ก่อนหน้านี้เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา Mansion Global ได้รายงานว่า ซุปตาร์สาว ลิซ่า BLACKPINK
ได้ซื้อบ้านในย่าน Coldwater Canyon ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ เมืองลอสแอนเจลิส ในราคา 3.95 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 14 5ล้านบาท
ล่าสุด เธอได้ออกมาโพสต์คลิปลง TIKTOK เช็คอินที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งอวดวันชิลๆ ลงสวนเก็บเลม่อนสดๆจากต้นเพื่อนำมาทำน้ำเลม่อนเปรี้ยวๆ บอกเลยว่าชีวิตดี๊ดีสุดๆค่ะ

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ โคลนสูงมิดหลังคาบ้าน ช็อกซ้ำเจอศพอยู่ใต้โคลน หลังน้ำท่วมเชียงรายลด อนาคตทางภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ต้องวางแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก @ernarit โพสต์คลิปเหตุการณ์ โคลนสูงท่วมเกือบมิดหลังคาบ้าน ในพื้นที่ชุมชนวัดถ้ำผาจม หมู่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย D.R.A.T เข้าไปให้ความช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ก.ย.67 นายอัศวิน โรมประเสริฐ นายกกิติมาศักดิ์ สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ DRA เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า ตนและหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงบริเวณชุมชนวัดถ้ำผาจม หมู่ 1 เป็นพื้นที่ที่หนักที่สุดในพื้นที่ทั้งหมดของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เนื่องจากเป็นพื้นที่ต้นน้ำ รวมถึงมีข้อจำกัดที่ส่งผลให้การช่วยเหลือเกิดความล่าช้า ทั้งกระแสน้ำที่เชี่ยวมาก เป็นอุปสรรคในการเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ เจ็ตสกี เรือ เชือก แม้กระทั่งโดรน ก็ไม่สามารถบินเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้

ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 วันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากน้ำเริ่มลดลงแล้ว ตนถึงจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ และเจอกับโคลนที่สูงขึ้นไปเกือบมิดหลังคาบ้าน โดยชั้น 1 ของบ้านนั้น จมหายไปหมดเลย ซึ่งเกิดมาก็เพิ่งเคยเจอโคลนที่ทับถมสูงขนาดนี้ ลักษณะเป็นโคลนกึ่งๆ ทราย ที่พัดมากับฝั่งพม่า ไหลมากับน้ำ ด้วยปริมาณโคลนที่มากกว่าน้ำ ทำให้กองเป็นเนินภูเขาสูง ถมทุกอย่างที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตอยู่ข้างล่างโคลนเกือบทั้งหมด

นายอัศวิน กล่าวว่า บางจุดหนักถึงขั้นที่โคลนเข้าไปในตัวบ้าน ต้องรีบทยอยตักโคลนทรายออกไป โดยระหว่างที่ตักโคลนขึ้นมาก็พบศพคน สัตว์ สิ่งมีชีวิต รวมถึงเตียงนอน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่พังจมอยู่ใต้โคลนหมด ต้องขุดดินลงไป โคลนก็ลึกจนเดินไม่ได้ เดินไปก็จม ปล่อยแห้งก็แข็งตัวอีก

นายอัศวิน กล่าวว่า ตนมีโอกาสทำหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติมาหลายพื้นที่ มาเห็นพื้นที่ตรงนี้แล้วก็ยังรู้สึสกหดหู่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าของบ้าน รวมถึงคนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นหนักใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ภาครัฐควรจะต้องเข้าไปเยียวยาให้ความช่วยเหลือ รวมถึงเยียวยาด้านสภาพจิตใจจากการสูญเสียค่อนข้างเยอะ

“พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่รอยต่อเส้นเขตแดนไทยพม่า เห็นได้เลยว่าธรรมชาติไม่ได้เลือกข้าง ภัยธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ไหนก็แล้วแต่ ล้วนเสียหายทั้งหมดในมุมกว้าง ทั้ง 2 ฝั่งได้รับผลกระทบเสียหายพอกัน”

นายอัศวิน กล่าวอีกว่า น้ำป่านั้นจะค่อนข้างร้ายแรงกว่าน้ำท่วม เพราะมากับโคลน เราควรตระหนักถึงการช่วงหลังๆ มานี้ ธรรมชาติมีภัยพิบัติใหญ่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะน้ำท่วม จ.น่าน จ.แพร่ หนักที่สุดในรอบ 100 ปี รวมถึง อ.แม่สาย ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเจอถี่ขนาดนี้ แสดงว่าภูมิประเทศของเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

อนาคตทางภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ต้องวางแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ด้านสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ DRA จะมีการนำโดรนขนของติดกล้องเรดาร์ เพื่อทำดิจิทัลทวินของเมือง ทำซิมูเลชั่น เข้าโปรแกรมประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ กรณีฝนตกว่าจะมีปริมานน้ำเท่าไหร่ เล็งเห็นถึงพื้นที่ขวางทางน้ำในปัจจุบัน ว่าต้องแก้ไขอย่างไร เพื่อประเมินความเสี่ยงในอนาคต เพื่อทำให้เกิดความสูญเสียน้อยลง ปัจจุบันภัยพิบัติรุนแรงมากขึ้นจากเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น เราก็ควรใช้เทคโนโลยีในการเข้ามาฟื้นฟู พัฒนาธรรมชาติไปด้วยกัน

เรียกว่าเป็นการสูญเสียฮีโร่กู้ภัย เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค หลังจากที่เข้าช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย ได้เสียชีวิตกะทันหันหลังปฏิบัติภารกิจ โดยในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์แสดงความอาลัยต่อการจากไปของ เอส มูลนิธิ ดิ อาร์ค เป็นจำนวนมาก

โดยวันที่ 15 ก.ย. 2567 ได้มีผู้ใช้ Dolchanok Punyodyana โพสต์อาลัย ระบุว่า  “หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมากก่อนที่เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เรานั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชั่วโมง ก็แยกย้ายกันกลับห้อง

ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี่ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัย เพราะในรีสอร์ตมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไป เอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ

ใครรู้จัก เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน”

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก วัดเวฬุวนาราม ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “เป็นวันที่เสียใจอีกวันหนึ่งเช้านี้ลูกศิษย์ที่ลงพื้นที่โทรมาแจ้งว่า พวกเราสูญเสียเสียอาสาน้ำดีไปหนึ่งท่าน เอสจากไปอย่างสงบเมื่อคืนที่แม่สาย ใครที่รู้จักเอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับดิ๊บด้วย”

ขอบคุณ FB : Dolchanok Punyodyana  , วัดเวฬุวนาราม

แม้จะโสดแต่อยู่ในโหมดมีคนคุยแล้ว สำหรับ นางเอกคนสวยจากช่องวัน 31 อย่าง “เฟิร์น นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล” หลังโดนถามถึงเรื่องหัวใจ เพราะได้อัพเดทให้ฟังเลยว่า

ตอนนี้มีคนคุยแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานก็ยังเรียกว่าโสดได้อยู่

และไม่เคยปิดบังไปไหนมาไหนด้วยกันปกติ เพื่อนๆหรือคนรอบข้างก็รู้ ก็เห็น

นอกจากนี้ยังยอมรับด้วยว่าตัวเองเปิดกว้างเรื่องเพศคุยได้ทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง เพราะส่วนตัวมองความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน ไม่เกี่ยวกับเพศ

ก็เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงสาวของไทยที่ยอมรับเลยว่าเปิดกว้างเรื่องเพศและคุยได้กับทั้งชายและหญิงเลย

แหม ต้องบอกเลยว่ายุคนี้โลกมันเปิดกว้างมากขึ้นจริงๆเพราะแม้แต่ดารา-คนบันเทิงหลายคนเองยังยืดอกรับเลยว่า ไม่ปิดกั้นเรื่องเพศ

