เปิดอีกหนึ่งธุรกิจ “หมอบี” ถือหุ้นบริษัทเกี่ยวกับการแสดง ร่วมกับ “นักร้องสาว” คนหนึ่ง

หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ส.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลางได้นำกำลังเข้าจับกุม พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) พูลมุข เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ.81/2568 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ในข้อหาทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัด และข้อกล่าวหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ก่อนควบคุมตัวขึ้นมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม กรุงเทพมหานคร (กก.1 บก.ป.)

ในปฏิบัติการเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ “หมอบี” ตามหมายจับที่มีข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157 และข้อหาฟอกเงิน โดยขณะนี้ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวเพื่อตรวจสอบและสอบสวนเพิ่มเติมที่กองปราบปราม กรุงเทพมหานครเช่นกัน

พบการถือหุ้นร่วมกับอดีตไอดอล
ชื่อของ “หมอบี” ถูกชาวเน็ตนำไปสืบค้นข้อมูลธุรกิจจนพบว่า เขาไม่ได้มีบทบาทเพียงในโลกออนไลน์หรือกิจกรรมจิตใจเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในกิจการเชิงพาณิชย์หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดง ซึ่งมีผู้ถือหุ้นร่วมเป็นอดีตไอดอลสาวจาก BNK48

ข้อมูลบริษัทสั้น ๆ
ข้อมูลบริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด (UNEQ CO., LTD.)
ชื่อบริษัท บริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด (UNEQ CO., LTD.)
ประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการเป็นตัวแทนและสำนักงานเพื่อคัดเลือกนักแสดง
หมวดธุรกิจ กิจกรรมของบริษัทตัวแทนและสำนักงานคัดเลือกนักแสดง
สถานะ ยังดำเนินกิจการอยู่
วันที่จดทะเบียน 12 ตุลาคม 2566
ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท

ข้อมูลสรุปข้างต้นมาจากเอกสารทะเบียนนิติบุคคลและการนำส่งงบการเงินที่เปิดเผยต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โครงสร้างผู้ถือหุ้น
จากข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่จดทะเบียน พบการแบ่งสัดส่วนหุ้นระหว่างสองบุคคลสำคัญ ดังนี้

ลำดับ ผู้ถือหุ้น สัญชาติ สัดส่วน จำนวนหุ้น มูลค่าหุ้น (บาท)
1 พัศชนันท์ เจียจิรโชติ (Phatchanan Jeajirachot) ไทย 60.00% 6,000 154,495
2 เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล (Seksan Thapsuebsakul) — หมอบี ไทย 40.00% 4,000 102,997
รวม 10,000 257,493

จากตารางข้างต้นแสดงให้เห็นว่า หมอบีถือหุ้นสัดส่วน 40% ในบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดง ร่วมกับอดีตไอดอล BNK48 ซึ่งถือหุ้นใหญ่ 60% — ข้อมูลนี้ถูกตรวจสอบจากรายงานทะเบียนนิติบุคคลและฐานข้อมูลการนำส่งงบการเงิน

อาณาจักรธุรกิจของหมอบี — ภาพรวม 2 บริษัท
นอกจากบริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด แล้ว ข้อมูลการทะเบียนธุรกิจระบุว่า หมอบียังมีส่วนเกี่ยวข้องกับอีก 1 บริษัท คือ บริษัท นาถะ มหานคร จำกัด ทำให้ภาพรวมธุรกิจของเขาครอบคลุมทั้งภาคอาหาร-เครื่องดื่ม และภาคบันเทิง/การเป็นตัวแทนนักแสดง

บริษัท นาถะ มหานคร จำกัด
– จดทะเบียนวันที่ 8 ก.ค. 2563
– ประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
– หมอบีเป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ 46,000 หุ้น (92.00%) ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท
บริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด
– จดทะเบียนวันที่ 12 ต.ค. 2566
– ประกอบกิจการเป็นตัวแทนคัดเลือกนักแสดง
– หมอบีถือหุ้น 4,000 หุ้น (40.00%) จากทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท

