Home ท้องถิ่น คืบหน้าเหตุนักโทษหลบหนี จนท.ยังจับไม่ได้ คุมตัวเมีย-แม่ยาย สอบเข้ม

คืบหน้าเหตุนักโทษหลบหนี จนท.ยังจับไม่ได้ คุมตัวเมีย-แม่ยาย สอบเข้ม

20

ความคืบหน้าจากกรณีเกิดเหตุนักโทษชาย นายอนุชิต สุขสุด อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ได้หลบหนีระหว่างปฏิบัติงานกองนอกภายในร้านหับเผย ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในขณะเกิดเหตุยังสวมชุดนักโทษสีส้มของเรือนจำ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ เรมเบสต้า สีดำ ทะเบียน 4ขน 838 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบชุดนักโทษถูกถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ แต่ยังไม่ทราบเส้นทางหลบหนี

ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี และ พ.ต.ต.ธราธิป เพ็งขำ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ได้เชิญตัว น.ส.กี้ อายุ 28 ปี แฟนสาวของนายอนุชิต พร้อมมารดา เข้าสอบปากคำอย่างละเอียด โดยมีนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี และตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 1 ร่วมสอบสวน

น.ส.กี้ ให้การว่าได้เลิกรากับแฟนตนแล้ว หลังจากคบหากันนานกว่า 1 ปี โดยระหว่างคบกันตนไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันทุกวัน นายอนุชิต จะมาหาตนเป็นครั้งคราว โดยแฟนตนจะอาศัยอยู่กับแม่ที่ปทุมธานี ส่วนหลังจากเข้าเรือนจำไปได้ติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อราว 1 เดือน ก่อนโดยการเยี่ยมออนไลน์ และแฟนของตนเคยมีปัญหาทะเลาะกับแม่ตน เพราะฝ่ายชายไม่ทำงาน อีกทั้งวันที่ 26 ส.ค.นี้จะตรงกับวันเกิดลูกชายอายุครบ 1 ขวบ จึงไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่หลบหนีออกมาเกี่ยวข้องกับเรื่องครอบครัวหรือไม่

เบื้องต้นการสืบสวนของตำรวจ พบว่านายอนุชิต ติดต่อกลับมาหาพี่สาว โดยใช้เฟซบุ๊กของเพื่อนที่ผู้ต้องหาหนีไปกบดานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยติดต่อมาประมาณ 18.00 น. โดยบอกว่าว่ารู้สึกเครียด คิดถึงแม่ และครอบครัว ส่วนที่ไม่ติดต่อไปหาเมียเพราะกลัวเมียจะเดือดร้อน เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกเล็ก หลังจากนั้นทางพี่สาวจึงได้ติดต่อไปหาน้าสาวที่เป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำการต่อสายคุยกับนายอนุชิต โดยทำการเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นายอนุชิต บอกว่า กลับไปไม่ได้แล้วเพราะกลัวโดนดำเนินคดีเพิ่ม

ล่าสุด ทางนายอนุชิต อยู่ระหว่างหลบไปยังจังหวัดอ่างทองเพื่อไปหาย่า แต่ในระหว่างหลบหนีได้ถูกเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ตามตัว แต่นายอนุชิตได้ขี่ จยย.โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียนลงทุ่งนาทำให้รถของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขับตามไปได้ จึงทำให้นายอนุชิตหลบหนีการจับกุมไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวนายอนุชิตมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

ขณะเดียวกัน ได้รับข้อมูลจาก นายกอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ผู้เสียหาย เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกคนร้ายขโมยหลบหนี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุรถของตนได้จอดอยู่บริเวณด้านในร้านใกล้แผนกล้างจาน ขณะที่ตนกำลังควบคุมนักโทษคนอื่น ๆ ทำความสะอาดออฟฟิศที่ผนังที่มีน้ำรั่ว โดยกุญแจรถคาดว่าเผลอวางไว้บริเวณเบาะรถ จากนั้นนายอนุชิตซึ่งทำงานล้างจาน อยู่กองนอก ซึ่งไม่ใช่ที่กองที่ตนควบคุมดูแลที่กำลังซ่อมผนังอยู่ ได้ฉวยโอกาสหยิบกุญแจแล้วขับรถหนีไปต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ทั้งนักโทษและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว

นายกอ กล่าวอีกว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเหลืออีกเพียง 4 เดือนก็จะผ่อนหมด แต่กลับถูกขโมยไปพร้อมเอกสารสำคัญซึ่งเก็บไว้ใต้เบาะ รวมถึงน้ำมันเต็มถังที่เพื่อนเพิ่งเติมให้เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุ ตนจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ทั้งนี้ นายอนุชิตเพิ่งได้รับสิทธิ์ออกมาปฏิบัติงานกองนอกได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกำลังเร่งติดตามไล่ล่าตัวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักโทษรายนี้มีคดีอาญาหลายคดีติดตัวและถือเป็นบุคคลอันตราย