และคุยได้หมดเพราะมองที่ตัวบุคคลมากกว่าการจำกัดว่าเขาเป็นเพศชาย หรือว่าเพศหญิง

ซึ่งหลังจากที่ดาราหลายคนออกมาเคลื่อนไหวหรือเปิดใจเรื่องนี้ก็ทำให้หลายคนกล้าเปิดเรื่องเพศและเปิดตัวคบเพศเดียวกันได้มากขึ้น

ก็หวังว่าทุกคนจะมีความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี และไม่ต้องกลัวคนจะมองหรือดราม่าเรื่องเพศนะคะ เพราะยุคนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

ขอบคุณข้อมูล : @ fernynop

นอกจากไปช่วยพี่น้องชาวเชียงรายที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกับทีมป่อเต็กตึ๊ง จนสถานการณ์ดีขึ้น นักแสดงหนุ่ม แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ได้เดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพ

ตอนมาก็มาแต่ตัว แต่ขากลับ หนุ่มแทค ยังพาสมาชิกใหม่กลับมาด้วยอีก 4 ชีวิต นั้นก็คือ น้องลูกแมว ที่นักแสดงหนุ่มได้ช่วยไว้ตอนที่น้องลอยมากับน้ำที่เชียงราย

โดยเจ้าตัวได้โพสต์คลิปอวดน้องสมาชิกใหม่ของบ้าน พร้อมกับชื่อที่ตั้งให้ ว่า “ความวุ่นวายในชีวิตแต่เช้า ไปช่วยแมวมา เลยตั้งชื่อเลยละกัน 😁 โคตรซนเลย ( นี้ไม่กลัวรอยสักเลยเหรอนี้โหดนะ )”

แฟนต่างพากันเข้าไปคอมเมนต์ว่า นำโชค บุญรอด บุญดี มารวย ตั้งชื่อให้เลย งวดนี้ต้องมี4ค่ะ 44ไหมพ่อ😍, แมวบอก เดียวโดนตกแน่ๆ สักก็สักเหอะ, โดนตกแล้วรอยสักก็รอยสักเถอะ,ผู้ชายเเสนดีที่มีรอยสักกับน้องแมวแสนซน😁😍อบอุ่นจริงๆค่าา ฯลฯ

ขอบคุณรูปจากไอจี : tack_pharunyoo

ทำเอาดราม่าสนั่นโซเชียลเลยทีเดียว สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้โพสต์ข้อความว่า “เอาข้าวมาแจกก็ทำให้มัน อร่อยๆดีๆหน่อยนะคะ มีแต่ผัดผัก กะเพราหมู ข้าวเหนียวหมูทอด กินอยู่แค่นี้ รสชาติก็ไม่ได้เรื่อง เหมือนทำ แค่ให้ได้ภาพถ่ายว่ามาช่วยคน”

ต่อมาได้มีคนแคปข้อความดังกล่าวและนำไปแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น จนสาวเข้าของโพสต์ต้องปิดเฟซบุ๊กหนีไปเลย

ซึ่งเรื่องนี้แน่นอนว่าส่งผลต่อความรู้สึกของหลายฝ่าย โดยเฉพาะความรู้สึกของคนที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ไม่ว่าจะเป็นคนที่ลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้าน หรือว่าคนที่ไปเปิดโรงครัวทำอาหารให้กับชาวบ้าน

อย่างล่าสุดทางด้านของ “กัน จอมพลัง” ผู้ที่ลงพื้นที่ไปตั้งแต่วันแรกๆ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน

โดย กัน ได้เข้าไปคอมเมนต์ฟาดกลับถึงข่าวนี้ งานนี้ถึงกับลั่นเลยว่า อย่าว่าแต่อร่อยเลยเวลาที่จะกินข้าวยังไม่มีด้วยซ้ำ

โดย กัน ฟาดกลับว่า “ขอโทษนะครับ ผมมาช่วยชาวเชียงรายตั้งแต่วันแรกๆ ทุกวันนี้อย่าว่าแต่อร่อยเลยเวลาแดรกข้าว ยังไม่มีเลยครับ แล้วก็ไม่คาดหวังแดรกอร่อยเลยครับเน้นให้มีชีวิตรอดแล้วไปช่วยชาวบ้านต่อ”

เข้าใจความรู้สึกของ กัน เลยค่ะ เพราะว่าถ้าใครที่ติดตามจะเห็นว่า กัน กับทีมงานทำงานกันหนักมากจริงๆ

ทุกนาทีมีค่ามากๆ จะต้องเร่งทำงานเพราะว่ามีชาวบ้านจำนวนมากรอคอยความช่วยเหลืออยู่ เอาเป็นว่าอย่าดราม่าอะไรกันเลยนะคะ

ขอบคุณข้อมูล : กันจอมพลัง ช่วยสู้

เป็นอีกหนึ่งคู่ที่หลายคนจับตาถึงความสัมพันธ์หลัง นุ่น สุทธิภา ประกาศออกสื่อเผยหนุ่มที่ตรงสเปกคือ เบิ้ล ปทุมราช ชอบมานานแล้ว ถูกจริต รู้จักและเห็นมานานแล้วแต่ไม่ได้บอกใคร เก็บไว้ในใจ ล่าสุดหนุ่มเบิ้ล ได้เผยในไลฟ์สด นิกกี้ ณฉัตร ซึ่งหนุ่มเบิ้ลยอมรับว่า สาวนุ่นสวย เข้าใจว่าชอบ แต่อยากให้เจอกันก่อน คุยกันก่อน ไม่อยากให้ปุบปับชอบเลย รู้ว่านุ่นคนดี แต่รู้จักกันก่อนดีกว่า ซึ่งเจอกันแบบคนเยอะๆได้ แต่ถ้าเจอกันแบบ 2 ต่อ 2 ไม่กล้า

ถามว่าสเปกไหม? เขาสวย พูดในเชิงให้เกียรติ เราเป็นผู้ชาย ถ้าเพิกเฉยไม่รับรู้กับเรื่องนี้จะกลายเป็นว่าไม่ให้เกียรตินุ่น แต่ก็ชื่นชอบและชื่นชมอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ ใครๆก็ชอบผู้หญิงสวย แต่ว่าจะมาปุบปับ เราจะกลายเป็นตัวตลก เป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับสังคม ไม่มีใครรู้นิสัยกันได้ภายในแป๊ปเดียว รู้ว่านุ่นเป็นคนดี

เรียบเรียง news in thailand

โมเมนต์อบอุ่น เป้ย ปานวาด และป๊อป นิธิ สั่งเค้กมาฉลองวันเกิดลูกสาว ‘น้องปาลิน’ บรรยากาศสุดอบอุ่น ครอบครัวพร้อมหน้า เห็นแล้วยิ้มตาม

แม้จะเลิกรากับอดีตสามีไปแล้ว แต่ล่าสุด เป้ย ปานวาด เหมมณี และ ป๊อป นิธิ บุญยรัตกลิน ได้ทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พาน้องปาลินไปฉลองวันเกิดที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ พร้อมเผยโมเมนต์สุดน่ารัก นำเค้กมาเซอร์ไพรซ์ลูกสาว ด้านเจ้าของวันเกิดก็ไม่รอช้า รีบลุกขึ้นเป่าเทียน ทำเอาคนเป็นพ่อและแม่ยิ้มตามไม่พัก

