นศ.ก่อเหตุวางยารูมเมท สังหารผ่านกล่องซีเรียล เปิดสมุดโน๊ตเชื่อจงใจ “กำจัดยีนด้อย” ออกจากสังคม
คดีสะเทือนขวัญในจีน จุดเริ่มต้นเหตุฆาตกรรม พิษจากความขัดแย้งในห้องพัก นักศึกษาแพทย์อายุ 27 ปี ก่อเหตุวางยาพิษในข้าวโอ๊ต จนรูมเมทวัย 25 ปีเสียชีวิต และสุดท้ายเขาเองต้องถูกตัดสิน “โทษประหาร” จบอนาคต
ตามรายงานระบุว่า “นายจู” (นามสมมุติ) นักศึกษาอายุ 27 ปี สั่งซื้อสารพิษชนิดหนึ่งผ่านทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 จากนั้นจึงวางยาใส่ลงไปในกล่องซีเรียล ที่เขาใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน ภายในหอพักมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหวงต้า หลังรับประทานอาหารนั้นนายจาง (นามสมมุติ) รูมเมทวัย 25 ปี เริ่มมีอาการวิงเวียน ท้องเสีย และอาเจียน พ่อแม่รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายหลังจากผ่านมา 10 วัน เขาก็เสียชีวิตลงในวันที่ 13 เมษายน จากภาวะอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว
การพิจารณาครั้งแรกปี 2024 ศาลตัดสินว่านายจูมีเจตนาฆ่า และตัดสินโทษประหารชีวิต แต่เขาได้ยื่นอุทธรณ์ โดยอ้างว่าเขาถูกเพื่อนร่วมห้องขับไล่และกลั่นแกล้ง จึงต้องการ “สั่งสอน” ไม่ได้มีเจตนาฆาตกรรม จึงยื่นคำร้องขอให้ลดโทษประหารชีวิต เป็นรอลงอาญา 2 ปีไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ฝั่งอัยการโต้แย้งชัดเจนว่า ไม่มีหลักฐานว่าเขาถูกกดดันจริง และพบข้อเท็จจริงว่าก่อนก่อเหตุ เขาเขียนข้อความในสมุดบันทึกว่า “ยีนด้อยต้องถูกกำจัดออกจากสังคม” มีหลักฐานว่าเขาวางแผนล่วงหน้า รวมถึงศึกษาสารพิษจากหลักสูตรเรียน ซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยวางแผนฆาตกรรม นอกจากนี้ครอบครัวผู้ตายก็ยืนยันไม่รับเงินเยียวยา และเรียกร้องให้ศาลดำเนินโทษสูงสุด
ท้ายที่สุด ศาลอุทธรณ์ก็ยังคงยืนคำพิพากษานี้ “ประหารไม่ลด” และเมื่อการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง นายจูก้มศีรษะยอมรับความผิดว่า “ผมทำผิด ผมเป็นเหตุให้เขาตาย กฎหมายจะลงโทษผมอย่างเหมาะสม ขอโทษครอบครัวเขา สถาบัน และสังคม”
คดีโศกนาฏกรรมนี้กลายเป็นบทเรียน จากความขัดแย้งหรือคำพูดเล็กๆ หากไม่ได้รับการพูดคุยหรือจัดการอย่างเหมาะสม อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมรุนแรงได้ แม้ในสถาบันการศึกษาเองก็ตาม นี่คือบทเรียนสำคัญว่าทัศนคติและพฤติกรรม บางครั้งมีผลต่อชีวิตของคนอื่นอย่างไม่อาจย้อนกลับได้ ท้ายที่สุด แม้จะมีความขัดแย้งในชีวิต แต่การลงมืออย่างโหดร้ายเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้