วันที่ 15 กันยายน 2568 เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดชัยนาทติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมง ส่งผลให้ถนนหลายสายภายในเขตเมืองเจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน หลายจุดมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังสถานศึกษา การจราจรเกิดปัญหาติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองชัยนาท ต้องระดมกำลังทั้งหมดออกปฏิบัติหน้าที่โบกรถเพื่อเร่งระบายรถที่ติดสะสมตลอดช่วงเช้า
ขณะเดียวกัน สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยล่าสุด พบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 2,228 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 17.22 เมตร (รทก.) ซึ่งยังคงทรงตัว
เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มการระบายเป็น 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีภายในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อสอดรับกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องระหว่างวันที่ 15-19 กันยายน และเพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับมวลน้ำจากภาคเหนือ ลดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ
สำหรับระดับน้ำท้ายเขื่อน วัดได้ 14.68 เมตร (รทก.) ทรงตัวในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
กรมชลประทาน ยังคงออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดในภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจยกตัวสูงขึ้น
พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ โดยเฉพาะ คลองโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล อำเภอบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด และ ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยารวมถึงริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกประมาณ 10-15 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมง และควรเร่งยกของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย
แม้ว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะตรึงอัตราการระบายน้ำไว้ แต่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยังคงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนในพื้นที่ท้ายเขื่อน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลตะหลุก ตำบลหาดอาษา และ ตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
ในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 10-60 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน หลายครอบครัวต้องเร่งเคลื่อนย้ายขึ้นไปตั้งเพิงพักชั่วคราวริมถนนคันคลองมหาราช เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำปัจจุบัน
ชาวบ้านบางราย เปิดเผยว่า จากแนวโน้มปริมาณน้ำและพายุที่คาดว่าจะเข้าช่วงปลายเดือน ทำให้เชื่อว่าปีนี้มีโอกาสเกิดน้ำท่วมสูง จึงจำเป็นต้องเตรียมจุดอพยพไว้ล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย โดยปัญหาที่พบจากการอพยพขึ้นมาอยู่ริมถนน ได้แก่ ความยากลำบากในการใช้ห้องน้ำ การหุงหาอาหาร การประกอบอาชีพและความกังวลต่อทรัพย์สินในบ้านที่อาจถูกขโมย