ระทึก! ไฟไหม้เรือใบหรู กลางทะเลภูเก็ต เสียงบึ้มดังสนั่น เผาวอดทั้งลำ ก่อนจมก้นทะเล กัปตันบาดเจ็บ เล่านาทีหนีตาย เสียหายเบื้องต้นกว่า 4 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.67 นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำท่าอ่าวปอว่า เกิดเหตุเครื่องเรือระเบิด และเกิดไฟไหม้เรือ ชื่อ ฟลามิงโก้ เลดี้ 2 หมายเลขทะเบียนเรือ 625100075 ขนาด 16.68 ตันกรอส เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกคนโดยสาร วัสดุตัวเรือทำจากอลูมิเนียม ใบอนุญาตใช้เรือใช้ได้ถึงวันที่ 9 เม.ย.68
โดยมี นายจรูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ถือประกาศนียบัตร นายเรือของเรือเดินในประเทศ ขนาดไม่เกิน 250 ตันกรอส เลขที่ 65-51-01110-0007-0 ใช้ได้ถึงวันที่ 6 ธ.ค.70 และมีผู้ควบคุมเครื่องจักร ชื่อนายครรชิต อายุ 23 ปี ถือประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่ง พิเศษชำนาญงาน เลขที่ 66-51-01206-0167-0 ใช้ได้ถึงวันที่ 9 พ.ค.71
สอบสวนเบื้องต้น จากการให้ข้อมูลของนายจรูญ ผู้ควบคุมเรือ ทราบว่า เวลา 10.00 น. นำเรือเดินทางออกจากท่าเทียบเรืออ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง เพื่อไปส่งนักท่องเที่ยวจำนวน 22 คน ที่เกาะนาคาใหญ่ เมื่อส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ในระหว่างเดินทางกลับ บนเรือมีเพียงผู้ควบคุมเรือและผู้ควบคุมเครื่องจักรเพียง 2 คน
เวลาประมาณ 10.35 น. ระหว่างทางจากเกาะนาคาใหญ่และเกาะแรด เกิดเครื่องยนต์ขวาขัดข้อง ไม่สามารถควบคุมความเร็วได้ ต่อมาเครื่องยนต์ระเบิด จนเป็นเหตุให้เครื่องยนต์ร้อนจัดเกิดสะเก็ดไฟถูกไอน้ำมัน จนเกิดไฟไหม้บนเรือขึ้น
ขณะเครื่องยนต์ขัดข้อง กัปตันเรือและช่างเครื่องเข้าไปแก้ไข จนเกิดไฟไหม้ ทำให้นายจรูญ ผู้ควบคุมเรือ ได้รับบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย นำตัวส่งโรงพยาบาลถลาง เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุของไฟไหม้และความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและประเมิน
ต่อมา พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 พ.ต.ต.วชิรพิศักดิ์ ณ สงขลา สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 และพ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ถลาง ร.ต.ท.ฐิติวัฒน์ อาษาสิงห์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน นำเรือสปีดโบ๊ต ออกไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ
ซึ่งอยู่ในทะเลหน้าเกาะแรด ตำบลป่าคลอก อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบร่องรอย เรือฟลามิงโก้ เลดี้ 2 แต่ก็ไม่พบ เนื่องจากเรือโดนไฟไหม้และโดนกระแสลมพัดพา ก่อนจมหายลงใต้ท้องทะเล ซึ่งมีน้ำลึกประมาณ 3-4 เมตร จึงไม่พบซากเรือ ซึ่งคาดว่าคงจมอยู่ใต้ทะเลแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเรืออีกครั้ง หลังจากระดับน้ำทะเลลดลง ส่วนประเมินค่าเสียหายในเบื้องต้นอยู่ที่ราคา ประมาณ 4,300,000 บาท
ภาพจาก กลุ่มโหดจัง จังหวัดภูเก็ต