Home บันเทิง เกิดอะไรขึ้น? ประธานสภา ขอ “ผู้กองแคท” มาช่วยงาน แต่ “กรมการปกครอง” ไม่อนุญาต

เกิดอะไรขึ้น? ประธานสภา ขอ “ผู้กองแคท” มาช่วยงาน แต่ “กรมการปกครอง” ไม่อนุญาต

90

เกิดอะไรขึ้น? ประธานสภา ทำเรื่องขอ “ผู้กองแคท” มาช่วยงาน แต่ “กรมการปกครอง” ไม่อนุญาต
ด่วน! กรมการปกครองมีคำสั่งไม่อนุมัติการยืมตัว ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ผู้กองแคท” ไปรับงานช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยชี้แจงเหตุผลสำคัญว่ามีคำสั่งย้ายให้ผู้กองแคทไปดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอซึ่งต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริงเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์

รายละเอียดเหตุการณ์
วันที่ 26 กันยายน 2568 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตอบกลับหนังสือด่วนที่สุดที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง (กรณีเป็นรายบุคคล)

ในหนังสือระบุว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีความประสงค์ขอยืมตัว ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่งนักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ มาช่วยปฏิบัติราชการในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษ โดยขอให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

คำชี้แจงจากกรมการปกครอง
กรมการปกครองแจ้งว่าได้มีคำสั่งย้าย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา ไปดำรงตำแหน่ง ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ) กลุ่มงานบริหารงานปกครอง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

กรมการปกครองระบุว่า ตามนโยบายของหน่วยงาน ข้าราชการที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ ต้องอยู่ปฏิบัติงานในพื้นที่จริงเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งปลัดอำเภอ ดังนั้นจึงไม่สามารถให้ข้าราชการรายดังกล่าวมาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้

ความหมายเชิงบริหารและผลกระทบ
เชิงนโยบาย: กรมการปกครองวางนโยบายให้ปลัดอำเภอใหม่ต้องเริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อสร้างพื้นฐานการบริหารท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดเน้นในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐ
เชิงบุคคล: สำหรับผู้กองแคทเอง นอกจากงานราชการแล้ว เธอยังมีงานทางสื่อและบันเทิง ทำให้การโยกไปเป็นปลัดอำเภออาจเป็นการเปลี่ยนบทบาทและตารางงานอย่างมีนัยสำคัญ
เชิงการเมือง/สาธารณะ: กรณีนี้ถูกจับตามองในพื้นที่สื่อโซเชียลและสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นการเคลื่อนย้ายข้าราชการที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทหลายด้าน จึงมีคำถามเรื่องการจัดสรรบุคลากรและความเหมาะสมของการยืมตัว

ประเด็นที่น่าสังเกต
วันที่มีการขอยืมตัวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คือเอกสารลงวันที่ 25 กันยายน 2568 ซึ่งขอให้เริ่ม 1 ตุลาคม 2568
กรมการปกครองออกคำสั่งย้ายและให้มีผล 2 ตุลาคม 2568 ทำให้เกิดช่วงเวลาที่ขัดกันด้านการปฏิบัติหน้าที่
กรมการปกครองยึดนโยบายการให้ปลัดอำเภอใหม่ต้องทำงานในพื้นที่เป็นสำคัญ จึงปฏิเสธการยืมตัวในครั้งนี้
สรุป
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของนโยบายการวางกำลังคนในหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะเดียวกันการขอยืมตัวข้าราชการที่มีบทบาทหลากหลาย เช่น ผู้กองแคท ย่อมต้องพิจารณาความเหมาะสมระหว่างภารกิจในพื้นที่กับภารกิจหน่วยงานส่วนกลาง หากมีการประสานงานหรือจัดสรรกำลังคนล่วงหน้าอย่างชัดเจน อาจลดความขัดแย้งในลักษณะนี้ได้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