Home ท้องถิ่น เสธ.เบิร์ดย้ำ ไม่เปิดด่านจนกว่ากัมพูชา หยุดคุกคามไทย

เสธ.เบิร์ดย้ำ ไม่เปิดด่านจนกว่ากัมพูชา หยุดคุกคามไทย

21

วันที่ 12 กันยายน 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคง กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในสังกัดกรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย แสดงความเห็นต่อกรณีการพิจารณาเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเน้นย้ำว่า ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดด่าน และต้องรอให้สถานการณ์ความมั่นคงมีความชัดเจนก่อน

เข้าใจได้ว่าประเทศที่สามมีจุดยืนของเขา แต่ไทยก็มีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ อยากให้ทุกฝ่ายนึกถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทั้งประชาชนและทหารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ พล.ต.วันชนะกล่าว

เขาย้ำว่า กัมพูชาจำเป็นต้อง สิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามต่อไทย ก่อน จึงจะสามารถเริ่มต้นการเจรจาได้อย่างจริงจัง พร้อมระบุว่าควรมีแรงกดดันไปยังฝ่ายกัมพูชา เพราะเป็นผู้ที่เริ่มเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้แนวชายแดนก่อน

ถ้ากัมพูชาถอนกำลังออก เราในฐานะประเทศที่มีวุฒิภาวะก็พร้อมจะถอนเช่นกัน ไม่มีการตลบหลังแน่นอน

พล.ต.วันชนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้เปิดด่านในจุดที่ไม่มีการปะทะ โดยให้เหตุผลว่ากัมพูชายังคงเป็นภัยคุกคามอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในจุดใดของแนวชายแดน

ฝ่ายตรงข้ามยังคงเป็นกัมพูชาอยู่วันยังค่ำ จะเปิดด่านตรงไหนก็ไม่ควรใช้เหตุผลว่าไม่มีการปะทะ เพราะจุดอื่นก็ยังไม่ปลอดภัยเช่นกัน

แม้กัมพูชาจะระบุว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) พล.ต.วันชนะชี้ว่า ยังไม่มีความจริงใจที่ชัดเจน และควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ผู้อำนวยการฯ ระบุว่า การจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาในปัจจุบันยังคงวนเวียนอยู่ในกรอบของคณะกรรมการต่างๆ เช่น GBC, RBC และ JBC โดยไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งเสี่ยงต่อการยืดเยื้อของสถานการณ์

ประชาชนตามแนวชายแดนต่างต้องการเห็นความสงบโดยเร็ว ควรมีการจัดการที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่การส่งเรื่องไปมาระหว่างคณะกรรมการ

พล.ต.วันชนะ ระบุว่า แนวคิดเรื่อง การสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคาม ไม่ได้หมายถึงการใช้กำลังทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องทำให้กัมพูชาได้รับผลกระทบ ทั้งในมิติของกำลังทหาร เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ เพื่อไม่ให้กลายเป็นภัยคุกคามต่อไทยในอนาคต

เขายังชี้ว่า การถอนเฉพาะอาวุธหนักออกจากพื้นที่ยังไม่เพียงพอ เพราะกำลังทหารของกัมพูชายังอยู่ในพื้นที่ชายแดน และยังมีท่าทีพร้อมปะทะ

ในขณะเดียวกัน กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยส่งตัวเชลยศึกกลับไป แต่ก็ยังคงมีกำลังเผชิญหน้าอยู่ ถ้าต้องการให้ไทยปล่อยตัวเชลยศึก ก็ควรถอนกำลังออกไปก่อนเช่นกัน

พล.ต.วันชนะ ยังตั้งข้อสงสัยว่า การพิจารณาเปิดด่านในบางพื้นที่เป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ แต่ย้ำว่า ต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวของผู้สูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือทหารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้