วันที่ 21 กันยายน 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์เมื่อ วันที่ 20 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่ไทยจะใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาใน หมู่บ้านโจกเจย และ หมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย สาเหตุคือ ฝ่ายกัมพูชาเห็นว่า การอ้างสิทธิของไทยดังกล่าวเป็นการละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 2(3) และ 2(4) และเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MoU 2000 ด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ซึ่งขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมและเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียดตามข้อตกลงหยุดยิ
พล.ต.วินธัยกล่าวว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับและยืนยันว่าพื้นที่ที่ไทยอาจดำเนินการนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายอ้างสิทธิ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง แต่เป็น เขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายจึงถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ
ส่วนที่กัมพูชาอ้างว่า ไทยละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 2(3) ว่า รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย ไทยโต้กลับว่า ที่ผ่านมาพบว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดมาตรานี้บ่อยครั้ง เช่น การปลุกปั่น จัดฉาก ใช้ประชาชนมาเป็นผู้สร้างสถานการณ์ความรุนแรง
ในส่วนของมาตรา 2(4) รัฐสมาชิกต้องละเว้นจากการคุกคามหรือการใช้กำลังต่อบูรณภาพแห่งดินแดน พล.ต.วินธัยระบุว่า กัมพูชาได้ละเมิดมาตรานี้เช่นกัน เช่น การนำกำลังทหารพร้อมอาวุธมาวางกำลังในดินแดนอธิปไตยไทย และการแอบลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดชนิด PMN‑2 ในดินแดนไทย แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม
กรณีที่กัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MoU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก โดยขัดต่ออำนาจของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม พล.ต.วินธัยกล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาเองได้ละเมิด MoU 2000 ด้วยเช่นกัน โดยปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน หรือชุมชน ทั้งในเขตที่ต่างฝ่ายอ้างสิทธิและในเขตที่ไทยถือว่าเป็นอธิปไตยของตน ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงตามเงื่อนไขของ MoU 2000 มาเป็นจำนวนกว่า 500 ครั้งตลอดแนวชายแดนไทย‑กัมพูชา แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไขมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
พล.ต.วินธัยกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อกัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่ บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง ไทยพบว่าฝ่ายกัมพูชาเองสนับสนุนและดำเนินกิจกรรมลักษณะไม่เปิดเผย โดยใช้ท่าทีที่ก้าวร้าว มีการชุมนุมของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว และมีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในเขตอธิปไตยไทยจนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย
ไทยขอยืนยันว่า มีเจตนาแก้ปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี ไม่ใช้กำลังรุกรานใคร และการดำเนินการที่จำเป็นทั้งหมดเป็นไปภายใต้กรอบกติกาสากลและกฎหมายไทย เพื่อรักษาอธิปไตยและปกป้องตนเองจากการคุกคามของกัมพูชา
