DGA Thailand เผยว่า หากประชาชนที่ที่ลงทะเบียนเพื่อร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รับ 10,000 บาท บนแอปพลิเคชันทางรัฐ ไม่สำเร็จ ให้ทำการแก้ไขข้อมูลได้ 3 วิธีดังนี้

ทั้งนี้ หากท่านทำการลบแอปพลิเคชันทางรัฐไปโดยที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกแอปพลิเคชันทางรัฐ ต้องทำการสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันทางรัฐก่อน จึงจะสามารถแก้ไขข้อมูลและตรวจสอบสถานะของตนเองได้ตามปกติ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน หรือ GCC สายด่วน 1111 เว็บไซต์ชื่อภาษาไทย www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย เว็บไซต์ชื่อภาษาอังกฤษ www.digitalwallet.go.th

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่หลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย สำหรับคลิปวิดีโอของคอนเทนต์ครีเอเตอร์หนุ่มอินเดียรายหนึ่งที่ได้แสดงความรู้สึกผะอืดผะอม ทำหน้าขยะแขยงแสดงความไม่อยากกินแบบสุด ๆ เมื่อเห็นอาหารสตรีทฟู้ดของไทย และอาหารจากประเทศอื่นๆ

ซึ่งจากคลิป หนุ่มอินเดียรายนี้ได้รวบรวมอาหารแปลกจากร้านข้างทางจากหลายที่ในเอเชีย ซึ่งรวมถึงหลายร้านในประเทศไทย อย่าง ร้านที่ตัดส่วนจมูกหมูไปสับขาย, ร้านที่ขายปลาดุกทั้งตัว, ร้านที่ต้มอึ่งขายเป็นตัว ๆ, ร้านที่แม่ค้าตัดเสื้อตรงหน้าอก แล้วใส่ชุดชั้นในโชว์ และร้านที่ขายต้มเครื่องใน ทำเอาเจ้าตัวแสดงความสะอิดสะเอียนจนถึงกับอยากจะอาเจียนออกมา

แสดงออกทาสีหน้าว่ารังเกียจอาหารบ้านเราแบบสุดๆ

จากคลิปนี้ก็ได้มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายทั้งบอกว่า”เค้าแพ้ของสะอาด”

“เค้าไม่ชินกับการใส่ภาชนะ “

จากกรณี สาวชาวจีนอ้างว่าใช้เงินซื้อใบขับขี่ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนนำไเผยแพร่ในโลกโซเชียลของจีน และมีการนำมาโพสต์ต่อในกลุ่มของไทย

วันที่ 30 ส.ค.2567 นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า หลังมีหญิงสาวชาวจีนเขียนโพสต์ภาพถือใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว ต่อมามีผู้นำมาแปลและโพสต์ลงในสังคมออนไลน์ ระบุว่า มีผู้หญิงจีนคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่แล้วได้ใบขับขี่ไทย แต่ในคอมเมนต์เธอบอกว่าเธอไม่เคยเรียนขับรถเลย แค่จ่ายเงินหาเอเยนต์มาช่วยก็ได้ใบขับขี่ไทยเลย แบบนี้ผิดกฎหมายไหมคะ

ถ้าผิดกฎหมาย ใครซักคนไปเตือนนางหน่อยก็ดีนะคะ(หวังว่าทุกคนจะไม่ตำหนิคนจีนทุกคน หรือว่าคิดว่าคนจีนทุกคนเป็นคนไม่ดีนะคะ เพื่อนคนจีนของเราก็เกลียดคนพวกนี้เหมือนกัน)

นายมานพ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาขอทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2567 จริง แต่มาเพียงลำพัง เจ้าหน้าที่ขนส่งให้ทำตามขั้นตอน เนื่องจากเจ้าตัวมีใบขับขี่ของประเทศจีน จึงทำมาเทียบเพื่อออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ซึ่งมีการทำตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทุกประการ จึงออกใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว แต่การลงข้อความดังกล่าวไม่แน่ใจว่ามีจุดประสงค์ วัตถุประสงค์อันใด ถึงได้ระบุแบบนั้น เพราะเป็นการเทียบใบอนุญาตขับรถของประเทศจีนและไทย

สำนักขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติามขั้นตอน ไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์กับบุคคลที่โพสต์ดังกล่าว แต่กลับมีการโพสต์ข้อความที่เกิดความเสียหายต่อสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังอธิบดีกรมการขนส่งแล้ว

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม 2567 นางบุหงา วิภักดี อายุ35ปี เจ้าของเขียงเนื้อวัวนำหลักฐานการโอนเงินและใบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร้องสื่ออยากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเงินของตนมาคืนเพราะเดือนร้อนมากต้องใช้จ่ายในการหมุนเวียนซื้อของเข้าร้าน

ด้านนางบุหงา วิภักดี อายุ35ปี เจ้าของเขียงเนื้อวัวได้กล่าว่าเมื่อวันที่27 สิงหาคม 2567 ตนได้โอนเงินเข้าไปผิดบัญชีจำนวนเงิน30,300บาทไปให้ นายพิเชษฐ ทองมา พ่อค้าน้ำแข็ง พอโอนไปผิดตนจึงโทร เข้าไปถามว่าโอนเงินไปจำนวน 30,300 บาทเข้าบัญชีและอยากให้นายพิเชษฐ์โอนเงินจำนวน 30,300 บาทคืนตนแต่นายพิเชษฐ์กลับบ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่รู้เรื่องและบัญชีถูกปิดไปแล้ว ตนก็ให้นายพิเชษฐ์ติดตามเงินจำนวนนี้มาคืนให้หน่อยเพราะเดือดร้อนมากต้องใช้เงินในการโอนซื้อสินค้าเข้าร้านแต่นายพิเชษฐ์กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำให้

ตนจึงนำหลักฐานในการโอนเงินเข้าไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่ออายัดบัญชีและติดต่อทางธนาคาร ทางธนาคารบอกว่าบัญชีนี้มีการบันทึกการโอนเป็นประจำจึงให้ไปติดตามพูดคุยกันก่อนพอตนติดต่อไปอีกครั้งนายพิเชษฐ์กลับบอกว่าบัญชีและมือถือนี้ได้ให้น้องชายใช้และนำเงินไปใช้แล้ว ตนก็ออกจากงานแล้วด้วยไม่รับรู้ด้วย ในตอนนี้นายพิเชษฐ์ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว เดือดร้อนมากเพราะต้องใช้เงินจำนวนนี้มาหมุนเวียนภายในร้านและรู้สึกผิดที่โอนเงินผิดและอยากได้เงินคืนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเงินจำนวนนี้มาคืนให้ตนอย่างเร็วเพราะต้องใช้เงินจำนวนนี้หมุนเวียนค้าขายภายในร้าน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ชลบุรี รายงาน

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม พ.ต.ต.(หญิง) ณัชชารีย์ นกรเกียรติวิศาล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนกันหลายคันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน เหตุเกิดบนถนนเศรษฐกิจ 1 ก่อนถึงแยกไฟแดงบางปลา ขาเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร โดยทั้งนี้ก็ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลวิชัยเวชสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลฯ ซึ่งเมื่อไปถึงมีผู้บาดเจ็บจากแรงกระแทก มีรอยฟกช้ำและบาดแผลเล็กน้อย จำนวน 4 คน ขณะที่รถยนต์ที่เกิดเหตุมีทั้งหมด 4 คัน จอดนิ่งสนิทอยู่ริมขวาสุดของถนน

โดยรถคันหน้าสุดเป็นรถบรรทุกสิบล้อ คันที่ 2 เป็นรถกระบะสีขาว ยี่ห้อเชฟโรเลต ติดคอกใส่หลังคาบรรทุกเหล็กนั่งร้านมาเต็มคัน ชนอัดติดกับท้ายรถบรรทุกสิบล้อ จนสภาพหน้ารถพังยับ เหล็กนั่งร้านที่บรรทุกมาด้านหลังหล่นตกพื้นและหล่นทับไปบนรถคันที่ 3 ซึ่งชนเสยมุดท้ายรถคันที่สองจนก้นโด่งขึ้น โดยเป็นรถเก๋งไฟฟ้า ยี่ห้อ BYD สีเขียว พังยับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนคันสุดท้ายคือ รถกระบะติดคอกหลังไม่มีหลังคา เป็นรถยี่ห้ออีซูซุ สภาพหน้ารถพังยับ

ทั้งนี้ จากการสอบถามคนขับรถเก๋งไฟฟ้า เบื้องต้นเล่าว่า ช่วงที่รถทุกคันจอดติดไฟแดงอยู่นั้น ก็มีรถกระบะคันที่สี่พุ่งมาชนท้ายโดยไม่มีใครได้ยินเสียงเบรก จนทำให้รถที่จอดอยู่ด้านหน้าพุ่งไปชนกับท้ายรถคันอื่นต่อๆ กันไปรวมทั้งหมด 4 คันรวด และมีผู้ที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ 4 คน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวคนขับรถทั้งหมดไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร อีกทั้งยังจะได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ขณะที่คลิปจากกล้องวงจรปิดที่ได้จากทาง ทต.นาดี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุเผยให้เห็นว่า รถทุกคันค่อยๆ ชะลอมาจอดติดไฟแดง กระทั่งผ่านไปสักพักหนึ่งรถคันสุดท้ายคล้ายกับไถลเสียหลักพุ่งมาชนท้ายจนกลายเป็นอุบัติเหตุหมู่ดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดคนขับอาจจะหลับในหรือเกิดจากสภาพรถทำให้เสียการทรงตัว

วันที่ 30 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังน่าเป็นห่วง น้ำแม่อิง กว๊านพะเยา ได้ไหลเอ่อล้นท่วมถนนหลายสายในเขตตัวเมืองพะเยา ทำให้ถนนพหลโยธิน เขตตัวเมือง และถนนแม่ต๋ำ ฟากน้ำ สายใน  และถนนรอบชายกว๊าน  ต้องปิดกั้น เพื่อความปลอดภัย  รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยเฉพาะ ถนนแม่ต๋ำสายใน ถนนรอบชายกว๊าน ถนนพหลโยธินเส้นทางไปวัดพระศรีโคมคำ (เจ้าตนหลวง) ทั้งสองเลนส์ ฝั่งทั้งไปกลับ ถนนหน้าสถานีขนส่ง บขส.พะเยา  ได้ถูกมวลน้ำ กว๊านพะเยา ได้ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมสูงกว่า 2 เมตรทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้น้ำท่วมนานกว่าครึ่งเดือน สร้างความเสียหายพื้นที่เศษฐกิจชบเชาไปตามๆกัน

สำหรับในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังคงมีปริมาณน้ำเข้าท่วมสะสมในกว๊านพะเยาจนเอ่อล้นเข้าท่วม พื้นที่เศรษฐกิจและ บ้านเรือนราษฎร  ไร่นา  บ่อ ปลา ถนน ตลอดจนฟาร์ม  รอบบริเวณชายกว๊าน ซึ่งวันนี้ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาเพิ่มสูงขึ้น 74.447 ลบ.ม จากปริมาณกักเก็บได้เพียง 55ล้านลบ.ม.เท่านั้น  และน้ำยังเพิ่มปริมาณเอ่อล้นเข้าท่วม พื้นที่รอบกว๊านพะเยาเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนัก ทั้งวันทั้งคืน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.พะเยา รายงาน

วันที่ 14 สิงหาคม ร.ต.ท.ธนวิชญ์ ปรางค์วัฒนานนท์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงเสียชีวิตภายในรถ เหตุเกิดซอยบัวคนึง หมู่ 5 ถนนราชพฤกษ์ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี ใกล้กลับโชว์รูมรถยี่ห้อดัง จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ที่เกิดเหตุภายในซอยริมกำแพงโกดัง พบรถเก่งบีเอ็มดับบลิว สีเทา หมายเลขทะเบียนกรุงเทพฯ จอดอยู่ไม่ติดเครื่องยนต์ ที่เบาะนั่งคนขับพบร่าง น.ส.นพวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นอนเสียชีวิตอยู่ ที่เบาะนั่งคู่คนขับพบกระเป๋าถือและจดหมายมีข้อความ ข้าพเจ้า น.ส.นพวรรณ ขอเขียนพินัยกรรมไว้ให้กับมารดาของข้าพเจ้าทั้งหมด

