ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 (FIVB Women’s World Championship 2025) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นตั้งแต่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน มี 32 ชาติร่วมชิงชัย ล่าสุดในรอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 6 กันยายน ผลปรากฏว่า ตุรกีเอาชนะญี่ปุ่น 3-1 เซต ส่วนอิตาลีเฉือนบราซิลสุดมัน 3-2 เซต ทำให้แฟน ๆ ต้องเสียน้ำตาเมื่อสองทีมขวัญใจชาวไทยอย่างญี่ปุ่นและบราซิลต้องตกไปชิงเหรียญทองแดงแทน
ล่าสุดทางเพจ ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์ ได้ระบุข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีกับท่านสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยและอาจารย์ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ รองประธานกิติมศักดิ์ตลอดชีพสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซีย ซึ่งได้รับ FIVB Grand Cross Award จากทางสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB
ในฐานะที่ท่านทั้งสองมีส่วนสำคัญที่ทำให้การจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม จนได้รับการยอมรับจากทาง FIVB และ Volleyball World ว่าเป็น “การจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ซึ่งปกติ ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการวอลเลย์บอลซึ่งจะมอบให้เฉพาะบุคคลในตำแหน่งสูง 
อย่างเช่นประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือตำแหน่งระดับประธานสหพันธ์ของทวีปต่างๆเท่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพยายามในการที่จะโปรโมทกีฬาวอลเลย์บอลและยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขัน
โดยนายฟาบีโอ อาเซเวโด ประธาน FIVB ได้มอบให้ทั้งสองท่าน ณ ห้องรับรองพิเศษ อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา”
พร้อมกันนี้จากข้อมูลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 กระตุ้นท่องเที่ยวไทย 4 ภูมิภาค สร้างเงินสะพัดกว่า 8.4 พันล้านบาท จากที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และนครราชสีมา คาดว่าจะสร้าง มูลค่าเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจรวมกว่า 8,435.7 ล้านบาท
โดยผลจากการแข่งขันทำให้ ยอดจองโรงแรมคึกคัก ในเมืองที่มีการแข่งขัน และสร้างโอกาสทองในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย พร้อม กระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคเหนือ กลาง ใต้ และอีสาน นอกจากนี้ ผู้ชมการแข่งขันสามารถใช้ บัตรเข้าชมการแข่งขัน เข้าชม พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ร่วมกับ ททท. ฟรี เป็นการส่งเสริม Sport Tourism และสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ครบวงจร
การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ไม่ใช่เพียงศึกกีฬา แต่ยังเป็น “พลังมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ” และเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดรายบได้จากการจัดการแข่งขันจนถึงวันสุดท้ายจะมีรายงานอีกครั้ง แต่เชื่อว่าเงินน่าจะสะพัด กระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างคึกคักแน่นอน
สำหรับรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพฯ โดยเวลา 15:30 น. ญี่ปุ่นจะพบกับบราซิลเพื่อตัดสินอันดับ 3 และเวลา 19:30 น. ตุรกีจะพบอิตาลีเพื่อชิงเหรียญทอง แฟนกีฬาสามารถติดตามเชียร์ได้ทั้งที่สนามหรือรับชมการถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์ทาง PPTV HD ช่อง 36
ข้อมูลจาก ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์
