดียว
เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งคนที่หลายๆคนรู้จักกัน อย่าง บอสพอล หรือ พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของวลีเด็ด ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย เป็นผู้บริหารบริษัทชื่อดัง ที่ดาราดังร่วมงานเพียบ ไอดอลแวดวงการเงิน โดยเจ้าตัวเคยเล่าใน รายการดัง ว่า ต้องต่อสู้ชีวิต ฝ่าอุปสรรคมาเยอะ เคยเป็นทั้งเด็กเสิร์ฟ เป็นพนักงานบริษัท เท่าที่จำคงามได้อยู่กับแม่ แม่เป็นกรรมกรก่อสร้าง ส่วนพ่อก็ทิ้งไปตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เริ่มทำงานประจำครั้งแรกได้เงินเดือน 6,000 บาท จนมาสนใจธุรกิจออนไลน์หลากหลายอย่าง กระทั่งมาเป็นนักธุรกิจที่ระบุว่าเปิดบริษัทมาเพียง 3 ปีกว่าๆ เท่านั้นแต่มียอดขายทะลุ 5,000 ล้านไปแล้วในปี 2564 เรียกได้ว่าเส้นทางชีวิตไม่ได้ร่ำรวย ทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่ยังเรียน เป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร พร้อททำงานพิเศษอื่น จนมาประสบความสำเร็จในแบบนี้ ดูคลิป
ค้นโกดังหรู แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ยึดของในการทำคอนเทนต์เพียบ
จากกรณี น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก กับนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาอื่น ๆ รวม 4 ข้อหา ที่ขณะนี้ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำนั้นและขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดทรัพย์สินมาแล้วหลายรายการ แต่ยังมีทรัพย์สินอีกบางส่วน โดยเฉพาะรถหรูของแม่ตั๊ก ล่าสุดวันที่ 8 ตุลาคม 67 กองกำกับการ 1 บก.ปคบ. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พร้อมด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) นำหมายค้นเลขที่ 641/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 67 จากศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นภายในโกดังหรู คือ บริษัท เลดี้คลับ จำกัด ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99 ม.4 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ของ แม่ตั๊ก และป๋าเบียร์ เจ้าของห้างเพชรทอง เคทูเอ็น โดยโกดังดังกล่าว ตกแต่งอย่างสวยหรูบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีด้วยกัน 3 ชั้น...
เปิด 10 อาชีพเงินเดือนเยอะสุดในไทย เห็นเงินเดือนอันดับ 1 แล้วถึงกับร้องว้าว
เปิด 10 อาชีพเงินเดือนเยอะสุดในไทย เห็นเงินเดือนอันดับ 1 แล้วถึงกับร้องว้าว ต้องบอกว่าในการใช้ชีวิต ทุกคนจะต้องทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ซึ่งก็มีหลากหลายอาชีพ และให้เงินเดือนผลตอบแทนแตกต่างกันไป วันนี้เราจะขอนำเสนอ 10 อาชีพ ที่ได้เงินเดือนเยอะที่สุดในไทย ซึ่งจะช่วยเป็นแนวทางให้บรรดาผู้ปกครองที่กำลังมองหาอาชีพที่น่าสนใจเงินเดือนดีๆ ให้กับลูกหลานในอนาคต และนำไปเป็นข้อมูลตัดสินใจวางแผนเลือกสายเรียนให้สอดคล้องกับอาชีพ ได้แก่ 10. ขายของออนไลน์ อาชีพอิสระที่เป็นรายได้เสริมได้สำหรับคนที่มีงานประจำ เพราะช่องทางออนไลน์สามารถนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาขายผ่านระบบออนไลน์ ที่จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและสามารถบริหารกิจการด้วยตัวเอง ซึ่งเงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือน ก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถและความขยันของคนๆ นั้น 9. สายงานโลจิสติกส์ อาชีพเกี่ยวกับการขนส่งที่ต้องมีการควบคุมดูแลบริหารจัดการการขนส่งสินค้า ต้องบริหารจัดการขนส่งทั้งในรูปแบบทางบก ทางอากาศ หรือทางเรือ โดยนักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์เลย จะได้รับฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000บาท และหากมีประสบการณ์ในสายงานโลจิสติกส์ ก็จะได้รับการเพิ่มเงินเดือนที่มากขึ้น 8. ข้าราชการครูอาชีพคุณครูเป็นอาชีพที่ได้เงินเดือนสูงในระดับต้นๆ เมื่อเทียบกับสายงานราชการทั่วไป ที่เริ่มต้นในสายอาชีพครู เริ่มจากครูผู้ช่วยที่เป็นนักศึกษาจบใหม่จากปริญญาตรีที่เพิ่งสอบบรรจุได้ก็จะได้รับเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,050 บาท นอกจากนี้สายอาชีพครูยังมีเงินประจำตำแหน่งที่จะเพิ่มเงินเดือนให้มากขึ้นได้อีกด้วย 7. ทันตแพทย์ เป็นสายอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นอาชีพที่น่าสนใจอีกหนึ่งอาชีพ ที่สามารถทำเงินได้สูงโดยได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน 6. แพทย์หรือหมอรักษาคนไข้ เป็นหนึ่งในอาชีพที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศไทย ด้วยความรับผิดชอบเกี่ยวกับความเป็นความตายของคน จึงทำให้มีอัตราเงินเดือนสูงโดยแพทย์เฉพาะทางเงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือนและยิ่งแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน ก็จะได้รับเงินเดือนที่สูงกว่าโรงพยาบาลของรัฐ 5. งานไอที ในยุคที่ดิจิทัลมาแรงจึงเป็นอาชีพเงินเดือนสูงในอนาคตอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่มีความสนใจในเรื่องของคอมพิวเตอร์หรืองานไอที เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเด็กจบใหม่สายไอที มีอัตราเงินเดือนเริ่มต้นที่ 30,000 บาทต่อเดือน และเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง ไม่ตกงานแน่นอน 4....