กลายเป็นกรณีเตือนภัยที่ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมออนไลน์ของจีน เมื่อคุณยายวัย 78 ปีรายหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงรูปแบบใหม่จากมิจฉาชีพ ที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อขโมยเงินจากบัญชีธนาคารไปกว่า 4 ล้านหยวน หรือราว 18 ล้านบาท
เหตุการณ์เกิดขึ้นกับคุณยายเฉิน ผู้อาศัยอยู่ในย่านเจียงวาน เขตหงโข่ว เมืองเซี่ยงไฮ้ โดยมีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าของ UnionPay โทรศัพท์มาหลอกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลง และหากคุณยายไม่ต้องการใช้บริการแบบมีค่าใช้จ่าย ต้องทำตามขั้นตอนเพื่อยกเลิก
ระหว่างสนทนา มิจฉาชีพอาศัยช่องว่างจากการที่ผู้เสียหายเป็นผู้สูงอายุ และไม่เชี่ยวชาญการใช้สมาร์ตโฟน หลอกให้คุณยายเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและดำเนินการตามคำแนะนำต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่รู้ตัวว่าเงินในบัญชีกำลังถูกโอนออกไป
ในเวลาเดียวกัน ทางธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติเมื่อมีการล็อกอินบัญชีจากต่างประเทศ พร้อมโอนเงินจำนวนกว่า 4 ล้านหยวนไปยังบัญชีปลายทาง และพยายามส่งต่อเงินไปยังต่างประเทศ แต่เนื่องจากไม่สามารถติดต่อคุณยายเพื่อยืนยันตัวตนได้ ผู้จัดการธนาคารจึงสงสัยว่าอาจเป็นกรณีหลอกลวงและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้าน คุณยายเฉินยังคุยอยู่กับมิจฉาชีพ และแสดงอาการตกใจอย่างมากเมื่อทราบว่าเงินในบัญชีถูกโอนไปแล้ว โดยคุณยายเล่าว่า ปลายสายเคยถามเธอว่า “มีกระจกในบ้านไหม” และให้เธอส่องกระจกใกล้ ๆ ซึ่งภายหลังจึงทราบว่าเป็นการให้ยืนยันธุรกรรมด้วยระบบจดจำใบหน้า โดยมีการควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน
ตำรวจจึงรีบประสานไปยังศูนย์ป้องกันการฉ้อโกง และสามารถดำเนินการระงับการโอนเงินไว้ได้สำเร็จ เป็นจำนวนกว่า 3.8 ล้านหยวน หรือประมาณ 17.4 ล้านบาท
คุณยายเฉินเปิดเผยด้วยความตกใจว่า “ฉันไม่เคยเจอคนเลวในชีวิต นึกไม่ถึงว่าที่ทางนั้นขอให้ส่องกระจก จะเป็นการยืนยันใบหน้า ถึงว่าทำไมเขาถึงให้ฉันนั่งใกล้ ๆ แล้วจ้องกระจกอยู่พักใหญ่”
ข้อมูลจาก Hk01