ส่วนที่พื้นรถที่เบาะฝั่งซ้ายหลังมีเตาอั้งโล่วางอยู่ 1 ใบ ในเตามีเถาถ่านมอดเกือบหมด และข้างกำแพงยังพบถุงถ่านแกะใช้แล้ววางอยู่ 1 ถุง

แพทย์ได้ชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ จึงมอบศพให้เจ้ามูลนิธินำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

นายหนุ่ม ผู้พบศพ เผยว่า เมื่อวานวันที่ 13 สิงหาคม ช่วงเวลา 20.00 น. พบผู้ตายเดินอยู่ตรงท้ายรถ ตนไม่ได้สนใจคิดว่ามาจอดรถ พอตอนเช้าตนยังเห็นรถจอดอยู่ แล้วแสงแดดส่องเข้าไปในรถ เห็นคนนอนอยู่เลยโทรบอกเพื่อนให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดูก็พบว่าเสียชีวิต

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ข้อมูลทราบว่าผู้ตายมีปัญหาเรื่องส่วนตัวจึงขับรถออกจากบ้าน ก่อนพบเสียชีวิตภายในรถ

จากกรณีอุบัติเหตุคนขับกระบะเมาหนักซิ่งฝ่าไฟแดงชนกับรถที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณ 4 แยก ที่ว่าการอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา และรถกระบะของหนุ่มเมารายนี้ยังทะลุกำแพงของที่ว่าการอำเภอจนทะลุ รถพังยับเยิน แต่คนขับรอด ส่วนกระบะดำที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกหนุ่มเมาขับชนบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยพบเศษซากรถและกำแพงที่เป็นรูโบ๋และยังเก็บไปไม่หมด นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีดอกไม้ ธูปเทียน และเหรียญ 1 บาท

ซึ่งคาดว่าญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงมีการทำพิธีกรรมเชิญขวัญของผู้ประสบเหตุออกจากจุดเกิดเหตุตามความเชื่อ จากตรวจสอบได้ข้อมูลว่า คนขับรถกระบะสีขาวเป็นรถต้นเหตุที่ฝ่าสัญญาไฟจราจรพุ่งเข้ามาชนกับรถกระบะ 4 ประตูของคนที่ใช้รถใช้ถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ และไม่เคารพกฎจราจร ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลเพ็ญ และได้สอบถามกับข้าราชการในเทศบาลตำบลฯ ได้ข้อมูลว่า

คนขับกระบะคันสีขาว เป็นพนักงานของเทศบาลตำบลเพ็ญที่อยู่ตรงสี่แยก ส่วนรถคู่กรณีรถกระบะ 4 ประตูสีดำ มีปลัดอำเภอสร้างคอม รองนายก และประธานสภาเทศบาลตำบลเพ็ญกับลูกหลานเดินทางมากับรถกำลังจะไปรับประทานอาหารกันต่างจังหวัดเนื่องในวันแม่ ทราบชื่อคือ นายธนพิบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) ปลัดอำเภอสร้างคอม จ.อุดรธานี, น.ส.วัลลภา (ขอสงวนนามสกุล) รองนายกฯและประธานสภาเทศบาลตำบลเพ็ญ, ด.ญ.พิชญา (ขอสงวนนามสกุล) และ ด.ญ.กมลพิชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) คนขับและผู้โดยสารฝั่งผู้บาดเจ็บรถกระบะคันสีดำ รวม 4 ราย

ส่วนคนขับและผู้โดยสารฝั่งกระบะสีขาวทราบชื่อ นายอำไพ (ขอสงวนนามสกุล) พนักจ้างทั่วไปเทศบาลตำบลเพ็ญ ตำแหน่งพนักงานขับรถ กับ ด.ช.กฤตยา (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะที่คดีความตอนนี้ตำรวจต้องรอให้อาการผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายดีขึ้นจะได้มีการเรียกสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม น.ส.กัลลยา (ขอสงวนนามสกุล) หัวหน้าสำนักปลัด ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายอำไพ กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.48 น. ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เบื้องต้นทราบว่านายอำไพดื่มสุรามาจากงานศพแถวบ้านด่าน ก่อนขับรถฝ่าไฟแดงชนกระบะของนายธนพิบูลย์ที่กำลังขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวกินข้าวที่จ.หนองคาย เนื่องในวันแม่ ซึ่งมาตามสัญญาณไฟเขียว จะเลี้ยวขวาไปทางจ.หนองคาย จนบาดเจ็บ ส่วนภรรยาคือ น.ส.วัลลภา ที่นั่งมาด้วยอาการยังสาหัส ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งกรรมสอบทางวินัยกับนายอำไพ ที่ตอนนี้ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เลือดออกที่ท้ายทอย ไม่บาดเจ็บมากนัก ส่วนของคู่กรณีกระบะสีดำทราบว่าตอนนี้มีอาการทรุดหนักหลายราย ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ เมาแล้วอย่าขับ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สูญเสียทั้งทรัพย์สินคนอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีหน่ได้รับผลกระทบไปด้วย

รู้ตัวแล้ว ที่แท้ พนักงานเทศบาล เมาหนัก ซิ่งท้านรกฝ่าไฟแดง ชนรถปลัด กำลังพาครอบครัวไปกินวันแม่ ก่อนพุ่งทะลุกำแพงวัดพังยับ คู่กรณีเจ็บหนัก อาการทรุด

วันที่ 14 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุคนขับกระบะเมาหนักซิ่งฝ่าไฟแดงชนกับรถที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณ 4 แยก ที่ว่าการอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา

และรถกระบะของหนุ่มเมารายนี้ยังทะลุกำแพงของที่ว่าการอำเภอจนทะลุ รถพังยับเยิน แต่คนขับรอด ส่วนกระบะดำที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกหนุ่มเมาขับชนบาดเจ็บหลายราย

รู้ตัวแล้ว ที่แท้ พนักงานเทศบาล เมาหนัก ซิ่งท้านรกฝ่าไฟแดง ชนรถปลัด กำลังพาครอบครัวไปกินวันแม่ ก่อนพุ่งทะลุกำแพงวัดพังยับ คู่กรณีเจ็บหนัก อาการทรุด

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยพบเศษซากรถและกำแพงที่เป็นรูโบ๋และยังเก็บไปไม่หมด นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีดอกไม้ ธูปเทียน และเหรียญ 1 บาท ซึ่งคาดว่าญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงมีการทำพิธีกรรมเชิญขวัญของผู้ประสบเหตุออกจากจุดเกิดเหตุตามความเชื่อ

จากการตรวจสอบได้ข้อมูลว่า คนขับรถกระบะสีขาวเป็นรถต้นเหตุที่ฝ่าสัญญาไฟจราจรพุ่งเข้ามาชนกับรถกระบะ 4 ประตูของคนที่ใช้รถใช้ถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ และไม่เคารพกฎจราจร

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลเพ็ญ และได้สอบถามกับข้าราชการในเทศบาลตำบลฯ ได้ข้อมูลว่า คนขับกระบะคันสีขาว เป็นพนักงานของเทศบาลตำบลเพ็ญที่อยู่ตรงสี่แยก

อ่านข่าว : ซิ่งท้านรก ทะลุกำแพงวัด กระบะขาว เมาขับฝ่าไฟแดง พุ่งชนรถคู่กรณีเจ็บ 5 ร้องไห้ระงม

ส่วนรถคู่กรณีรถกระบะ 4 ประตูสีดำ มีปลัดอำเภอสร้างคอม รองนายก และประธานสภาเทศบาลตำบลเพ็ญกับลูกหลานเดินทางมากับรถกำลังจะไปรับประทานอาหารกันต่างจังหวัดเนื่องในวันแม่

