Home ข่าววันนี้ สาวเสียชีวิตกะทันหัน หลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมฟัน

สาวเสียชีวิตกะทันหัน หลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมฟัน

357

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568 กรณีมีผู้เสียชีวิต หลังเข้ารับการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมในช่องปาก แต่กลับเกิดการผิดพลาดระหว่างการรักษา ล่าสุดทาง รพ.ที่ทำการรักษา ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากับทางญาติ และยินดีจะรับผิดชอบในการจ่ายค่าชดเชยอย่างเต็มที่ แต่ทางญาติยังอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารรายได้ของผู้ตายเพื่อนำไปยื่นให้กับทาง รพ. โดยปัจจุบันทางญาติยังคงเศร้ากับการจากไปอย่างกะทันหันของผู้ตาย เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว คอยส่งเสียเลี้ยงดูคนที่บ้านอีก 8 ชีวิต (ยาย แม่ น้องสาว และหลานๆ)

ที่บ้านเลขที่ 73 ม.6 บ้านเหล่า ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของแม่ของผู้เสียชีวิต โดยมีนางสมบัติ สมจิตร อายุ 59 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต น.ส.นิภาภรณ์ บัวนาค อายุ 29 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต และ น.ส.ประภัสสร สมศรีโหน่ง อายุ 46 ปี ลูกพี่ลูกน้อง เล่าให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เกตุสุดา บัวนาค อายุ 33 ปี เป็นลูกสาวคนโต ปัจจุบันมีครอบครัวอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีลูกสาววัย 9 ขวบ 1 คน ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะส่งเงินมาให้แม่และญาติพี่น้องที่อยู่ทางบ้านทุกเดือน

ล่าสุดเพิ่งเดินทางกลับมาเที่ยวบ้านเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 67 และมีกำหนดจะเดินทางกลับสิงคโปร์ในวันที่ 22 ธ.ค. แต่ในวันที่ 19 ธ.ค. ผู้ตายได้ไปดูหลานชาย (ลูกของน้องสาว) เล่นกีฬาสีที่โรงเรียน โดยขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปกับน้องสาว และขากลับจากดูกีฬา ขณะขี่รถออกมาจากโรงเรียน ก็ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้มเอง ไม่มีคู่กรณี ทั้งคู่มีแผลถลอกตามร่างกาย หลังจากนั้นไปเข้ารับการรักษาที่ รพ.เวียงเชียงรุ้ง ซึ่งเป็น รพ.ในพื้นที่ ตอนนั้นน้องเกตุ (ผู้ตาย) ยังไม่มีอาการบาดเจ็บหนักอะไร สามารถสื่อสารพูดคุยกับคนอื่นได้ตามปกติ แต่ทางญาติกังวลว่าน้องเกตุผู้ตายตอนประสบอุบัติเหตุได้เอาด้านหน้าลงพื้น ฟันหน้าด้านบนเสียหาย จึงกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อสมอง ก็เลยอยากจะย้าย รพ. ไปในเมือง เพื่อเข้ารับการเอ็กซเรย์สมองและผ่าตัดศัลยกรรมฟัน เพราะน้องเกตุผู้ตายตอนอยู่สิงคโปร์ จะมีอาชีพเสริม แต่เป็นรายได้หลักมากกว่ารายได้ประจำ ก็คือ การไปรับจ้างฟ้อนรำตามงานที่มีคนจ้าง ก็เลยอยากให้ผู้ตายได้รับการรักษาให้กลับมาเป็นปกติ

ญาติผู้ตายเล่าต่อว่า หลังเข้ารับการตรวจที่ รพ.เอกชนในตัวเมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ก็ไม่พบความผิดปกติทางสมอง แต่สำหรับฟันหน้าบนที่เสียหาย ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อใส่เหล็กเสริมเข้าไป โดยทางหมอระบุว่าเป็นการผ่าตัดเล็กๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดประมาณ 22.00 น. ของวันที่มาตรวจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 21 ธ.ค. ทาง รพ.มาแจ้งว่า เกิดความผิดพลาดระหว่างรักษาขึ้น (ญาติมาทราบทีหลังว่า ก่อนการผ่าตัดมีการใส่ท่อออกซิเจนผิดพลาด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่มีอากาศหายใจนานประมาณ 5 นาที) ซึ่งทางแฟนผู้ตายที่บินด่วนมาจากสิงคโปร์มาเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดบอกว่า มีการผิดพลาดก่อนการผ่าตัด น้องเกตุจึงยังไม่ฟื้น และต้องเข้าพักแอดมิทที่ รพ. ก่อนจะเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา และประกอบพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.

หลังเกิดเหตุ ทาง รพ.เข้ามาพูดคุยกับทางญาติและยินดีจะจ่ายค่าชดเชยให้กับทางญาติ แต่ต้องให้ทางญาติส่งเอกสารประมาณการรายได้ของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ทาง รพ.ไปประกอบการพิจารณาจ่ายค่าชดเชย แต่ตอนนี้ทางญาติกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารจากทางครอบครัวที่ประเทศสิงคโปร์ โดยที่ผ่านมาน้องเกตุผู้ตาย เป็นเสาหลักของครอบครัว คอยส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวที่เวียงเชียงรุ้งทุกเดือน โดยเขาจะทำงานมีรายได้ประจำเดือนละ 4 หมื่นบาท แต่รายได้จากการไปรับจ้างฟ้อนรำไทยในงานต่างๆ จะได้มากกว่าเงินเดือนประจำหลายเท่า ซึ่งรายได้ตรงนี้เป็นเงินสด ไม่มีสลิปเหมือนงานประจำ ทำให้การรวบรวมเอกสารเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่ทางญาติทุกคนยังอยู่ในอาการเศร้าโศกทุกครั้งที่คิดถึงหรือเห็นรูปผู้ตาย อยากได้คนกลับมามากกว่า ไม่คาดคิดว่าจากการผ่าตัดเล็กๆ จะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของทางครอบครัว เงินชดเชยที่ทาง รพ.จะมอบให้ ถึงจะมากเท่าไหร่ก็คงไม่สามารถจะทดแทนความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ ญาติผู้ตายกล่าว

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า แม่ผู้ตายมีอาชีพแค่การทำนาปี มีรายได้ไม่แน่นอน บางปีเจอภัยพิบัติก็ไม่มีผลผลิต ขาดรายได้ ส่วนน้องสาว แม้จะไปทำงานมีรายได้แต่น้อยกว่าพี่สาวหลายเท่า ไม่พอเลี้ยงดูครอบครัวที่เหลืออยู่ กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางญาติหวังว่าทาง รพ.จะมีการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป