จูน เพ็ญชุลี มาแล้วพร้อมหย่าตามที่ตกลงกับ หนุ่ม กะลา หลังไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยนักร้องดังถอนฟ้องจบคดี

ทนายพัฒน์ ทนายความของ จูน เพ็ญชุลี เผยภาพ จูน เพ็ญชุลี ขณะเดินทางมาถึงแล้ว ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ ตามที่ได้นัดหมายกับทางนักร้องดัง หนุ่ม กะลา เพื่อมาเซ็นหย่ากันตามกฎหมาย

โดย ทนายพัฒน์ โพสต์ภาพพร้อมแคปชั่นว่า “สวัสดีครับ มาพร้อมหย่าตามที่ตกลงครับ #ทนายพัฒน์”

หลังจากคดีฟ้องร้องภรรยาปม 66 ล้าน จบไปแล้ว โดย หนุ่ม กะลา ถอนฟ้อง โดย ทนายเดชา ทนายของหนุ่ม กะลา แจ้งก่อนหน้านี้ว่า

“จบแล้วครับหนุ่มกะลาและจูน ถอนฟ้องและไปหย่ากัน ถ่ายภาพร่วมกับผู้พิพากษาหัวหน้าศาลผู้หญิงคนที่ยืนติดกับผมคือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลส่วนผู้ชายที่ยืนติดกับคุณจูนคือผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนวันนี้ตกลงเรียบร้อยแล้วถ่ายภาพกันภายในศาล ปัญหาครอบครัวจบได้ด้วยการพูดคุยกันครับ”

หลายคนต่างตกใจ เมื่อจู่ ๆ นักแสดงหนุ่มมากเซอร์ ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในทำนองว่าเลิกกับแฟนสาวนักแสดง หญิง อาณดา ประกอบกิจ แล้ว พร้อมซัดเดือดชาวเน็ตที่ไม่รู้สาเหตุเลิกที่แท้จริง แต่พากันเม้าท์จนเสียหาย

โดยล่าสุด หนุ่มทู ได้โพสต์ข้อความผ่านไอจีสตอรี่ ระบุว่า “If you don’t know the story don’t talk about it… Or I just sue you”

และบอกว่า “เลิกกันด้วยเหตุผล ส่วนตัว ที่หมายความว่า ไม่ได้มีคนอื่นมาเกี่ยวข้องอะนะ ฉะนั้นใครที่ไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องพูดนะครับ สำหรับใครพูดไปแล้ว แอบบอกว่าแคปไว้แล้วนะครับ”

ส่อง นาย – ใบเฟิร์น / ถอยหลังความสัมพันธ์ ปรับสถานะลดเหลือแค่ความเป็นเพื่อนที่ปรารถนาดีต่อกันอยู่เสอมๆ สำหรับนักแสดงหนุ่ม นาย นภัทร ที่ก่อนหน้านี้ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมเผยสาเหตุเพราะตนเองบาลานซ์เวลาได้ไม่ดีพอ

ส่วนทางด้าน ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็ได้ออกมาเปิดใจหลังจากนั้น ว่าการตัดสินใจที่ยาก แต่ก็เป็นการตัดสินใจร่วมกัน และยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็เป็นวิถีทางที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองคน และผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ได้รับรู้เช่นเดียวกัน

แม้ทั้งสองคนจะจบความสัมพันธ์กันไปแล้ว แต่แฟนคลับจำนวนหนึ่ง ก็ยังติดตามและอยากให้ทั้งสองคนกลับมารักกันดังเดิม

ล่าสุดเมื่อส่องเข้าไปดูไอจีของ นาย ณภัทร และ ใบเฟิร์น แอยสังเกตุเห็นทั้งคู่ แต่งตัวสไตล์เดียวกัน คุมโทนเดียวกัน คือเสือสีขาว กางเกงยีนส์

จากประเด็นที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือว่าเขาได้คบมือที่3 กับหญิงที่แต่งงานแล้ว สำหรับ คังคยองจุน นักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้ ในเดือนธันวาคมปี 2023 และสามีของเธอ ‘A’ ได้ยื่นฟ้องในเวลาต่อมาเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านวอน โดย ‘A’ อ้างว่าคังคยองจุนมีส่วนร่วมในเรื่องโดยรู้ว่า ‘B’ แต่งงานแล้ว

ซึ่งช่วงนั้นต้นสังกัดของคังคยองจุนปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ข้อความ Telegram แสดงให้เห็นว่าเขามีความสัมพันธ์ที่น่ารักเป็นพิเศษกับ ‘B’ และคังคยองจุนแต่งงานกับภรรยาในปี 2561เขามีลูกชายสองคน

ในการพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ศาลครอบครัวโซลยอมรับคดีของ ‘A’ ซึ่งหมายความว่า ‘A’ มีสิทธิ์ยื่นคำร้อง และทนายความของคังคยองจุนยอมรับคำขอของ ‘A’ โดยยอมรับเรื่องชู้สาว ซึ่งทำเอาแฟนๆถึงกับตกใจเมื่อได้ยินว่าเขากำลังมีชู้

เรียบเรียง news in thailand

ต้องยอมใจอดีตนางเอกชื่อดัง “อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส” ที่ปัจจุบันอายุ 50 ปีแล้ว

โดยล่าสุด แฟนคลับเจ้าตัวต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลังจากที่อุ้มเผยคลิปเก็บกระเทียม ด้วยใบหน้าสดๆ ไม่พึ่งแอปฯ อวดริ้วรอยตามวัย ไม่ย้อมผมดำกลบผมหงอก

อาทิ ชอบคุณอุ้มมาก ไม่ฉีดไม่ทำแบบคนอื่น ไอดอลเลยค่ะ, กระเทียมสวยมาก แต่โฟกัสที่ความสวยคุณอุ้มมากกว่า ดูแลสุขภาพดีมากค่า, งามมากครับ , รักในความเป็นธรรมชาติของพี่, โหววว คุณอุ้มยังสวยไม่สร่างเลย ฯลฯ

เอ้ก บุษกร หงษ์มานพ นักแสดงหญิง พิธีกร ชื่อดังที่ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่า เป็นนางเอกสุดฮอต มีผลงานสร้างชื่อทั้งละคร ซีรีส์ ซิทคอม มาแล้วนับไม่ถ้วน หลังจากนั้นเธอก็ได้ห่างหายไปทำหน้าที่คุณแม่แบบเต็มตัว เรียกได้ว่าทุ่มเวลาให้กับการเลี้ยงลูกแบบฟูลไทม์เลยทีเดียว

โดยล่าสุดสาว เอ้ก บุษกร ไม่คิดว่าเธอจะทำสิ่งนี้ เธอได้ออกมาอัปเดตรูปภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ เป็นภาพนั่งคุกเข่าขอพรพระแม่ลักษมี ของานซีรีส์ พร้อมกับเขียนแคปชั่นไว้ด้วยว่า “I told สิ่งศักดิ์สิทธิ์ : ท่านขา ขอเล่นซีรีส์สักเรื่องกับศิลปินที่หนูติ่ง คนไหนก็ได้ค่ะ บทพี่สาวก็ยังดีค่ะ ค่าตัวกันเอง ทำงานเน้นสังคม ขอสักเรื่องนะคะ สาธุค๊าาาา

ทุกวันนี้ไม่เป็นภาระใคร เป็นภาระสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเลยค๊าา5555″ พร้อมกับติดแฮชแท็กว่า #eggbusakorn #HongmanopHome #เปิดบ้านหงษ์มานพ

นางฟ้าสายบุญ ต้องยกให้คนนี้เลย “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” เดินหน้าช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องไม่ได้พัก ล่าสุด เธอ ทำหน้าที่พิธีกรในรายการถ่ายสด สามารถระดมทุนได้ 14 ล้านบาทในวันเดียว เพื่อช่วยเหลือ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ สาวริต้า ยังชวน น้องกวิณท์ ลูกชายสุดที่รัก ไปเยี่ยมน้อง ๆ พี่ ๆ พิการทางสติปัญญา ที่โรงเรียน ปัญญาวุฒิกร พร้อมร่วมทำกิจกรรมวาดรูปและเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อฝึกฝนให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาตัวเอง และมีชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปได้ สุดท้าย เธอ ยังขอบ ขอบคุณผู้มีจิตกุศล อนุโมทนาอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

>

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงหนัก หลังจาก ดารารุ่นใหญ่ หนุ่ม สุรวุฒิ ออกมาเปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับค่าตัวหลังถ่ายทำละครเสร็จไปกว่า5ปีแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ รถเมล์ คนึงนิจ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านทางรายการ ข่าวใส่ไข่ ว่า ตัวเองนั้นก็เป็นเคสเดียวกันกับหนุ่ม

โดยรถเมล์เล่าให้ฟังว่า ของเมล์เคลียร์แล้ว เมล์ไม่ได้รอ แต่เป็นเรื่องเดียวกัน เคสเดียวกัน ถ่ายทำนาน ส่วนใหญ่ละครจะแบ่งจ่ายเรื่อยๆ อยู่แล้วตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ พอละครจบเราก็เคลียร์กันไป ด้วยความที่บริษัทเคลียร์ให้เมล์นะ แต่สำหรับนักแสดงคนอื่นๆ เขาก็รอกันมานาน

หลายคนก็รู้สึกว่าคนละส่วนกัน นักแสดงมีหน้าที่ไปแสดงละครเรื่องนั้น ทำหน้าที่จบแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้จัด หรือทางค่ายเป็นคนถ่ายละคร ต้องบริหารเงิน จะขาดทุนอะไร ไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าตัว เพราะนักแสดงมีภาระหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบตอนไปถ่ายละครก็มีค่าใช้จ่าย คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องการใช้เงิน การไปติดเงินแบบนี้ นักแสดงรุ่นใหญ่ นักแสดงอาวุโส เป็นนักแสดงตัวท็อปๆ ของเมืองไทยหลายคนก็ยังได้ไม่ครบ ไม่ต้องสัมภาษณ์ว่าเรื่องอะไร เป็นเรื่องสุดท้ายที่เล่นและเพิ่งออนแอร์ไป

เราเข้าใจเหตุผลของทุกฝ่าย แต่มันนานจริงๆ เหมือนเขามีปัญหา แต่เราจะเป็นพ่อพระ แม่พระ เราก็ไม่ใช่มหาเศรษฐี เขาก็บอกพยายามหาเงิน พยายามหาทุกวิถีทางเอาเงินมาจ่ายนักแสดง มันก็เลยเหมือนเป็นไส้เลื่อน เลื่อนมาอยู่เรื่อย เลื่อนมานานแล้ว 5 ปีคือรวมถ่าย ถามว่าเรื่องอะไรก็เป็นเรื่องล่าสุดที่รถเมล์เล่นและถ่ายทำและเพิ่งออนแอร์จบไป ไม่ใช่แม่เบี้ยเพราะพี่เอจ่ายให้หมดแล้ว

แต่เขาก็ได้มาบางส่วนนะคะ แต่แค่ว่าไม่ครบ ละครมีการถ่ายและหยุดไปด้วย พอหยุดไป กลับมาถ่ายใหม่ กว่าละครจะได้ออนแอร์ทิ้งระยะเวลาไปนาน นักแสดงบางส่วนเลยยังได้ไม่ครบ เขาถึงบอกว่าฟ้องเถอะ ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยเราเข้าใจ แต่ถ้าเราไปจ้างใครทำงาน และเราติดเขาอยู่ ก็ต้องหาทุกวิถีทางหาเงินมาใช้

ล่าสุดทางด้านนักแสดงสาวชื่อดัง บีมาติกา ภรรยาสาวของนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังได้ออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่ตั้งครรภ์ลูกคนที่2 บอกเลยว่าในตอนนี้ท้องโตขึ้นมากๆ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาอัพเดทภาพพร้อมกับระบุข้อความว่า

เข้าไตรมาสที่สามแล้ว ท้องนี้ใหญ่กว่าท้องที่แล้วมาก ปวดหลังบ้างเป็นบางครั้ง แต่ใจแม่ก็สู้เสมอเพื่อลูกรัก อยากเจอหน้าหนูแล้วค่ะ 🤰🏻🤰🏻

นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเธอ สำหรับ นุ่น เนตรชนก หรือ นุ่น ดำดง ล่าสุดได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดเส้นทางชีวิตเล่นลิเกตั้งแต่เด็ก พร้อมเผยตัวละคร “ดำดง” ทำให้เกิด #นุ่นดำดง และยังเปลี่ยนชีวิตเธอชั่วข้ามคืน

ตัวเราเข้าสู่การเล่นลิเกตั้งแต่เมื่อไหร่ และเอาจริงๆเราชอบไหม ??นุ่น เนตรชนก : 10 ขวบค่ะ ไม่ชอบแต่ว่ารักค่ะ คือพ่อกับแม่หนูไม่เคยอยู่บ้านจะอยู่แบบเป็นบ้านเช่าอยู่ตรงนี้ไม่ไหวก็ย้ายไปตรงนี้ ก็พัดลมหนึ่งตัวแล้วปูผ้านอนกับแม่ ตอนนั้นคือแบบแย่แล้วไม่ได้แล้วก็บอกแม่ว่ารอเราหน่อยนะ

ใครเป็นคนคิดการแต่งหน้านั้น
นุ่น เนตรชนก : จริงๆ เขาไม่ได้แต่งแบบนั้นค่ะ แต่วันนั้นเราหลับแล้วเราก็ลบหน้าแล้วเขาก็มาปลุก ตอนนั้นคว้าอะไรได้ก็ฟาดเลยก็เลยออกมาเป็นอย่างนั้น

แล้วอะไรที่ทำให้ดำดงอยู่ดีๆดังเปรี้ยงขึ้นมา
นุ่น เนตรชนก : เพราะประโยคนี้ค่ะ “มาเลยกูเล่นแล้วจนกูจะบ้าอยู่แล้ว” จากนั้นคนมาเล่นเต็มเลยข้ามคืน

ซึ่งตอนนั้นเราตกใจในความสำเร็จที่มันเกิดขึ้นไหมเอ่ยนุ่น เนตรชนก : ตกใจค่ะ

แล้วมันไปกระทบกับการแสดงลิเกที่เราต้องเล่นเป็นงานหลักไหมเอ่ย ??
นุ่น เนตรชนก : กระทบเลยค่ะ

เรากลัวไหมว่าเมื่อกระแสหายไปงานเราจะหายไปด้วย
นุ่น เนตรชนก : ไม่คาดหวังอะไรเลย เรามองอย่างเดียวเลยคือทำให้พ่อกับแม่ไม่ลำบากได้แล้ว เลยพอใจได้แล้วว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเราได้ยืนอยู่จุดที่มีกระแสแล้วนะ เด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มันไม่มีอะไรเลยค่ะ ที่ลุงได้ให้ชีวิตหนูเด็กคนนั้นมันทำได้แล้ว