เรียกว่าเดือดจริงสำหรับรายการโหนกระแส ในประเด็นดราม่าซื้อทองออนไลน์แต่ขายไม่ได้  โดยช่วงหนึ่งของรายการดูดุเดือดเลือดพล่านสุด ๆ เมื่อพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย เกิดโมโหขึ้นมากลางรายการ ถึงขั้นลั่นประโยคแรงถึง แม่ตั๊ก กรกนก เจ้าของร้านทองในระหว่างการพูดคุยเรื่องทองอยู่นั้นก็เกิดมีดราม่าเกิดขึ้นกับทีมงานของโหนกระแส ที่ได้มีการต่อสายตรงหาแม่ตั๊กเพื่อจะขอไปถ่ายทำที่หน้าร้านทอง ย่านซอยหทัยราษฎร์ แต่โดนตำหนิกลับมาว่า ในเพจโหนกระแส ลงข่าวร้านทองของเยอะ เหมือนกับได้เอนเกจดี ตอนนี้โหนกระแสดูเหมือนจะเล่นเขาหนักที่สุด

หนุ่ม กรรชัย โต้กลับอย่างดุเดือดว่า “ไม่ได้เล่นหนักที่สุดนะ ทุกที่เขาก็เล่นกันแบบนี้แหละ คุณตั๊กถ้าฟังอยู่นะ ผมบอกเลยว่าเมื่อวานผมเปิดโอกาสให้พูดแบบเต็ม ๆ คุณไม่พูดสักคำ คุณอยู่ในนี้คุณไม่พูดเลย แต่คุณออกไปข้างนอกคุณไปปากเก่งข้างนอก ผมไม่ชอบ ถ้าปากเก่งก็มาพูดกับผมตรงนี้ต่อหน้าผมนี่ ว่าผมไปเล่นคุณตรงไหน หนักยังไง มันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ผมก็ให้โอกาสคุณในการชี้แจง ถ้าคุณรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับคุณ คุณพูดได้เลยเมื่อวาน ชี้หน้าได้เลย

คุณฟังพี่สาวคุณ พี่สาวคุณตอนนี้ยังติดคดีอยู่เลย ไม่ใช่ผมไม่รู้ ผมรู้ว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้น อย่ามายุ่งกับผม ผมทำประโยชน์ให้สาธารณชน และที่สำคัญมันไม่ได้มีการเล่นคุณเลย ผมพยายามพูดผ่อน ๆ ให้คุณด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณพูดแบบนี้กับทีมงานผม ผมว่ามันไม่แฟร์กับผมนะ ยินดีนะจะโฟนอิน หรือเข้ามาในรายการเมื่อไหร่ก็ได้ ยกหูโทรมาเลยถ้ากล้า

ฝากถึงคุณตั๊กอีกนิดหนึ่งนะ ผมไม่ได้เล่นคุณเลยนะ ผมทำตามข่าว ทำตามเนื้อผ้า ผู้เสียหายมาร้อง คุรก็ต้องการมาชี้แจง ผมก็ให้โอกาสคุณ คุณไม่พูดก็สิทธิ์ของคุณ คุณจะพูดก็สิทธิ์ของคุณเมื่อวานนี้ แล้วพอคุณกลับไปคุณกลับไปใช้คำพูดแบบนั้น ว่าโหนกระแสเล่นคุณหนักที่สุด อย่าใช้คำนี้เลยครับ

หรือถ้าคุณต้องการจะให้ผมเล่นจริง ๆ เดี๋ยวเล่นให้ดู จะได้เหมาะกับสิ่งที่คุณพูด เรียกร้องนัก เดี๋ยวผมจะตามทุกเม็ด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผมจะเข้าไปกดดันทุกหน่วยงาน อยากให้ผมทำอย่างนี้ใช่ไหม เดี๋ยวผมทำให้ เพราะที่ผ่านมาคุณไปทบทวนความคิดเสียใหม่ บางทีมันเป็นในมุมของคุณมากกว่า ผมว่าเป็นเรื่องของทัศนคติและความคิด คุณต้องคิดใหม่นะ และผมเองก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงคุณด้วย ผมแค่รายงานตามเนื้อผ้าว่าข้อเท็จจริงอยู่ตรงไหน”

