ต้องบอกว่ากำลังได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีคดีดิไอคอนกรุ๊ป ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส ได้มีการรายงานเรื่องที่น่าสนใจเพิ่มเติมขึ้นมาอีกแล้ว โดยระบุว่า ได้รับข้อความจาก คุณ ม. ซึ่งส่งข้อความมาทาง INBOX อ้างว่าต้องการให้เปิดเผยอีกมุมหนึ่ง จากในมุมของคนที่ทำธุรกิจกับ ดิ ไอคอน และมองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นความพยายามของแม่ทีมบางคนที่เสียผลประโยชน์ และต้องการทำลายชื่อเสียงของบริษัท โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริงของบริษัทขายตรงก่อนว่า การทำตลาดขายสินค้าจะผ่าน ตัวแทนเพื่อไปใช้เองหรือจะขายต่อก็ได้ และบริษัทมีระเบียบว่า ห้ามขายตัดราคาเพราะจะทำให้ตลาดเสียหาย และเป็นผลกระทบกับตัวแทนคนอื่นที่ขายสินค้าเหมือนกัน และการซื้อสินค้าจากบริษัท ถ้าเป็นซื้อจำนวนมากก็ได้รับส่วนลดมาก เหมือนการซื้อสินค้าทั่วไป และบริษัทให้ส่วนลดตอบแทนเป็นเงินคืนเข้าบัญชี ถ้าอยากได้ส่วนลดเยอะ ๆ ก็ชื้อหรือขายสินค้าให้มากไว้เพื่อขึ้นตำแหน่งรับโบนัสพิเศษ

ถ้าทำตามระบบระเบียบบริษัท ขายไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติ ก็จะสะสมยอดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนขึ้นตำแหน่ง ได้รับส่วนลดเยอะขึ้น และยังได้รับโบนัสพิเศษ เป็นเงินโอนเข้าบัญชีตอนสิ้นเดือน แต่มีแม่ทีมนอกรีตบ้างคนเอาเงินตัวเอง ซื้อสินค้าตุนไว้เยอะ ๆ เพื่อรับเงินส่วนลดราคาสินค้าและรับโบนัสพิเศษ เมื่อมีสินค้าในมือเยอะก็เอาไปขายตัดราคา บริษัทตรวจสอบพบก็ทำการลงโทษและแจ้งความ สร้างความไม่พอใจให้แม่ทีมเหล่านี้ จึงย้ายไปทำบริษัทใหม่และอยากทำลายบริษัท เพื่อชักชวนตัวแทนของบริษัทไปทำที่ใหม่กับตัวเอง

ตัวแทนต้องเรียนรู้คุณสมบัติของสินค้า และใช้เองเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสินค้าดีจริง เรียนรู้วิธีการทำตลาดเพื่อให้เพื่อให้สินค้าขายได้ ชึ่งบริษัทก็มีการสอนทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ทุกวัน สามารถเรียนได้ 24 ชั่วโมง ว่างเมื่อไหร่ก็เรียนได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าเรียนแล้วจะเอาไปปฎิบัติหรือเปล่า ถ้าลงมือทำก็ได้ผลลัพธ์ตามที่เรียนมา คือใช้เองได้ผล ขายไปได้เงินมา และการเรียนรู้นี้สามารถเรียนฟรีโดยไม่เสียเงินได้ตลอดชีวิต ไม่เข้าใจทำไม่ได้ก็เข้าเรียนซ้ำจนกว่าจะทำได้

คำถามที่ว่าขายของไม่ได้ ขอถามว่าได้ขายหรือยัง และขายกี่ครั้ง ในความเป็นจริงขายครั้งเดียวจะได้หรือ? ต้องขายไปเรื่อยไปจนกว่าลูกค้าจะเชื่อในสินค้าและตัวเราจึงจะขายได้ เหมือนสินค้าในทีวีที่ต้องโฆษณาทุกวัน จนลูกค้าเชื่อและยอมจ่ายเงิน คำถามที่ว่ามาเรียนคอร์ส 89 บาท แล้วให้ซื้อสินค้า บริษัทไม่ได้หลอกลวงเพราะมีการสอนติดตะกร้า TikTok และตัดต่อคลิปเพื่อขายสินค้าจริง ๆ อาจจะเรียน 1 วัน 3 วัน หรือ 5 วัน จะกี่วันก็ได้เรียนจนกว่าจะทำเป็นและเรียนได้ตลอดชีวิต และเมื่อเรียนเสร็จ บริษัทก็นำเสนอสินค้าของบริษัททึ่คุณภาพดีใช้แล้วเห็นผล ให้คุณเป็นตัวแทนนำไปกินไปใช้หรือไปขาย ซึ่งถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องเป็นตัวแทนก็ได้

