ยังไม่มีข่าวการทบทวนหรือยกเลิกสิทธิประโยชน์แต่อย่างใด สำหรับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนกรกฎาคม 2568 ายเดิมเงินเข้า รับสิทธิต่อเนื่อง เช็กได้ค่าอะไรบ้าง
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับใช้ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
วงเงินค่าเดินทาง ได้รับเงิน 750 บาท ต่อคนต่อเดือน สำหรับใช้เดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานหรือติดต่อธุระ
ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม ได้รับเงิน 80 บาท ต่อคนทุก 3 เดือน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา : ได้รับเงิน 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน ช่วยให้ทุกบ้านมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า ได้รับเงิน 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
วันที่ 20 กรกฎาคม 2568
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท) รวมจะได้รับเป็นเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 2568 วันไหน ?
การลงทะเบียนใหม่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 14.5 ล้านคน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่แต่อย่างใด เพราะกระทรวงการคลังจะนำรายชื่อของกลุ่มนี้ไปคัดกรองคุณสมบัติอัตโนมัติ
ส่วนกลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 10 ล้านคน รวมถึงกลุ่มตกหล่นจากปี 2565 ที่ไม่ได้ยืนยันตัวตน แต่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ กลุ่มนี้จะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านช่องทางที่รัฐบาลกำหนด และเข้าเงื่อนไขใหม่
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมระบบการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกันยายน 2568 นี้ ดังนั้นบัตรเดิมจะยังได้รับการช่วยเหลือเช่นเดิมในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ไม่มีข่าวการทบทวนหรือยกเลิกสิทธิประโยชน์แต่อย่างใด
สำหรับคุณสมบัติของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน คือ
1. ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี (เฉลี่ยไม่เกิน 274 บาทต่อวัน) หรือ ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
3. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ครอบครัว ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
4. ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
5. ต้องไม่มีบัตรเครดิต
6. ต้องไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
7. ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถไม่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป
8. ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.