วันที่ 5 ธ.ค. 2567 นายสาคร ศิริชัย ทนายความของ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม ดารานักแสดงชื่อดัง ที่ถูกพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ จากกรณีคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท
จาก น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากับผู้สื่อข่าวว่า นายรัฐภูมิ ได้รับหมายเรียกจากตำรวจแล้ว และจะไปพบตำรวจตามหมายเรียกในวันพรุ่งนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้หลบหนี นายสาคร กล่าวต่อว่า
ตอนนี้ได้ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความในคดีนี้แล้ว ด้วยเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน แค่ไม่สะดวกใจที่จะทำต่อเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ที่ตนจะถอนตัวจากการเป็นทนายความ ซึ่งเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน
กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า นายรัฐภูมิ จะไม่หลบหนี และประสงค์จะสู้คดี ก่อนในวันที่ 25 พ.ย. ตนจะแจ้ง นายรัฐภูมิ ทราบว่าขอถอนตัวจากคดีนี้ อีกทั้ง เดิมที นายรัฐภูมิ จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนที่จะครบกำหนดของการออกหมายเรียก
แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่า เป็นคดีที่ประชาชนสนใจ จึงแนะนำให้มาตามกำหนดหมายเรียกดีกว่า เพื่อให้สะดวกกับทุกฝ่าย และจะได้ไม่ต้องมีการควบคุมตัว เพราะคดีไม่ได้มีความรุนแรงอะไร ส่วนรายละเอียดการลงบันทึกประจำวันของทนายความนั้น นายรัฐภูมิ มีความประสงค์
จะต้องสู้คดี และไม่หลบหนี ซึ่งมีที่อยู่ตามบัตรประชาชนชัดเจน และทนายความยืนยันว่า นายรัฐภูมิ จะไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม หากพนักงานสอบสวนจะเรียก นายรัฐภูมิ มารับทราบข้อกล่าวหา ให้แจ้งผ่านทนายความ
หรือผ่านเบอร์โทรฯ ของทนายความ และเบอร์ของ นายรัฐภูมิ ที่ให้ไว้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไม นายรัฐภูมิ ถึงเก็บตัวเงียบไม่ออกมาชี้แจงสื่อนั้น นายสาคร ระบุว่า ตนเองไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว เพราะเรื่องบางเรื่อง เขาอาจจะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี
หากไปพูดข้อเท็จจริงทั้งหมด ก็เกรงจะไม่เหมาะสม ส่วนครั้งล่าสุดที่ตนได้คุยกับ นายรัฐภูมิ นั้น ยอมรับว่า นายรัฐภูมิ มีความเครียด ซึ่งเป็นปกติของคนที่ถูกคดี และเจ้าตัวก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ แต่ในมุมของทนายความก็มองว่า
น่าจะเข้าข่ายพยายามฉ้อโกง แต่ก็ไม่รู้ว่าพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานอะไรที่จะนำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกหรือไม่