หลังจาก “กันต์ กันตถาวร” ออกมาแถลงปม ดิไอคอนกรุ๊ป เผยว่าที่ออกมาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท การลงทุนและการออกนโยบายเกี่ยวกับดิไอคอนกรุ๊ป เป็นแค่คนถูกจ้างให้มาทำสื่อประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายได้ใช้กันเท่านั้น ซึ่งตนก็ตรวจเช็กมาตลอดเท่าที่คนคนนึงจะเช็กได้แล้ว และตนได้ยกเลิกสัญญากับทางดิไอคอนกรุ๊ปแล้ว

“กันต์ กันตถาวร” ออกมาแถลงปม ดิไอคอนกรุ๊ป เผยว่าที่ออกมาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท การลงทุนและการออกนโยบายเกี่ยวกับดิไอคอนกรุ๊ป เป็นแค่คนถูกจ้างให้มาทำสื่อประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายได้ใช้กันเท่านั้น ซึ่งตนก็ตรวจเช็กมาตลอดเท่าที่คนคนนึงจะเช็กได้แล้ว และตนได้ยกเลิกสัญญากับทางดิไอคอนกรุ๊ปแล้ว

ซึ่งคำว่าบอสเป็นคำเรียกให้เกียรติกัน บริษัทไอคอนกรุ๊ป ตนไม่มีสิทธิ์ลงนามหรือทำอะไร กันต์จะได้รายได้จากข้อตกลงในสัญญาที่ขายเป็นรายเดือน ส่วนรายได้บริษัทจะลงเป็นสรุปมาให้และยอดตรงทุกเดือน มีการยื่นภาษีถูกต้อง

ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรมพร้อมผู้ช่วย เดินหน้าเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป หลังมีผู้เสียหายหลายรายร้องทุกข์ ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป รวมไปถึงผู้บริหารทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น บอสพอล , บอสกันต์ , บอสปีเตอร์ , บอสหมอเอก , บอสมิน , บอสแซม ในเรื่องของ พรก.กู้ยืมเงินอันเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ เรื่องของฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และก็จะเข้าสู่มูลฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย

ทั้งนี้ ทนายตั้ม ได้กล่าวตั้งข้อสงสัยว่า คุณกันต์ กันตถาวร มีการโพสต์โชว์นาฬิกาหรูหลายเรือน รวมมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท กับการทำอาชีพพิธีกรรายการ จะมีรายได้ขนาดนี้เลยเหรอ นอกจากจะไปรับเปอร์เซ็นจากบริษัทดังกล่าว