นอกจากเป้ยและป๊อปจะร่วมทานอาหารกับลูก ๆ เพื่อเลี้ยงฉลองวันเกิดแล้ว ยังได้ถ่ายรูปครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันด้วย งานนี้มาครบทั้งคุณพ่อป๊อป แม่เป้ย พี่โปรดลูกชายคนโต และน้องปาลิน ทำเอาสายดราม่าถึงกับไปต่อไม่ถูก เพราะบรรยากาศสุดอบอุ่นในภาพ น่าจะเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าแม้พ่อแม่จะแยกทางกันไปแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี และให้ความรักกับลูก ๆ ไม่ต่างจากเดิม

บุ๋ม ปนัดดา น้ำตาไหลพราก เจอ2เหตุการณ์ หลังไปช่วยน้ำท่วม เผยทุกการซัพพอร์ตของคนไทย ทำให้เดินต่อไปได้

บินตรงลงมือทำด้วยตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้กำลังอุ้มท้องก็ไม่หวั่น สำหรับ ดร. บุ๋ม ปนัดดา ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ที่นำทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.เชียงราย ท่ามกลางกำลังใจจากคนไทยทั้งประเทศ

ล่าสุด แม่บุ๋ม โพสต์ไอจีถึงเรื่องราวสุดประทับใจ2รื่อง ที่ทำให้น้ำตาไหล โดยเรื่องแรก ขณะที่กำลังบินอยู่นั้น มีแอร์โฮสเตส ไม่คิดเงินค่าน้ำ โดยเธอเผยว่า “วันนี้ขึ้นเครื่องมาเชียงใหม่ เพื่อมาทำธุระของมูลนิธิสาขาสอง ที่ลำปาง ก่อนขึ้นไปเชียงรายอีกรอบ น้องแอร์ ไม่ยอมคิดตังค์ค่าน้ำ บอกว่าหนูอยากดูแลพี่ พี่ลุยน้ำท่วมเหนื่อยมากแล้ว พอได้ฟังแบบนี้ น้ำตารื้นเลยค่ะ ใจฟูขึ้นมาเลย ขอบคุณนะคะ”

โดยเรื่องที่สองก็คือ “วันนี้มาทาน ฮ้านถึงเจียงใหม่ หลัง ม. อาหาาอร่อยมาก สั่งกินกันกระหน่ำกับเพื่อนฝน แล้วก็เรียกเก็บตังค์ …. เราได้ซองขาวนี้มาแทนค่ะ พร้อมคำพูดของพนักงานว่า วันนี้ค่าอาหารทางร้านขอไม่คิดเงินนะคะ และขอร่วมสมทบทุนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วยค่ะ

เชื่อไหม?? บุ๋มนั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะอาหาร เพราะเพิ่งเจอเหตุการณ์ตื้นตันบนเครื่องบินแล้วมาเจอแบบนี้อีก ซาบซึ้งใจจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกพลังใจจริงๆนะคะ เพราะการซัพพอร์ตของพวกคุณมันทำให้บุ๋มเดินต่อไปได้ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ”

กรณี”ฉลอง ภักดีวิจิตร” ศิลปินแห่งชาติ ผู้กำกับละครและภาพยนตร์ชื่อดัง ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 เวลา 15.30 น. ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยโรคชราและมีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อน สิริอายุ 93 ปี นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงไทย

โดยวันที่ 14 ก.ย. 67 เวลา 14.05 น. ทางครอบครัว และพระเอกก้นกุฏิ “เอก รังสิโรจน์” ได้เดินทางไปรับร่างอาฉลองจากโรงพยาบาลมาทำพิธีทางศาสนา ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า โดยทะเบียนรถตู้เคลื่อนร่าง ฉลอง ภักดีวิจิตร คือ นจ 1034 นนทบุรี

สำหรับตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับ ฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ เสียชีวิตในวัย 93 ปี มีดังนี้

ฉลอง ภักดีวิจิตร เกิดวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2474
เสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 เวลา 15.30 น.
สิริอายุ 93 ปี
อาฉลอง ได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับภาพยนตร์) ประจำปี พ.ศ. 2556
ปี พ.ศ. 2566 ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่าเป็น “ผู้กำกับที่อายุมากที่สุดในโลก”