เมียเพิ่งผ่าตัดมะเร็งเต้านม สามีเฝ้าไข้ช็อกตรวจเจอโรคเดียวกัน แค่คนละข้าง หมอซักประวัติพบ 6 ปัจจัยเสี่ยง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ที่เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน มีกรณีสามีภรรยาคู่หนึ่งตรวจพบว่า ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมทั้งคู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญธรรมดา เพราะเมื่อตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อมของทั้งสอง พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงร่วมกันหลายประการที่อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคพร้อมกัน

ตามรายงานจากสื่อจีน Ziniu News หญิงวัย 54 ปีและสามีของเธอร่วมกันเปิดร้านอาหาร โดยฝ่ายชายเป็นเชฟ ส่วนฝ่ายหญิงช่วยงานอยู่ในครัว เธอเคยตรวจพบว่าเต้านมมีพังผืด แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก และไม่ได้ไปตรวจซ้ำ จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อน เธอคลำเจอก้อนแข็งที่เต้านมขวา แม้จะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่รู้สึกผิดปกติจึงรีบไปตรวจ และพบว่าเป็น มะเร็งเต้านมชนิดลุกลามแบบไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน (Triple-negative invasive ductal carcinoma) จึงเข้ารับการผ่าตัดและเริ่มทำเคมีบำบัดทันที

ในช่วงที่เธอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สามีที่เฝ้าไข้ได้สังเกตเห็นเลือดซึมออกจากเต้านมด้านซ้ายของตัวเอง แม้ไม่มีอาการเจ็บใด ๆ เขาไม่ได้ใส่ใจนักจนกระทั่งแพทย์มาดูอาการของภรรยา เขาจึงเล่าถึงอาการนี้ให้แพทย์ฟัง แพทย์พิจารณาจากการที่ทั้งคู่ทำงานในครัวร่วมกันและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันและไอระเหยจากการปรุงอาหารเป็นเวลานาน จึงแนะนำให้เขาไปตรวจอย่างละเอียด และผลก็ออกมาว่าเขาเป็น มะเร็งเต้านมชนิดในท่อน้ำนม (Ductal carcinoma in situ) แบบตอบสนองต่อฮอร์โมน

แพทย์อธิบายว่า แม้ผู้ชายจะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมน้อยมาก (น้อยกว่า 1% ของผู้ป่วยทั้งหมด) แต่ก็มีเนื้อเยื่อเต้านมและท่อน้ำนมเหมือนผู้หญิง และหากได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนหรือสิ่งแวดล้อม ก็มีโอกาสเกิดโรคได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงร่วมกันของสามีภรรยาคู่นี้
แม้ไม่พบสาเหตุมะเร็งเต้านมที่แน่ชัด แต่โรคมะเร็งเต้านมเกิดจากเซลล์ในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมผิดปกติจนควบคุมไม่ได้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงอาจมาจากการใช้ชีวิต

การสัมผัสสารก่อมะเร็งในอาชีพ (ควันจากการปรุงอาหาร): ฝ่ายชายทำงานเป็นเชฟ ต้องเจอกับควันร้อนและไอจากการทอด-ผัดเป็นประจำ ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง เช่น พอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs), เฮเทอโรไซคลิกเอมีน และอะครอลีน ส่วนฝ่ายหญิงแม้จะสัมผัสน้อยกว่า แต่ระยะเวลาสะสมก็สูงพอควร งานวิจัยระบุว่า ควันจากการปรุงอาหารแบบจีนที่ใช้อุณหภูมิสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมทั้งหญิงและชาย

พฤติกรรมการกิน: อาหารในร้านมักมีไขมันสูง แคลอรีสูง และไม่มีเวลาเลือกกินอย่างสมดุล เสี่ยงโรคอ้วน ความดันสูง เบาหวาน และมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีการใช้น้ำมันคาโนลาแบบสกัดเองเก็บไว้นานเกิน 2 ปี อาจเกิดสารอันตรายได้

รูปแบบการใช้ชีวิต: ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เป็นเวลา มักนอนดึก ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน ภูมิคุ้มกัน และนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรังรวมถึงมะเร็ง

ความเครียดทางอารมณ์: ฝ่ายหญิงต้องดูแลพ่อแม่สูงอายุและจัดการเรื่องในบ้านทั้งหมด จึงสะสมความเครียดเรื้อรัง ความเครียดมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการพัฒนาของมะเร็ง

ภาวะอ้วนและโรคประจำตัว: ฝ่ายชายเป็นโรคเบาหวานและความดันสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการเมตาบอลิก (Metabolic syndrome) และมีน้ำหนักเกิน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งเต้านมทั้งในหญิงวัยหมดประจำเดือนและในผู้ชาย

ขาดความตระหนักเรื่องสุขภาพ: ทั้งสองคนไม่ใส่ใจการตรวจสุขภาพประจำปี ฝ่ายหญิงเคยรู้ว่ามีก้อนในเต้านมแต่ไม่ไปตรวจซ้ำ ฝ่ายชายก็ไม่สนใจอาการผิดปกติ ทำให้พบโรคล่าช้า

กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนว่า “พฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมกันของคู่รัก” มีผลต่อสุขภาพอย่างมาก การใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาหาร ความเครียด และการตรวจสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม