เรียกได้ว่า เป็นอีกวงดนตรีที่เป็นชวัญวัยรุ่น และหลายๆคนอย่าง ไททศมิตร ซึ่งในวันที่ 14-15 ก.ย. 67 นี้เป็น คอนเสิร์ตใหญ่ของวงนั่นเอง ล่าสุด ทาง จ๋าย ไททศมิตร นักร้องนำของวง ได้ออกมาประกาศช่วงยน้ำท่วม ผ่านเฟซบุ๊ก Itkron Pungkiatrussamee ระบุว่า ตัดสินใจแล้วว่า ค่าตัวจากการเล่นคอนใหญ่ของผม 2 วันที่จะถึงนี้ขอสมทบไปช่วยเชียงรายอีกแรงนะครับ หลังจบคอนกีต้าร์ตัวที่ใช้มาตั้งแต่แรกจะประมูลไปช่วยอีกทบนึง สู้ๆเด้อพี่น้อง

ท่ามกลาง เหล่าเพื่อนๆและแฟนคลับเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเพียบ พร้อมเอาใจช่วยเต็มที่

เรียบเรียง news.in.th

วงการบันเทิงเศร้า หลังสูญเสีย “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ผู้กำกับดัง วัย 93 ปี โดยวันนี้ 13 ก.ย. 2567 คนใกล้ชิดแจ้งข่าว เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 15.30 น. ด้วยโรคชรา หลังเข้ารับการรักษาตัว ด้วยภาวะน้ำท่วมปอด ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ซึ่งจะมีการเคลื่อนร่าง พรุ่งนี้ 14 ก.ย. 2567 จากโรงพยาบาล ไปที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ท่ามกลางความโศกเศร้านี้ พบว่าในโซเชียลของ “แก้ว บุญจิรา” ผู้จัดละคร ลูกสาว “ฉลอง ภักดีวิจิตร” เคยโพสต์ภาพสุดอบอุ่นกับคุณพ่อ พร้อมเขียนข้อความว่า

“รอยยิ้มกับดอกไม้..อะไรฉ่ำกว่ากันหนอ คุณฉลองยิ้มแข่งกับดอกไม้ค่ะ” ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ถือเป็นภาพล่าสุดของ ฉลอง ภักดีวิจิตร ที่แฟน ๆ ได้เห็นกัน

ทั้งนี้ ศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือตามกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.255 ดังนี้

เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพร่าง จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท สำหรับฉลอง เพิ่งได้รับการจารึกลง กินเนส บุ๊ก ว่าเป็นผู้กำกับชายคนแรกของโลก ที่มีอายุมากที่สุดคือ 90 ปี

ฉลอง ภักดีวิจิตร กำกับหนังดังมามากมายหลายเรื่อง อาทิ ระย้า, ดาวคนละดวง, อังกอร์ 1, ทอง 5, ล่าสุดขอบฟ้า, ฝนใต้, มาทาดอร์, อังกอร์ 2, เหล็กไหล, ฝนเหนือ, เลือดเจ้าพระยา, ชุมแพ, ทอง 9, ฯลฯ

เพราะว่าเลี้ยงลูกกันเอง สำหรับคู่ของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ กับภรรยา วิกกี้ พีมนต์ญา ก็เลยเห็นภาพพ่อแม่ลูกกระเตงไปด้วยกันทุกที่ ซึ่งนอกจาก เวียร์ ศุกลวัฒน์ จะชอบเที่ยวแล้ว
ตอนนี้ น้องวิริน ลูกสาวตัวน้อยที่เริ่มรู้เรื่องมากขึ้น ก็ยังบอกกับพ่อแม่ว่าชอบเดินทางและอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ด้วย ตามที่ เวียร์ ได้เขียนเล่าถึงการลูกไว้ในโพสต์ล่าสุด และทิ้งท้ายประโยคสุดอบอุ่นไว้ว่า “ไม่ต้องไปทุกที่ แต่ไปด้วยกันทุกครั้งนะ”

“การเดินทาง…ผมกับ วิกกี้ @vikkiiexplorer เราเริ่มพาวิริน @wylyn.vw19 ออกเดินทางตั้งแต่ 2เดือนครึ่ง เรา2คนเลี้ยงดู วิริน วิรินก็สอนเรา2คนไปด้วย ทุกอย่างคือสิ่งใหม่สำหรับเรา
ในเมื่อเราเลี้ยงลูกกันเอง และเราชอบเดินทาง เราก็คงจะเลือกเดินทางและเลี้ยงเค้าไปด้วยในรูปแบบของเรา เราดีใจที่วันนี้ลูกโตขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น จำได้เยอะขึ้น และเค้าบอกกับเราว่า
เค้าชอบที่ได้เดินทาง และได้อยู่ใกล้ชิดกับเรา …ไม่ต้องห่วงครับลูก นี่แค่เริ่มต้น555 เรายังมีที่ที่เรา3คนต้องไปเจอด้วยกัน อยู่ด้วยกันอีกมากมาย ไม่ต้องไปให้ครบทุกที่ แต่ไปด้วยกันทุกครั้งนะ @vikkiiexplorer @wylyn.vw19”