ผลประกอบการย้อนหลัง (ที่เปิดเผย)
เมื่อนำผลประกอบการของทั้งสองบริษัทมารวมกัน จะเห็นภาพรวมของรายได้และผลขาดทุนตามปีที่มีการเปิดเผย ดังนี้ (สรุปจากงบการเงินที่นำส่งต่อหน่วยงาน)

บริษัท นาถะ มหานคร จำกัด
ปี 2565: รายได้ 14,425,164 บาท ขาดทุน 4,087,819 บาท
ปี 2566: รายได้ 11,563,990 บาท ขาดทุน 5,145,808 บาท
ปี 2567: รายได้ 15,220,626 บาท (เพิ่มขึ้น 31.6% จากปี 2566) รายจ่าย 18,093,919 บาท ขาดทุน 2,873,292 บาท
บริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด
ปี 2567: รายได้ 660,090 บาท (ลดลง 45.3% จากปี 2566) รายจ่าย 891,955 บาท ขาดทุน 231,865 บาท
สรุปรายได้รวมปี 2567 จากทั้ง 2 บริษัท เท่ากับ 15,880,716 บาท และขาดทุนรวม 3,105,157 บาท (ข้อมูลจากงบการเงินที่นำส่งในปีล่าสุด)

ข้อสังเกตและความหมายทางธุรกิจ
การที่หมอบีเข้ามาถือหุ้นในบริษัทคัดเลือกนักแสดง แสดงให้เห็นการขยายบทบาทจากการเป็นบุคลิกบนโลกออนไลน์ไปสู่การลงทุนและการมีบทบาทเชิงธุรกิจในวงการบันเทิง
แม้ผลประกอบการในภาพรวมยังเป็นขาดทุน แต่การมีรายได้ที่ปรากฏและการเติบโตของรายได้บางปีอาจบ่งชี้ถึงศักยภาพในการปรับโมเดลธุรกิจได้ในอนาคต
การถือหุ้นร่วมกับอดีตไอดอลที่มีชื่อเสียง เช่น พัศชนันท์ (อดีต BNK48) อาจช่วยเพิ่มเครือข่ายและโอกาสทางการตลาดให้กับบริษัท หากบริหารจัดการและวางแผนการตลาดได้อย่างเหมาะสม
บทสรุป
ข้อมูลการถือหุ้นของ เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล (หมอบี) ใน บริษัท ยูเอ็นอีคิว จำกัด (UNEQ CO., LTD.) แสดงให้เห็นถึงการขยับขยายบทบาทจากการเป็นบุคลิกในโลกโซเชียลสู่การลงทุนในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกนักแสดงและวงการบันเทิง ร่วมกับอดีตไอดอล BNK48 ที่ถือหุ้นใหญ่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์การจับกุมเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 และข้อกล่าวหาที่ตามมาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาแยกส่วนระหว่างประเด็นทางคดีความกับประเด็นเชิงธุรกิจ — ทั้งสองด้านอาจมีผลต่อการบริหารและภาพลักษณ์ของธุรกิจในระยะต่อไป

หมายเหตุแหล่งข้อมูล
ข้อมูลข่าวสารเชิงคดีความอ้างอิงจากรายงานข่าวการจับกุมและเอกสารหมายจับที่สื่อมวลชนรายงาน ส่วนข้อมูลธุรกิจและงบการเงินอ้างอิงจากฐานข้อมูลทะเบียนนิติบุคคลและงบการเงินที่นำส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น Creden / ฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า) ซึ่งสรุปและเรียบเรียงเพื่อรายงานเชิงข่าว

หมายเหตุ: บทความนี้เรียบเรียงจากเอกสารทะเบียนบริษัทและรายงานข่าวที่เผยแพร่สาธารณะ เพื่อการรายงานข่าวและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือเอกสารทางการที่ออกมา ทีมข่าวจะติดตามและอัปเดตต่อไป