ล่าสุดทางด้าน หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความทำสะดุ้งรับเช้าวันที่ 25 ก.ย. โดยระบุว่า”เอาเงินบาป มาสร้างเป็นเงินบุญ” งานนี้ชาวเน็ตก็แห่เข้ามาคอมเมนต์กันสนั่น หนึ่งในนั้นมีทนายเดชา เข้ามาคอมเมนต์ว่า”เงินบาทหมายถึงเงินที่ฉ้อโกงประชาชน อาจถูกดำเนินคดีฟอกเงินได้ สมมุติว่า ทำผิดจริงนะครับ” ด้านชาวเน็ตก็เข้ามากดไลน์กันเป็นจำนวนมาก

วันที่ 24 ก.ย.67 สำนักงานชลประทานที่ 1 ออกประกาศ ประกาศสำนักงานชลประทานที่ 1 ฉบับที่ 2/2567 ณ วันที่ 24 ก.ย.2567 เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำ บริเวณแม่น้ำปิง สถานี P.1 (สะพานนวรัฐ) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ความว่า

ประกาศ สำนักงานชลประทานที่ 1 ฉบับที่ 2/2567 เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำปิง (สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ด้วยช่วงวันที่ 21-23 ก.ย.67 พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้รับอิทธิพลจากพายุ “ซูริก” ส่งผลให้มีฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัดในเกณฑ์หนักมาก ทำให้ปริมาณนำในแม่น้ำปิงและน้ำสาขาในพื้นที่ตอนบนมีปริมาณพิมสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงอาจจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ในเขต เทศบาลนครเชียงใหม่ (สูงกว่าระดับตลิ่งของสถานี P.1) ได้

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง วันที่ 24 ก.ย.67 เวลา 17.00 น. ณ สถานี P.1 (แม่น้ำปิง ที่สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่) ระดับน้ำ 3.70 เมตร (ระดับวิกฤติ) ปริมาณน้ำ 405 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลลงมาจากลุ่มน้ำปิงตอนบน (น้ำปิงจากต้นน้ำอำเภอเชียงดาว น้ำแม่แม่แตง น้ำแม่ริม และน้ำแม่เตาไห) โดยในขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง จากต้นน้ำอำเภอเชียงดาว ตรวจวัดที่ฝ่ายสินธุกิจปรีชา (ฝ่ายแม่แฝก) ผ่านจุดสูงสุดที่ 3122.595 ลูกบาศก์ เมตรต่อวินาที ระดับน้ำ 4.61 เมตร เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา และปริมาณน้ำจากน้ำแม่แตงและน้ำแม่ริมยังคงไหลลงแม่น้ำปิงอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่ตอนนของลุ่มน้ำ

สำนักงานชลประทานที่ 1 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่สถานี P.67 บ้านแม่แต อ.สันทราย จะมีแนวโน้มปริมาณน้ำที่ระดับสูงสุดประมาณ 490 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันที่ 24 ก.ย.67 ในช่วงเวลา 21.00-22.00 น. และมวลน้ำดังกล่าวจะเคลื่อนตัวมาถึงที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ โดยจะมีระดับสูงสุดประมาณที่ระดับ 4.45 เมตร (ปริมาณน้ำประมาณ 530 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) วันที่ 25 ก.ย.67 ในช่วงเวลา 03.00-05.00 น. หากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวด้วย จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง (จากผลสำรวจ พื้นที่ประสบอุทกภัยในปี 2565) ดังนี้

1. โซน 1 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.70 เมตร บ้านป่าพร้าวนอก (บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด

2. โซน 2 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.90 เมตร ถนนเจริญประเทศ ป่าไม้เชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม วัดชัยมงคล บ้านป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง

3. โซน 3 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +4.00 เมตร บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์

4. โซน 4 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.10 เมตร ห้างริมปิงชุปเปอร์ วัดท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ ถนนกองทราย ตลาดสันป่าข่อย (บางส่วน)

5. โซน 5 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.20 เมตร ตลาดหนองหอย ถนนเกาะกลาง โรงเรียนมงฟอร์ตมัธยม โรงเรียนกาวิละ วัดเมืองสาตรหลวง วัดเมืองสาตรน้อย หมู่บ้านปาล์มสปริงส์ วัดเมืองกาย ถนนราษฎร์อุทิศ

6. โซน 6 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.30 เมตร ถนนช้างคลาน ไนท์บาร์ซาร์ สี่แยกแสงตะวัน วัดหัวฝ่ายในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ

2. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

3. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และพื้นที่จดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำทราบล่วงหน้า

ประกาศ ณ วันที่ 24 ก.ย.67 (เวลา 18.00 น.)

เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 24 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแม่ค้าขายทองเปอร์เซ็นต์น้อย ซึ่งไม่สอดคล้องกับราคา ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงมีการเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้ามาดูแลว่า กรณีการซื้อขายทองออนไลน์ ได้รับแจ้งจาก สคบ.ว่ายังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียน แต่จากกระแสข่าวทราบว่ามีผู้เสียหายค่อนข้างมาก จึงได้สั่งให้ทาง สคบ.ลงไปตรวจสอบเชิงลึกในด้านข้อกฎหมายเรื่องการโฆษณาและฉลาก ว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สคบ.จะมีการเชิญผู้ที่ได้รับความเสียหาย ผู้ขายหรือผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้จดทะเบียนขายโดยตรงกับ สคบ.เข้ามาให้ข้อมูลเช่นเดียวกัน

โดยช่วงบ่ายของวันนี้ สคบ.มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปยังร้านที่เป็นประเด็นดังกล่าว เพื่อเก็บข้อมูลมาเป็นตัวอย่าง รวมถึงสอบถามรายละเอียด เพื่อทำการนัดทุกฝ่ายเข้ามาหารืออีกครั้ง คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เมื่อถามถึงกรณีบุคคลที่ไม่สามารถขายคืนกับร้านได้นั้น น.ส.จิราพรกล่าวว่า ส่วนนี้มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้วคือการคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน ทั้งกรณีไม่ตรงปกและไม่พอใจสินค้า หากซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนแบบขายโดยตรงกับ สคบ. ส่วนกรณีเกินระยะเวลากำหนด แต่ตรวจพบว่าสินค้าเป็นของที่ซื้อไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ หรือมีฉลากไม่ตรงตามที่ประกาศกฎหมาย ก็จะให้ สคบ.เข้าไปช่วยเหลือตรงนี้เพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ทราบย้อนหลัง

ถามว่า กรณีที่ผู้ประกอบการอ้างว่าไม่เคยระบุว่าเป็นของจริงหรือปลอมนั้น น.ส.จิราพรกล่าวว่า ต้องมีการตรวจสอบเรื่องการโฆษณาว่า มีการโฆษณาให้เกิดความเข้าใจสาระสำคัญของสินค้าหรือไม่ ส่วนการทำโปรโมชั่นซึ่งมีของแถมนั้น ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการทำผิดกฎกระทรวงหรือไม่ หากพบว่าผิดจริง จะมีการดำเนินการทางกฎหมาย น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า

ทั้งนี้ เข้าใจว่ามีผู้เสียหายบางกลุ่มได้เข้าไปร้องเรียนกับทางตำรวจแล้ว แต่ผู้เสียหายก็สามารถมาร้องเรียนกับ สคบ.ได้ในหลายช่องทาง อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อทองว่า ควรจะซื้อกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือ และต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ก่อนด้วยว่า ได้ทำตามหลักเกณฑ์การซื้อขายทองหรือไม่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบร้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เมื่อถามว่า หากผิดจริงจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นน.ส.จิราพรกล่าวว่า มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ แต่เรื่องการดำเนินคดีนั้นเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ย้ำว่า สคบ.พร้อมดูแลผู้บริโภคที่ซื้อบริการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

พรุ่งนี้แล้วกับวันที่หลายคนรอคอย สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง ที่จะได้รับเงินสด 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคาร ร่วมกับผู้พิการ ในช่วงวันที่ 25-30 กันยายนนี้ ย้ำ! เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เงินดังกล่าวไม่ได้ถูกโอนเข้าบัตร เพราะบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐในปัจจุบันก็คือบัตรประชาชน ไม่สามารถนำไปกดเงินจากตู้ ATM ได้

เงิน 10,000 บาท จะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ ธนาคารอะไรก็ได้ที่มีการผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ใช้หมายเลขหน้าบัตรประชาชน คือ ด้านที่มีรูปถ่าย โดยดูจากเลขท้ายสุด เพื่อตรวจสอบวันโอนเงิน

วันโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง

25 กันยายน 2567 คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0

26 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3

27 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7

30 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

อย่าลืม เงิน 10,000 บาท จะโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ ไม่ได้โอนเข้าบัตรประชาชาชน ดังนั้น ควรนำบัญชีธนาคารอะไรก็ได้ ไปผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน 13 หลัก

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2567 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย จนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในหลายพื้นที่ รวมถึงถนนสายเชียงราย – เชียงใหม่ ถูกน้ำท่วมสูงจนตัดขาดการจราจรระหว่าง 2 จังหวัด ทำให้ต้องใช้เส้นทางเลี่ยง ทำให้ตลอดทั้งวัน ได้มีผู้ประสบเหตุ ซึ่งได้ถ่ายคลิปเหตุการณืน้ำป่าไหลหลากตามพื้นที่ต่างๆ พบว่าหลายจุดมีน้ำป่าไหลหลากที่รุนแรงเป็นอย่างมากจนสร้างความต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะที่บ้านห้วยหินลาดใน ต.บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า เป็นหมู่บ้านของชนเผ่ากระเหรี่ยง ตั้งอยู่บนสันเขาสูง อยู่ห่างตัวอำเภอเวียงป่าเป้าประมาณ 25 กิโลเมตร พบว่ามีน้ำป่าไหลหลาก จากสันเขา ผ่าเข้ากลางหมู่บ้านอย่างรุนแรง โดยมีปริมาณน้ำมากและไหลเชี่ยวแรง

น้ำยังนำท่อนซุงไหลมากับน้ำ พัดพาเอาทรัพย์สิน รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ตามบ้านเรือน ไหลไปกับกระแสน้ำจำนวนหลายคัน บ้านบางหลังถูกกระแสน้ำพัด จนบ้านได้รับความเสียหายด้วย

นอกจากนี้ ยังมีน้ำป่าหลากในหมู่บ้านชาวลีซอ แห่งหนึ่งในอำเภอเวียงป่าเป้า พบมีน้ำป่าไหลลหากจากสันเขาพัดเข้าบ้านเรือนจนพังจำนวนหลายหลัง รวมไปถึงน้ำที่ไหลทะลักออกจากอ่างเก็บน้ำของสวนยางแห่งหนึ่ง เนื่องจากคันดินแตก รวมไปถึงน้ำที่ล้นอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขาดใหญ่ ประจำอำเภอเวียงป่าเป้าจำนวนมาก จนเห็นภาพน้ำไหลเข้าตามหมู่บ้านและชุมชนที่ไหลเชี่ยว

โดยล่าสุด กระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่อย่างน้อย 5 ตำบล ของอำเภอเวียงป่าเป้า หลายพื้นที่ถูกขาดจากโลกภายนอก โดยเฉพาะบ้านห้วยหินลาดใน ที่ไฟฟ้าดับสัณญาณโทรศัพท์ไม่มี ทำให้คืนนี้ชาวบ้านอาจต้องอาศัยอยู่ด้วยความลำบาก จึงต้องการความช่วยเลหือด่วนโดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ไฟส่องสว่าง และยากันยุง

วันที่ 24 ก.ย.67 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.ปิยรัช เวสสะโกศล,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น.ชุดปฎิบัติการที่ 2 นำโดย พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาทสว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 2 ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.เบ็ญจมาศ(สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ที่อยู่ ต.แก้งสนามนาง อ.แก้งสนามนาง จว.นครราชสีมา

มูลค่าความเสียหาย

-สภ.บางบัวทอง เสียหาย 2,432,426 บาท

-สภ.สันทราย เสียหาย 105,999 บาท

-สภ.เมืองกำแพงเพชร เสียหาย 200,000 บาท

ผู้ต้องหาตามหมายจับ :

1)ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัด นนทบุรี ที่ จ.542/2566 ลงวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

2)ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 760/2565 ลงวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

สถานที่จับกุม ต.แก้งสนามนาง อ.แก้งสนามนาง จว.นครราชสีมา

จึงได้ทำการจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

ความเคลื่อนไหวที่ร้านทองเคทูเอ็น ย่านหทัยราษฎร์ หลังแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ ประกาศรับซื้อทองคืนจากผู้ที่ไม่พึงพอใจ โดยจะให้ราคาเต็มนั้น ทำให้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีลูกค้าจำนวนมากเดินทางมาที่ร้านทองของแม่ตั๊ก ที่ถนนหทัยราษฎร์ เพื่อขอขายทองคืน ทั้งทองและของแถมที่ได้ไป โดยเจ้าหน้าที่ของทางร้าน แจ้งลูกค้าว่า หากอยากได้เงินคืนเต็มจำนวน ต้องเอามาครบเซ็ตพร้อมของแถมทั้งหมด จึงจะได้เงินเต็มจำนวน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีลูกค้าเอามาคืนประมาณ 200 คนแล้ว