แต่ถ้าคุณอยากลองเป็นตัวแทน บริษัทมีส่วนลดของสินค้าและผลตอบแทนให้ตามจำนวนเงินทึ่ซื้อสินค้า ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งได้รับส่วนลดเข้าบัญชีเยอะ ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเท่าไหร่ หรือจะไม่ซื้อเลยก็ได้ หลังจากตัดสินใจซื้อสินค้าแล้ว ก็เลือกได้ว่าจะฝากสินค้าไว้กับบริษัท แล้วค่อย ๆ ทยอยเบิกให้ตัวเองหรือเบิกให้ลูกค้าก็ได้ หรือจะเบิกไปครั้งเดียวทั้งหมดก็ได้ ตัวแทนเป็นคนตัดสินใจ

สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมต้องหาตัวแทนใหม่ติดตัว เพราะยอดขายของตัวแทนใหม่จะนับรวมเป็นยอดขายของเราด้วย ยิ่งนับรวมยอดเยอะก็ได้รับส่วนลดเลยอะ บริษัทจะโอนเป็นเงินเข้าบัญชีตอนสิ้นเดือน โดยตัวแทนที่ซื้อสินค้าใหม่ก็จะได้รับส่วนลดตามยอดของเขา เราผู้แนะนำตัวแทนใหม่ก็ได้รับส่วนลดตามยอดขายของเรา เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมต้องหาต้วแทน เพื่อให้เขาซื้อสินค้าไปกินไปใช้ไปขาย

ทำไมต้องโชว์ความสำเร็จของแม่ทีม เพื่อให้ตัวแทนใหม่มีเห็นผลลัพธ์ของการใช้สินค้าและการขายสินค้าอย่างต่อเนื่องยาวนาน และต้องทำให้นานเท่าแม่ทีมจึงจะได้ผลลัพธ์แบบแม่ทีม คุณคิดว่าขายของผ่านตัวแทนแค่เดือนสองเดือน ปีสองปีแล้วจะได้เหมือนแม่ทีมที่เขาทำมา 5 ปีเหรอ แม่ทีมทำทุกวัน แต่คุณทำสามวันสามเดือนบอกไม่เห็นสำเร็จเหมือนแม่ทีม

คำถามที่ว่าไม่มีเงินแต่อยากทำ แม่ทีมก็ชี้ช่องให้ว่าจะหาเงินได้จากไหน ควรทำอย่างไร ซึ่งถ้าคุณไม่เห็นด้วย หรือคิดว่าไม่ดีคุณไม่ต้องทำก็ได้ เหมือนการสร้างบ้านขายให้ลูกค้าเป็นพันเป็นหมื่นหลัง ก็ย่อมต้องมีบ้านบ้างหลังเกิดรอยร้าวรอยรั่วกันบ้าง เมื่อแจ้งมาบริษัทก็ซ่อมแซมเยียวยาให้ ต้องทำเป็นเคส ๆ ไป แก้ไขให้จบไปในแต่ละเรื่อง ในแต่ละวัน ตามธรรมดาของการทำธุรกิจ เป็นปัญหาที่บริษัทต้องแก้ไขอยู่แล้ว เหมือนที่มีคนไปร้องเรียน สคบ.ปี 2565 ก็ช่วยเหลือแก้ไขได้

มีธุรกิจไหนบ้างที่ดำเนินธุรกิจแล้วไม่มีปัญหา แม่ทีมที่เสียผลประโยชน์ถูกฟ้องร้องก็เริ่มตั้งกลุ่มหาคนที่ขายไม่ได้ หรือไม่ได้ขาย บอกว่ามาร่วมกันร้องเรียนไปตามเพจต่างๆ แล้วจะได้เงินคืน คนที่ทำไม่ได้ก็อยากได้เงิน ยิ่งถามไปมากคนเท่าไหร่ คนที่อยากได้เงินคืนก็มากขึ้นเรื่อยๆ เข้าทางแม่ทีมที่วางแผนไว้ ส่งไปตามเพจต่างๆ ทนายต่าง ๆ โหนกระแสก็ตกเป็นเครื่องมือด้วย แล้วเริ่มปล่อยคลิปสร้างความน่าเชื่อถือว่าสิ่งที่พวกเขาร้องเรียนนั้นเป็นเรื่องจริง

พอติดกระแสคนสนใจก็ปล่อยตัวละครลับออกมาว่าเป็นคนติดตัวบอสพอล แล้วสร้างเฟกนิวส์ว่า บริษัทจ่ายเงินให้ผู้ใหญ่ไปกระจายตามหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทขายตรง ถ้าไม่เชื่อ ก็ให้สายลับเข้าเครื่องจับเท็จดู ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ซึ่งการทำเช่นนี้ไม่เพียงทำลายบริษัท แต่ต้องการทำลายความน่าเชื่อขององค์กรต่างๆ เพื่อบีบให้องค์กรเหล่านั้นเดินตามเส้นทางและเป้าหมายที่วางไว้ คือทำลายบริษัท

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส