วันที่ 16 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุคนยิงกัน จนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้ง จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลธัญบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 89/186 ที่บริเวณ ประตูบ้านชั้นล่างพังได้รับความเสียหาย และชั้นสองพบว่ามีรอยกระสุนปืนยิงที่ประตูห้องนอนทะลุตู้เสื้อผ้าจำนวน 2 นัดตู้เย็นจำนวน 2 นัด นอกจากนี้ ยังพบว่าที่บริเวณบ้านเลขที่ 89/185 บนชั้นสองภายในห้องนอน พบผู้เสียชีวิตเป็นชายหนึ่งราย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบนที่นอน ทราบชื่อคือ นายสุรชัย อายุ 45 ปี มีรอยกระสุนปืนเข้าที่ขมับขวาออกขมับซ้าย นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนยี่ห้อกล๊อคขนาด 9 มม จำนวนหนึ่งกระบอกตกอยู่บริเวณหว่างขา
จากการสอบถาม นางสาวกรรณิกา อายุ 34 ปี เพื่อนบ้านบอกว่า ชายดังกล่าวมาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ บ้านตนเอง โดยวันนี้ก่อนเกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้เข้ามาพังบ้านของตนเอง โดยพังประตูด้านล่างเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองยังไม่หลับจึงได้ยินเสียงพังประตูเข้ามา บ้านของตนเองพักอาศัยอยู่ด้วยกันจำนวนสามคน โดยมีตนเองแฟน และลูกชาย หลังจากที่ได้ยินเสียงปืน และได้ยินเสียงคล้ายคนพังประตูบ้านด้านล่างเข้ามา ลูกชายจึงได้เปิดประตูอีกห้องหนึ่งเพื่อเข้ามาหาตนเองแล้วบอกว่าแม่มีอะไรเกิดขึ้น
ระหว่างนั้นตนเองก็รู้แล้วว่า คนร้ายได้เข้ามาภายในบ้านจึงได้เรียกลูกเข้ามาภายในห้องนอนแล้วให้แฟนดันตู้เย็นกับตู้เสื้อผ้ามาปิดกั้นประตูห้องนอนไว้ จากนั้น คนร้ายได้เดินขึ้นมาบริเวณชั้นสองแล้วยิงอาวุธปืนทะลุประตูเข้ามาจำนวน 4 นัด ตนเองจึงได้โทรหาป้าเจ้าของบ้านเช่า ที่ชายคนดังกล่าวเช่าอยู่ว่าให้ช่วยเหลือ เพราะว่าคนร้ายพังประตูเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ยิงใส่ ซึ่งคนที่บุกเข้ามายิงภายในบ้านตนเองนั้น เพิ่งมาเช่าบ้านอยู่ข้างข้างได้ไม่กี่วัน
โดยป้าบอกว่าคนดังกล่าวได้ลงมาจากบ้านและเดินขึ้นไปที่บ้านของเขาแล้ว ซึ่งลุงกับป้าเจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดแล้วทุกอย่างก็เงียบไปเลย ตนเองไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวได้เดินมาหาที่บ้าน พร้อมกับยกมือไหว้แล้วบอกกับตนเองว่า ผมขอโทษนะครับ ที่บ้านเสียงดังเดี๋ยวผมจะซื้อกระเช้ามาไหว้ ซึ่งเราก็ตกใจจึงได้บอกไปว่า ไม่มีไม่เป็นไรเพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีเสียงอะไรผิดปกติ
ทางด้าน นางทองตัน อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า คนที่ก่อเหตุเข้ามาเช่าบ้านตน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อนโดยบ้านหลังนี้ติดป้ายให้เช่าอยู่แล้วเค้าก็ติดต่อเข้ามา ซึ่งตอนที่เค้าเข้ามาเค้าก็เข้ามาคนเดียว โดยพฤติกรรมทั่วไปตอนที่เขาเข้ามา ก็ดูเป็นคนนิสัยดี แต่เค้าบอกกับตนเองว่า เค้าเครียดมากเลยป้า เค้าเลิกกับแฟน ผมต้องมาอยู่คนเดียวผมต้องทำใจให้ได้ผมต้องอยู่ให้ได้
หลังจากที่เขามาอยู่ตนเองก็จะคุยผ่านทางแอพพลิเคชั่น LINE เท่านั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งเค้าก็ LINE มาบอกว่าป้า ผมขึ้นไปนอนข้างบนผมเปิดทีวีผมเกรงใจข้างบ้าน ก็เลยบอกว่า ผมจะปรับตัวใหม่เพราะเดี๋ยวข้างบ้านเขารำคาญ ป้าก็เลยบอกไปว่า ไม่เป็นไร ถ้ารำคาญเขาก็ต้องมาบอกป้าเองให้ไปบอกหนูไม่เป็นไรเราก็บอกไปแบบนี้ พอมาวันนี้เค้าก็เดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านแล้วก็คุยเรื่องค่าใช้จ่ายค่าเช่าบ้านว่า จะมีการจ่ายก่อนเพราะว่าได้รับเงินมา ซึ่งตั้งแต่ที่เค้ามาอยู่ก็มีเพื่อนมาหาเค้าแค่คนเดียวโดยอุ้มเด็กน้อยมาด้วยมาพูดคุย
จนมาถึงวันนี้ตอนที่เค้าเอาปืนออกมายิง ป้าก็นอนหลับไปแล้ว จนข้างบ้านโทรมาเรียก ตนเองจึงได้ปลุกแฟนลงมาดู ก็พบว่าเค้ายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านเราก็พยามเรียกเค้าออกมา เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรครับป้า เค้าก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณบ้านข้างๆ ก่อนที่จะยิงที่ประตูแล้วก็ขึ้นไปบริเวณชั้นสอง ซึ่งตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ป้าก็ได้ตะโกนเตือนไปว่า อย่าไปยุ่งบ้านเขา
เค้าก็ตอบมาว่าไม่เป็นไรครับป้า เดี๋ยวผมจัดการเองเดี๋ยวผมยิงตัวตายแล้ว เดี๋ยวผมฆ่าตัวตายแล้ว พอเค้าเดินออกมา แฟนป้าก็ได้เดินไปจับแขนเค้า เค้าบอกว่า ลุงไม่ต้องยุ่งกับผม เดี๋ยวผมก็ฆ่าตัวตายแล้ว หลังจากที่เค้าเดินออกมาเค้าก็เดินขึ้นไปบนบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แล้วก็เงียบไปเลย ตนเองจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้ามาตรวจสอบ
ส่วนนายนที อายุ 29 ปี น้องชายเพื่อนบ้าน บอกว่า ตนเองทราบข่าวว่ามีเพื่อนบ้านมายิงปืนเข้าไปในบ้านของพี่สาวตนเองจึงมาดูเหตุการณ์ และได้ขึ้นไปบนบ้านของคนก่อเหตุซึ่งก็พบว่าคนก่อเหตุได้นอนแน่นิ่งอยู่ข้างเตียงนอนและมีเลือดไหล ประตูห้องก็เปิดอยู่ ไฟก็เปิดอยู่
ด้าน พ.ต.ท.ยศวัฒน์ ศรีลาพัฒน์ สารวัตรสอบสวนสภ.ธัญบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งเก็บรวบรวมปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนและอาวุธปืนที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุนำไปประกอบในสำนวนก่อนมอบศพให้อาสาสมัครฯ นำล่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง พร้อมจะได้ติดต่อญาติเพื่อมาทำการสอบสวนถึงสาเหตุในครั้งนี้และรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