โดยลูกค้าแทบทุกคนบอกตรงกันว่า เอาไปขายที่ไหนก็ไม่ได้ราคาที่ซื้อมา บางเคสซื้อมา 1.4 แสนบาท แต่เอาไปขายจริงได้แค่ประมาณ 8 หมื่นบาท ทำให้ที่ผ่านมาถือทองไว้ ไม่รู้จะทำยังไง จนมีประเด็นในรายการโหนกระแสเมื่อวานนี้ ทำให้รู้ว่าทางร้านรับซื้อทองคืน ทำให้ทุกคนหอบเอาทองมาขายคืนที่ร้าน

แต่ล่าสุด ทางร้านบอกว่าต้องเอาของแถมมาคืนทั้งเซ็ต จึงจะได้เงินคืนเต็มจำนวน หากไม่มีของแถม จะไม่ได้เงินเต็มจำนวน

ขณะที่ คุณอุบล ผู้เสียหายอีกคนที่เดินทางมาจากย่านประตูน้ำ ซื้อสร้อยคอพร้อมจี้ไปในราคา 1,500 บาท วันนี้นั่งรถมาไกล หวังจะขายคืนในราคาเดิม หรือหากขาดทุนก็คงไม่เยอะ แต่ปรากฏว่าทางร้านแจ้งว่าให้ราคาแค่ 410 บาท ทำให้คุณอุบลถึงกับเดือดดาล ปาสร้อยใส่หน้าร้าน และบอกว่า ทางร้านจะให้เซ็นยอมรับไม่ติดใจเอาความด้วย

ตอนที่ซื้อ ซื้อมาเป็นจี้แถมสร้อยเงินชุบทอง แต่ตัวสร้อยใส่ไปแล้วรู้สึกคัน สร้อยก็ดำ วันนี้ที่เอามาคืน หวังจะได้เงินไปซื้อนมให้ลูก ฝนก็ตกขายของก็ไม่ดี พอทางร้านให้ราคาแค่ 410 บาท มันไม่ใช่แล้วซื้อมาเกือบ 1,500 บาท ก็ต้องบอกเลยว่าสมองเขาดี เรามันโง่เอง

แล้วยิ่งมาเห็นใบที่เขาให้เซ็น เห็นเงื่อนไขแล้วรู้สึกบีบหัวใจมาก ก็เลยไม่ได้เซ็นเอกสาร ไม่ได้รับเงินมา เพราะในเอกสารขู่ว่า ถ้าไปออกรายการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เรียกได้ว่า เป็นนักร้องในตำนานเสียงดี อย่าง พลพล พลกองเส็ง ที่ล่าสุดได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า พี่วุ่น คือ ซาวด์เอนจิเนียร์คนหนึ่งที่เคยร่วมงานกับ วง พลพล ในช่วงสั้นๆนั้นมีความสุขมากมาย แล้วตอนนี้พี่วุ่นต้องออกเดินทางไกลที่ไม่กลับมาแล้ว ขอให้พี่วุ่นเดินทางสู่ภพภูมิที่ดีกว่านะครับ ส่งพี่วุ่นนะครับ รักพี่วุ่นนะครับ พลพล พลกองเส็ง

ท่ามกลาง เหล่าแฟนๆและชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเสียใจกันจำนวนมาก

ภาพจาก palaphol_pholkongseng

เรียบเรียง news.in.th

ลูกศิษย์น้อมถวายอาลัย​ หลังจากทราบข่าวการมรณภาพของ พระเทพญาณโสภณ หรือ เจ้าคุณหลวงตาหรั่ง เจ้าอาวาสวัดราษฎร์บำรุง ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร – สมุทรปราการ (ธ) ที่ปรึกษาแม่กองธรรมสนามหลวง ซึ่งรายงานระบุว่า เจ้าคุณหลวงตาหรั่งได้มรณภาพเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

โดย เพจเฟซบุ๊ก วัดราษฎร์บำรุง บางแค ได้แจ้งข่าวว่า เจ้าคุณหลวงตาหรั่ง หรือ พระเทพญาณโสภณ (วิชิน ปญฺญาชิโน) มรณภาพด้วยอาการสงบ เวลา 16:30 น. วันที่ 17 ก.ย. 2567 สิริอายุ 87 ปี 8 เดือน 17 วัน

เจ้าคุณหลวงตาหรั่ง หรือ พระเทพญาณโสภณ (วิชิน ปญฺญาชิโน) นับเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์เคารพศรัทธาเลื่อมใสในวัตรปฏิบัติจำนวนมาก และท่านยังเป็นสัทธิวิหาริกใน พระมหารัชมังคลาจารย์ (เทศ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร รูปที่ 9 ด้วย

ด้าน ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2545 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะแขวง ชั้นโท ที่ พระครูปัญญาพิศษฏ์ พ.ศ.2546 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะเขต ชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2547 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระเนกขัมมมุนี พ.ศ.2552 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชโสภณ พ.ศ.2562 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพญาณโสภณ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2567 จ.ส.ต.อนุสรณ์ วงมาลี ผบ.หมู่.งานป้องกันและปราบปราม สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีหญิงขอความช่วยเหลือถูกงูรัดและกัดจนได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเช่าเลขที่ 376/32 ซอยสุขสวัสดิ์ 84 แยกซอยสองพี่น้อง หมู่ที่ 1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ .สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งเดินทางไปให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว ปลูกติดกันอยู่ 5 ห้อง บริเวณห้องที่ 4 พบประตูล็อกกลอนจากด้านในเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันพังประตูเพื่อเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูได้ถึงกับตะลึงกับสิ่งที่เห็นบริเวณด้านหลังห้อง พบหญิงชรากำลังถูกงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ยาวกว่า 4 เมตร น้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม กำลังรัดทั่วร่างกายของหญิงดังกล่าว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำอุปกรณ์ที่หาได้พยายามแกะงูออกจากตัวหญิงคนดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถนำงูออกจากตัวได้ แต่งูได้หลบหนีเลื้อยเข้าไปในป่าหลังห้อง ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะช่วยกันปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาว อารมย์ อรุณโรจน์ อายุ 64 ปี ชาว ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกงูกัดบริเวณต้นขาขวา หลายแผล

จากการสอบถาม นางสาว อารมณ์ ผู้บาดเจ็บที่อยู่ในสภาพสีหน้าอ่อนแรง เล่านาทีที่ถูกงูเหลือมยักษ์รัดตัวว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ในโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ตนได้มาเช่าห้องแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว อยู่กับสามี แต่เมื่อช่วงเดือน พ.ย.66 ที่ผ่านมา สามีได้เสียชีวิตลงตนได้อยู่อาศัยห้องนี้มาคนเดียวโดยตลอด

ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ตนกลับมาจากที่ทำงานได้ทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องและรับประทานอาหาร หลังจากนั้นเวลาประมาณ 20.30 น. ตนได้เดินไปด้านหลังห้องเพื่อล้างจานชามที่ทานไว้ และบริเวณหลังห้องยังเป็นป่ากกและบ่อน้ำ ในระหว่างที่ตนยืนล้างจานอยู่ได้รู้สึกว่า มีตัวอะไรมากัดที่ต้นขา ครั้งแรกคิดว่าน่าจะเป็นตัวเงินตัวทองกัด เมื่อก้มลงไปมองดูพบว่าเป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ ตนจึงรีบคว้าหัวเพื่อจับตัวออก แต่แล้วงูซึ่งมีขนาดใหญ่ได้รัดตัวของตนจนล้มลงกลิ้งไปกับพื้น

ตนพยายามแกะตัวงูออกจากตัวอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล พยายามตะโกนเรียกเพื่อนข้างห้องและคนอื่นที่คาดว่าอยู่ใกล้ห้องตนแต่ไม่มีใครได้ยิน ตนคิดว่าน่าจะไม่รอดแล้วและเป็นอาหารงูแน่ๆ จึงพยายามตะโกนสุดเสียง จนกระทั่ง มีคนเดินผ่านมาพอดีได้ยินเสียง จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือ ตั้งแต่เกิดมาตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน จ.ส.ต.อนุสรณ์ วงมาลี กล่าวว่า หลังที่ตนได้รับแจ้งว่ามีหญิงถูกงูรัด จึงได้นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ตะโกนร้องเรียกหญิงคนดังกล่าว แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ได้ยินเพียงโอ๊ยเบาๆ หลายครั้ง

จนแน่ใจว่าเสียงอออกมาจากห้องดังกล่าว จึงพยายามเคาะประตู แต่ไม่มีคนมาเปิด จึงตัดสินใจพยายามพังประตูเข้าไป จนพบภาพที่ตกใจเห็นงูเหลือมกำลังรัดร่างของหญิงดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นหญิงรายนี้เริ่มมีอาการอ่อนแรง มือ เท้า เริ่มซีดขาวน่าจะสู้กับงูมานานจนจะหมดแรง ก่อนที่จะช่วยกันหาอุปกรณ์เข้าช่วยแกะงูจนออก พร้อมพาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน