นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กระแสข่าวชาวเน็ตจีน ระบุไทยกำลังตัดไฟฟ้าในนิคมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมสนับสนุนให้ไทยเร่งดำเนินการ ว่าเรื่องนี้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รับนโยบายนายกรัฐมนตรี ผ่านตนไปแล้วว่า การฟีดไฟฟ้าไปแล้วเจอพวกสแกมเมอร์ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องตัดไฟฟ้า
แต่ที่ผ่านมาต้องแยกเรื่องให้ถูก เราขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้าน มีตัวแทนรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานความมั่นคง และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องรับรอง ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องขายไฟฟ้าตามการรับรองนั้น แต่ถ้ากระทำความผิดนี้เกิดขึ้นหลังจากไฟฟ้าข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และเกิดการขายทอดไป 2-3 ต่อ จนไปถึงพวกสแกม หรือพวกผลิตยาเสพติด ตรงนี้เขาต้องดำเนินการของเขาเอง
แต่ยืนยันได้ว่า กฟภ. หรือ กฟน. ไม่มีการทำสัญญาโดยตรง และไม่มีการที่จะไปลากสายไฟฟ้าแล้วนำไปใช้ให้กับผู้ก่อการร้ายผิดกฎหมายข้ามแดนแน่นอน พร้อมยืนยันว่า ไม่ต้องตัดสินใจอะไร ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถขายไฟฟ้าตรงได้ เพราะต้องมีรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านรับรอง
นายอนุทินกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ต้องฝากเพราะพูดกันบ่อย ๆ ในสภา อย่าเอากันสนุก ทำให้ประชาชนหวั่นไหวอยู่เรื่อย ประชาชนจะต้องได้รับข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ นายอนุทินยังยอมรับว่า ตนเองก็เคยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์เข้ามาหลอก ลักษณะเงินในบัตรเครดิตเต็มวงเงิน ให้เติมวงเงิน ซึ่งเห็นว่าเสียงเพราะดี แต่คนที่โทร.มาไม่รู้ว่าเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ได้พูดคุยด้วยประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใครโทร.มาหาตนก็คุยด้วยหมด