และแฟนๆที่เข้ามาคอมเมนต์ เช่น ตามดูเฮียทุกทริป ครอบครัวน่ารัก,วิรินเป็นลูกไม้ใต้ต้นจริงๆค่ะ น้องเก่งมาก ไปไหนไปกันกับป๊ามี๊สุดๆ สนใจทุกสิ่งรอบตัว ขอให้ครอบครัวตัว ว.
สนุกและปลอดภัยกับทุกทริปเลยน้าาา,งื้อออออ ”ไปด้วยกันทุกครั้งนะ“ ขอตามไปเที่ยวออนไลน์ด้วยนะค๊าาาา,สุขใดไหนจะเท่า มีเรา 3 คนไปไหนไปกัน วิรินพร้อมมากค่ะ ป๊ามี๊.. go go,รอบครัวน่ารักอบอุ่นมากค่ะ,นิยาม คำว่าครอบครัวค่ะ

ปลดทุกข์ หัวอกคนเป็นแม่ ดิว ธีรภัทร อินฟลูดัง ขอช่วยจ่ายหนี้ค่าสินสอดให้ น้องปอ – น้องพู่กัน จะไปต่อหรือพอแค่นี้ก็แล้วแต่น้องทั้งสอง

วันที่ 13 ก.ย.67 ดิว ธีรภัทร เสื้อผ้าพ่อค้าพาฟิน อินฟลูฯดังหลังทราบเรื่องราว น้องปอ กับ น้องพู่กัน คู่รักที่ต้องเลิกรา ในรายการโหนกระแส ปัญหาทุกข์หนักที่แม่ของฝ่ายหญิงต้องจ่ายค่าสินสอดแทนพ่อฝ่ายชายจนเป็นหนี้สินรุมเร้าแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ล่าสุด ดิว ธีรภัทร โพสต์ประกาศ ตามหาแม่ของฝ่ายหญิงว่า “ใครมีเบอร์ติดต่อ คุณแม่
น้องพู่กัน น้องปอ #โหนกระเเส พี่ดิว ธีรภัทร ขอใช้หนี้งานแต่งเด็กทั้ง 2 ให้คุณแม่ ขอมอบให้เลย 200,000 แสนบาท ผมขอปลดทุกข์ให้คุณแม่”

ก่อนจะโพสต์ชี้แจงเหตุที่ช่วยเหลือด้วยว่า “พี่ดิวขอบอกเจตนา ที่ช่วยน้องพู่กัน กับน้องใบปอ
ที่ขอใช้หนี้งานแต่งให้น้องทั้ง 2 ทั้งหมด”

“เงิน 200,000 บาทนี้เพื่อมอบให้คุณแม่น้องปอไปใช้หนี้ ไม่มีเจตนาใดๆครับ อยากมอบให้เป็นกำลังใจคุณแม่ เพราะแม่คนนี้ คือแม่ที่เป็นแม่ที่ทำเพื่อลูกจริงๆ ”

“ผมได้เห็นความดี ที่แม่ทำแล้วนะครับ และแม่สมควรได้รับสิ่งดีๆจากคนดีๆตอบแทน ให้แม่มีความสุขต่อไป แล้วพบกันครับคุณแม่ ”

“และน้องดิวอยากให้คุณแม่รับไว้ เพราะมันคือผลแห่งการทำดี ที่แม่ได้กระทำเพื่อลูกทั้ง 2 ทั้งน้องปอ และน้องพู่กันครับผม และพี่ดิวขอให้ทั้ง 2 กลับมารักกันให้อภัยกันนะลูก คนดีๆ ไม่ได้หาง่ายๆ อย่างที่พี่หนุ่มกรรชัยบอก ”

“และหากใครหลายๆคนที่กำลังท้อใจ ยังมี คนดีๆในโลกที่มองเห็นความดีที่คุณทำอยู่เสมอ ขอซัพพอร์ตเรื่องราวครั้งนี้ ให้ทุกคนสมหวังกับทุกสิ่งที่หมายปองครับ”

พ่อค้าคนดังยังโพสต์อีกว่า “งดดราม่ากับคำที่บอกว่า ต่อให้น้องพู่กัน และน้องใบปอ จะได้ไปต่อ หรือไม่ได้ไปต่อกับชีวิตคู่ สำหรับพี่ดิว ธีรภัทรขอเป็นพี่ชายจ่ายค่าสินสอดให้ เงินจำนวน 200,000 บาท”

“ที่พี่มอบให้คุณแม่น้องปอใช้หนี้งานแต่งงานที่ไปหยิบยืมเขามา อย่างน้อยๆ พี่ดิวก็ได้ปลดทุกข์ ในใจคุณแม่ หัวอกคนเป็นแม่ อย่างน้อยๆ ท่านก็ได้ผ่อนหนักเป็นเบาที่แบกภาระหนี้สิน”

“ที่ท่านได้มอบความรักให้หนูทั้ง 2 คนด้วยการไปหยิบยืมคนอื่นมา เพื่อลูกสาวลูกเขยของท่าน
ได้แต่งงานสมหวังกัน นี่เเหละ ความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นเเม่ คำว่า ขายผ้าแบกหน้าเพื่อลูก คำนี้คือความจริง”

“ที่พี่หนุ่ม กรรชัยพูดในรายการ โหนกระเเส ขอให้น้องพู่กัน กับน้องใบปอ คิดดีๆ จะไปต่อ หรือพอแค่นี้ มันขึ้นอยู่กับหัวใจที่แท้จริงของหนู 2 คนแล้วเเหละครับ สำหรับพี่ชายคนนี้ที่ชื่อ ดิว ธีรภัทร พี่มาส่งทางรักได้เท่านี้ พี่ชายคนนี้ขอซัพพอร์ตหนูทั้ง 2 และครอบครัวนะครับ ”

“สุดท้ายนี้ พี่ดิวฝากคำพูดนี้ สำหรับพี่ก็แอบหวัง ว่าในวันที่ทุกข์ หนูผ่านไปได้แล้ว ถ้าหนูจะรวยและสุขในวันข้างหน้า หนูจะพร้อมอยู่ข้างกันไหม พี่ยังแอบเชียร์ ทั้ง 2 ให้มารักกันนะครับ”

“พี่ดิวกำลังเดินทางไปหาคุณแม่ น้องปอ น้องพู่กัน เพื่อนำกำลังใจไปมอบให้ถึงมือ พร้อมส่งพลังดีๆให้คุณแม่และครอบครัวเด็กทั้ง 2 คน”

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่จิ้นที่กระเเสดีมาก สำหรับ ปอนด์ ณราวิชญ์ เเละ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมาว่าทั้งคู่ได้ยุติการทำงานร่วมกันเเล้ว ล่าสุดทางต้นสังกัด GMMTV ได้ออกมาเเถลงความจริงว่า บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ขอแจ้งให้ทราบว่า ข่าวที่เผยแพร่เกี่ยวกับการยุติการทำงาน คู่กันของ “ปอนด์ ณราวิชญ์” และ “ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” ไม่เป็นความจริง เป็นเอกสารปลอมและทางบริษัทฯ ไม่เคยออกแถลงการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

ขอความกรุณาแฟนคลับทุกท่านอย่าหลงเชื่อข่าวลือหรือข้อมูลที่ไม่ได้มาจากช่องทางที่เป็นทางการของ GMMTV รวมถึงหยุดการส่งต่อภาพเอกสารปลอมและข้อมูลเท็จ นอกจากนี้ การปลอมแปลงเอกสารถือเป็นการกระทำผิด มีโทษปรับและจำคุกทางอาญาญา

บริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำการดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิและชื่อเสียงของบริษัทฯ และศิลปินในสังกัดต่อไป GMMTV ขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจและการสนับสนุนของทุกท่าน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด วันที่ 13 กันยายน 2567

เรียบเรียง news in thailand

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคน ที่ทุ่มเทช่วยเหลือสังคมเป็นอย่างมาก สำหรับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ได้ลงพื้นที่อย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของคนในพื้นที่ จากบทบาทพระเอกนักบู๊ในจอ สู่ฮีโร่ในชีวิตจริงของคนไทย

โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มีชื่อเล่นว่า “ท็อป” เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ที่อำเภอสระแก้ว บุตรของนายชูชาติ กับนางปรางทิพย์ บรรลือฤทธิ์ บิณฑ์ มีน้องชายฝาแฝดคือ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์

บิณฑ์จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่จังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นมาศึกษาต่อที่โรงเรียนกรุงเทพโปลีเทคนิค และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิทยาการการจัดการจากมหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี

เส้นทางวงการบันเทิง เริ่มด้วยการถ่ายแบบและบทแสดงเป็นตัวประกอบ ก่อนได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือในเรื่อง “ตำรวจเหล็ก” แสดงคู่กับ มาช่า วัฒนพานิช

กระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากละครโทรทัศน์เรื่อง “แผลเก่า” แสดงคู่กับชุติมา นัยนา ฉายทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ.2531

ส่วนผลงานที่เป็นที่จดจำคงหนีไม่พ้นบท “อ้ายทองเหม็น” ในภาพยนตร์เรื่องบางระจัน เมื่อปี พ.ศ.2544 ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดด้วย

และนอกจากบทบาทพระเอกในจอ และฝีมือกำกับเบื้องหลังกล้องแล้ว บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังทำงานช่วยเหลือสังคมผ่านทางงานสาธารณกุศลต่อเนื่องมาหลายสิบปี

โดยเป็นอาสามัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ทั้งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทาง เรียกได้ว่าเดินทางไปทั่วประเทศที่มีความเดือดร้อน

จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของคนไทย เช่นเดียวกับเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวเชียงรายทันที ทั้งนี้ ย้อนกลับไปช่วงกลางปี พ.ศ.2552 บิณฑ์และน้องชายฝาแฝด

เคยปรากฏเป็นข่าวสมัครเป็นสมาชิกของ “พรรคเพื่อไทย” พร้อมกระแสว่าจะลงเลือกสนามเลือกตั้งด้วย อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาเจ้าตัวได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ชี้แจงว่าเพียงแค่ได้รับทาบทามเท่านั้น แต่ไม่คิดลงเล่นการเมือง

เรียกได้ว่า ช่วงนี้ในภาคเหนือของประเทศไทยได้รับผลกระทบจาดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี ทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุดทาง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้ออกมาเผย ซุปตาร์สาว อย่าง อั้ม พัชราภา ก็ได้บริจาคเงินช่วยเหลือเช่นกัน โดนได้ระบุข้อความว่า นี่เป็นอีกหนึ่งคนนะคะที่เวลาช่วยเหลือเคสต่างๆจะไม่ค่อยให้ทางเราบอกกับใคร ขออนุโมทนาบุญกับน้องอั้ม พัชราภา ด้วยนะคะ ได้มอบเงินจำนวน 100,000 บาทให้กับมูลนิธิองค์กรทำดีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

และยังโพสต์เพิ่มว่า ขอบคุณน้องอั้ม พัชราภา ที่ช่วยเป็นสปอนเซอร์สำหรับโรงครัวในสัปดาห์ที่ผ่านมานะคะ ตอนนี้ทีมองค์กรทำดีได้จัดทำอาหารและแจกจ่ายให้ประชากรที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตต่างๆแล้ว ซึ่งอาจใครที่ตอดตามอั้มอยู่แล้ว จะพบว่าอั้มชอบช่วยเหลือคน และชอบบริจาคของหรือดงินอยู่บ่อยๆนั่นเอง

เรียบเรียง news.in.th

ภาวะหยุดหายใจตอนหลับ ถือเป็นภัยเงียบที่ถ้าไม่ทดสอบ ก็อาจจะไม่มีวันรู้ถ้าไม่ทำการทดสอบ ซึ่งล่าสุด จ๊ะ นงผณี ได้ไปทดสอบและรู้ว่า ตนเองเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ จนทำให้เอม วิทวัส เพื่อนรัก ถึงกับร้องไห้

ทั้งนี้ จ๊ะเผยว่า จ๊ะเป็นโรคหยุดหายใจตอนหลับ ปกติคนเราไม่หายใจตอนหลับอยู่แล้ว ประมาณ 5 ครั้งต่อชั่วโมง แต่ของจ๊ะเกิดขึ้น 18.6 ครั้งต่อชั่วโมง อันเป็นผลจากการนอนกรน และโครงสร้างของใบหน้า และทำให้เวลานอน จ๊ะต้องใส่เครื่องช่วยเอาไว้

งานนี้ เอม วิทวัส เพื่อนรักของจ๊ะ ก็ถึงกับโทร. มาร้องไห้ สอบถามว่าจ๊ะเป็นยังไง ใช้เครื่องช่วยแล้วดีขึ้นไหม จ๊ะก็บอกว่าดีขึ้น ค่าหยุดหายใจเหลือ 0.4 ครั้งต่อชั่วโมง และเอมก็บอกว่า จ๊ะไม่ควรพะวง ให้นอนต่อไปเลยไม่ต้องแพนิก หายวันไหนแล้วจะมาด่า กลับมาวันไหนเดี๋ยวเอมเอาน้ำพริกที่ย่าทำให้มาฝาก

นอกจากนี้ เอมยังบอกอีกว่า “มึงห้ามตายนะ ช่วงนี้กูไม่ว่าง (ร้องไห้) กูว่ากูร้องไห้กับมึงเยอะเกินไปละ” ซึ่งจ๊ะก็บอกว่า ยังไม่ตายหรอก เดี๋ยวใส่เครื่องก็ชิน และเอมก็บอกว่า “มึงฟังกูนะ มึงคือดี้คนแรกในประเทศใทย ใส่เครื่องช่วยหายใจแล้วโดน….” จนจ๊ะยังขำออกมา

เพื่อนเอมมาเอนเตอร์เทน จากที่หยุดหายใจตอนนอน จะกลายเป็นขำตอนนอนแทน