ทราบชื่อคือ นายธนพิบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) ปลัดอำเภอสร้างคอม จ.อุดรธานี, น.ส.วัลลภา (ขอสงวนนามสกุล) รองนายกฯและประธานสภาเทศบาลตำบลเพ็ญ, ด.ญ.พิชญา (ขอสงวนนามสกุล) และ ด.ญ.กมลพิชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) คนขับและผู้โดยสารฝั่งผู้บาดเจ็บรถกระบะคันสีดำ รวม 4 ราย

ส่วนคนขับและผู้โดยสารฝั่งกระบะสีขาวทราบชื่อ นายอำไพ (ขอสงวนนามสกุล) พนักจ้างทั่วไปเทศบาลตำบลเพ็ญ ตำแหน่งพนักงานขับรถ กับ ด.ช.กฤตยา (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะที่คดีความตอนนี้ตำรวจต้องรอให้อาการผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายดีขึ้นจะได้มีการเรียกสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม น.ส.กัลลยา (ขอสงวนนามสกุล) หัวหน้าสำนักปลัด ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายอำไพ กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.48 น. ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เบื้องต้นทราบว่านายอำไพดื่มสุรามาจากงานศพแถวบ้านด่าน

ก่อนขับรถฝ่าไฟแดงชนกระบะของนายธนพิบูลย์ที่กำลังขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวกินข้าวที่จ.หนองคาย เนื่องในวันแม่ ซึ่งมาตามสัญญาณไฟเขียว จะเลี้ยวขวาไปทางจ.หนองคาย จนบาดเจ็บ ส่วนภรรยาคือ น.ส.วัลลภา ที่นั่งมาด้วยอาการยังสาหัส

ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งกรรมสอบทางวินัยกับนายอำไพ ที่ตอนนี้ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เลือดออกที่ท้ายทอย ไม่บาดเจ็บมากนัก ส่วนของคู่กรณีกระบะสีดำทราบว่าตอนนี้มีอาการทรุดหนักหลายราย ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ เมาแล้วอย่าขับ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สูญเสียทั้งทรัพย์สินคนอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีหน่ได้รับผลกระทบไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอ.แม่สอด จ.ตากถึงกรณีรถยนต์เทเลอร์สีขาวพ่วงบรรทุกสารเคมี ถังสีฟ้า จำนวน 80 ถัง ประสบอุบัติเหตุเสียหลักบริเวณข้างถนน สายเอเชีย 105 ใกล้ลำห้วย ที่บ้านแม่กื๊ดใหม่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก ( ถนนสายอ.แม่สอด กับ อ.แม่ระมาด ) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 67 และเป็นเหตุให้มีถังสีน้ำเงินบรรจุสารเคมีกระเด็นออกจากตัวพ่วงท้ายรถยนต์ไปตกลงลำห้วยเสือ 1 ลูก ริมลำห้วย จำนวน 7 ถัง บนถนนหน้าร้านจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ 1 ถัง ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่พบว่า บริเวณหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ มีต้นไม้เริ่มเหี่ยวเฉาแห้งเกรียมไหม้ทั้งหมด และรถยนต์เก๋งเสียหาย 1 คัน จากการถูกสารเคมีกัดเซาะ จนเจ้าของร้านวิตก ซึ่งไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นสารอะไร แม่ค้าร้ายจำหน่ายส้มตำ บริเวณที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุแล้ว มีเจ้าของร้านค้าเกิดอาการระคายคอ เจ็บคอหลายรายทันที แต่ยังไม่ได้ไปพบแพทย์ มีทางฝ่ายเจ้าของรถยนต์ไปเจรจาเพื่อจ่ายเงินชดเชยไปแล้วจำนวนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นำรถยนต์ และสินค้าเป็นถังบรรจุเคมีกลับไปได้แล้ว โดยไม่มีการควบคุมใดๆ ซึ่งมีรายงานว่า เจ้าของรถยนต์นำรถ และสินค้าไปไว้ที่โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากทราบว่า สินค้าดังกล่าวมีการขนส่งอย่างถูกกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ตาก รายงาน