Home ท้องถิ่น เท้ง มอง เพื่อไทย ไม่จริงใจ จนถึงตอนนี้ยังให้ข่าวกลับไปกลับมา ย้ำ โหวต อนุทิน นั่งนายกฯ ปัดรับดีลปีศาจ เพียงแต่หาทางออกให้ประเทศ

เท้ง มอง เพื่อไทย ไม่จริงใจ จนถึงตอนนี้ยังให้ข่าวกลับไปกลับมา ย้ำ โหวต อนุทิน นั่งนายกฯ ปัดรับดีลปีศาจ เพียงแต่หาทางออกให้ประเทศ

24

วานนี้ (4 ก.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ มา.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำจุดยืนพรรคประชาชนในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ในวันนี้ (5 ก.ย. 68) โดยยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ได้เสียงแตก เราได้ความชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนที่เมื่อเช้าตนเองได้เรียกหาความชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการยุบสภาจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกฯ ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่านายภูมิธรรมและพรรคเพื่อไทยไม่ได้เดินหน้ากระบวนการยุบสภา ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดความไขว้เขว เพราะกระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชนสิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคได้แถลงข่าวและเซ็นข้อตกลงร่วมกับพรรคภูมิใจไทย

ตลอดทั้งวันที่ตนเองได้ประชุมกับ สส.พรรคก็ไม่ได้พูดถึงการเปิดฟรีโหวต เชื่อมั่นต่อเพื่อนร่วมพรรคว่าพร้อมปฏิบัติตามมติของพรรค ส่วนความอึดอัดใจของสส.ภายในพรรคต่อการโหวตนายกฯ ทุกคนมีความเห็นแตกต่างหลากหลาย แต่ก็มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันมาหมดแล้ว เชื่อว่า สส.จะปฏิบัติตามมติ และไม่กังวลว่าจะมีใครฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรค

ส่วนการเลื่อนวันเลือกนายกฯ ออกไปนั้น มีการต่อสายจากเจ้าหน้าที่ของประธานรัฐสภา บอกว่าตนเองได้ประสานขอเลื่อนการโหวต ตนเองขอยืนยันต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านไม่เคยประสานขอเลื่อนวัน ขณะที่ความกังวล หากฝ่ายค้านยกมือโหวตนายกฯ แล้ว หากรัฐบาลทำอะไรผิดพลาด ฝ่ายค้านจะต้องรับผิดชอบด้วยนั้น เรายืนยันในเรื่องเดิมว่าเรายังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน การโหวตให้นายอนุทิน เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีหน้าที่ยุบสภา และเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ฉะนั้นคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้น เป็นรัฐบาลที่พรรคประชาชนไม่ต้องไปแบกรับแต่อย่างไร เราพร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ที่หากเลือกนายชัยเกษม ก็พร้อมยุบสภาหลังแถลงนโยบายต่อสภาฯ ทันที นายณัฐพงษ์ กล่าววว่า หากเป็นข้อเสนอก่อนที่พรรคประชาชนจะตัดสินใจแถลงออกมาอย่างเป็นทางการ ตนเองและ สส.ในพรรคจะรับไว้พิจารณา แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กระบวนการที่ผ่านมาตลอดจนถึงวันนี้ ยังมีการให้ข่าวกลับไปกลับมาจากพรรคเพื่อไทย เราก็พอจะประเมินได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความจริงจังและจริงใจ ที่จะบรรลุข้อตกลงกับเราตั้งแต่ต้น เป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อช่วงชิงจังหวะทางการเมืองมากกว่า

ภายหลังที่พรรคประชาชนบรรลุข้อตกลงออกไปเป็นที่เรียบร้อย ยังคงมีการปล่อยข่าวในลักษณะนี้อยู่ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เราไม่สามารถเชื่อคำพูดที่กลับไปกลับมาแบบนี้ได้  ส่วนที่นักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนเตือนอยากให้พรรคประชาชนพิจารณาใหม่ เพราะการโหวตพรรคภูมิใจไทย เหมือนสนับสนุนกลุ่มทำลายกระบวนการนิติรัฐ นิติธรรม และทำนิติสงครามนั้น เรารับฟัง และทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน พร้อมพิสูจน์ตัวเองในกรอบเวลาต่อจากนี้ ผ่านการทำหน้าที่ทุกอย่างของเรา และอยากยืนยันทุกคน วันนี้สิ่งที่ตนเองและพรรคประชาชนจำเป็นต้องทำคือหนักแน่นต่อการตัดสินใจของเรา เราไม่ได้เพิ่งมาคิดในไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่มองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 2 เดือนที่แล้ว เราได้ประเมินสถานการณ์ ชั่งน้ำหนักทุกด้าน ไตร่ตรองรอบคอบ ก่อนออกมติพรรค เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีสุดให้กับประเทศจริง ๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยทำนิติสงคราม มีการเรียกร้องให้พรรคประชาชนต้องรับผิดชอบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนเองและพรรคประชาชนจะต้องรับผิดชอบ ต้องดูที่การกระทำของพวกเราด้วย กรณีที่เราได้เรียกร้อง และให้ข้อคิดเห็นในตอนเช้าว่า เราไม่เห็นด้วยกับนิติสงคราม ไม่ว่าฟ้องร้อง มาตรา 157 หรือมาตรา 112 ที่ผ่านมา ตนเองและพรรคประชาชนไม่มีอำนาจสั่งการ แต่เรามีอำนาจฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ใช้เสียงที่เรามีกำกับทิศทางรัฐบาลต่อจากนี้ เพื่อเปิดทางทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องดูต่อไปในอนาคต รัฐบาลเฉพาะกิจ ทำอะไรไม่ถูกต้อง เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างพวกเรา ตรวจสอบตรงไปตรงมา ทำเต็มที่ ไม่มีออมมือทั้งสิ้น เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น

