น้องสาวเหยื่อกากีเถื่อน แจ้งความบช.ก.ดำเนินคดี 7 ตร.จราจรกลาง รุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ยืนยันไม่ยอมความ ด้านผู้การสั่งเด้งเข้ากรุ รอผลสอบข้อเท็จจริง

วันที่ 4 ธ.ค.2567 ที่บช.ก. น.ส.ธนัชตา น้องสาวของนายเอ (นามสมมติ) ผู้บาดเจ็บถูกตำรวจ สังกัดบก.จร. ทั้งหมด 7 นาย รุมทำร้ายร่างกาย ขณะผ่านด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ บนถนนประเสริฐมนูกิจ เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เดินทางมาร้องทุกข์ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 7 นาย

น.ส.ธนัชตา เปิดเผยว่า ขณะที่พี่ชายของตัวเองขับขี่รถยนต์ เข้าตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตามปกติและไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงขับออกจากด่านตรวจ ก่อนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถกระบะ 1 คัน ตามมาประกบ พร้อมบังคับให้ลงจากรถ โดยพยายามเข้าควบคุมตัว ซึ่งพี่ชายก็พยายามขัดขืนเนื่องจากตัวเองไม่ได้กระทำความผิด แต่ตำรวจกลับใช้กำลังเกินกว่าเหตุ เข้าควบคุมตัวจนได้รับบาดเจ็บ

โดยตำรวจอ้างว่าพี่ชายของตัวเองพยายามขับรถแหกด่าน แต่เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบจากกล้องบันทึกภาพบริเวณด่านตรวจ กลับพบว่าไม่ใช่รถของพี่ชายที่เป็นผู้กระทำความผิด และนำตัวพาส่งโรงพยาบาล พร้อมขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางเขน เมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้านตำรวจทั้ง 7 นายได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือกระทำตามที่ถูกกล่าวหาจริง แต่ที่ต้องเข้ามาร้องทุกข์กับตำรวจสอบสวนกลาง เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยอยากเรียกร้องให้ตำรวจทั้ง 7 นาย เป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ซึ่งขณะนี้ตัวเองได้แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และจะเข้าแจ้งความในความผิด ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, กักขังหน่วงเหนี่ยว เพิ่มเติมรวมเป็น 3 ข้อหา

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นายหยุดปฏิบัติหน้าที่จากเดิม และให้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการจราจรแทน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง

เบื้องต้นยอมรับว่าทางตำรวจทั้ง 7 นาย ได้ติดตามควบคุมตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันหนึ่งที่พยายามขับฝ่าด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในจุดดังกล่าว จึงติดตามเพื่อสกัดจับ ก่อนพบรถยนต์ที่มีลักษณะคล้ายกันตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว แต่ผู้ขับขี่มีท่าทีขัดขืน ทำให้ตำรวจใช้กำลังเข้าควบคุมตัว จนมาทราบภายหลังว่าเข้าจับผิดคัน

ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมขอโทษ แต่ทางญาติผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ขอยอมความ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ส่วนการใช้กำลังเข้าควบคุมตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ญาติประสงค์จะดำเนินคดีเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย ว่าไปตามกฎหมาย