ส่วนที่หลายคนมองตอนแรกโหวตหนุนภูมิใจไทย แล้วไปค้านในอนาคตทำได้จริงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สังคมต้องมองแยกให้ออกคือ เรื่องการใช้เสียงในสภาฯ เพื่อเดินหน้าสู่ทางออกของประเทศ กับการร่วมรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งว่า การโหวตนายอนุทิน ไม่ใช่ร่วมรัฐบาล แต่หาทางออกของประเทศ เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ ขณะที่อดีตแกนนำพรรคก้าวไกล และ สส.บางคน เสนอว่าไม่อยากให้พรรคประชาชนป็นตัวประกอบภาพยนตร์ที่ทำสัญญากับปีศาจนั้น เป็นสิ่งที่พวกเราต้องพิสูจน์ว่า หลังจากนี้อีก 4 เดือน หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรคประชาชนจะใช้เสียง 140 กว่าเสียง กำกับทิศทางรัฐบาล นำไปสู่สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้มากน้อยแค่ไหน เชื่อว่าเราทำได้

ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และอดีตแกนนำก้าวไกลคนอื่น ๆ เคยบอกว่าไม่ควรดีลกับปีศาจนั้น คิดว่าสิ่งที่เราเคยบอกว่า ดีลปีศาจ ต้องดูว่าดีลเพื่อผลประโยชน์ของใคร เพื่อผลประโยชน์ตนเอง หรือเราใช้อำนาจที่เรามี ได้รับมอบจากประชาชน หาทางออกให้กับประเทศ ที่สำคัญมากกว่า เชื่อว่าองคาพยพของเราเข้าใจ

นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าไม่รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจดีลกับพรรคภูมิใจไทย และไม่คิดที่จะไปทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน เดินหน้าหาทางออกให้กับประเทศ คิดว่าเป็นเรื่องประธานสภาฯ บรรจุวาระแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ หรือโหวตนายกฯคนใหม่อย่างไรบ้าง ส่วนถ้าอนาคตนายอนุทินไม่ยุบสภาฯนั้น เราประเมินไว้หมดแล้ว และเราจะประเมินทุกวันต่อจากนี้ หลังโหวตเลือกนายกฯไปแล้ว ถ้าเราเริ่มเห็นแล้วว่า นายอนุทินไม่พยายามปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกัน เราพร้อมใช้เสียงในสภาฯ ยื่นมติไม่ไว้วางใจทันที

ทั้งนี้หาก 4 เดือน เกิดสถานการณ์รัฐบาลต้องกำกับดูแลประเทศต่อ นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ตอนนี้กรอบสำคัญของเราคือตามข้อตกลงที่ได้บอกว่า สถานการณ์ในอนาคตไม่ว่าเรื่องใหญ่ ไทย-กัมพูชา หรือภาษีทรัมป์ เราให้ประชาชนตัดสิน เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลชุดใหม่แก้ไข ส่วนที่บางพรรคมีข้อครหาว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ เพราะเงื่อนไข 5 ข้อของพรรคประชาชนไม่ได้ระบุส่วนนี้ไว้ ตนเองขอยืนยันว่า ถ้ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสะสางคดีของตนและพวกพ้อง พรรคประชาชนไม่มีทางยอมรับได้ พร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

ทุกอย่างอาจไม่ได้ตอบลงรายละเอียดมากนัก ตอบบนหลักการที่ทุกคนเข้าใจได้ ดูเรื่องการกระทำที่วิญญูชนเห็น ถ้าเชื่อว่านายอนุทิน ในฐานะนายกฯ มีความเป็นไปได้มากสุดคนต่อไป ใช้อำนาจยุ่งเกี่ยว เป็นอำนาจของ ปชน.ล้มอำนาจที่ไม่มีความชอบธรรม

ส่วนถ้าเพื่อไทยยืดเยื้อหรือล้มการโหวตนายกฯนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเดินเกมในสภาฯ เป็นเรื่องปกติ รวมถึงการโหวตนายกฯ แต่อยากให้ทุกคนเรียกร้อง ณ ตอนนี้คือเดินหน้าเปิดประตูสู่ทางออกของประเทศ เพราะความชัดเจนของพรรคประชาชนคือ พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เดินหน้ายุบสภาฯ ก่อน ต่อมาเสนอชื่อนายชัยเกษมมาชิงเก้าอี้นายกฯ มองว่าพรรคเพื่อไทยตีรวน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้านายอนุทินได้เป็นนายกฯ แล้วถูกคดีจริยธรรมสอยก่อนยุบสภาฯ มองนายกฯ คนที่ 4 ไว้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่การโดนคดีจริยธรรม พรรคประชาชนบอกตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการเช่นนี้