ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 13 ม.ค. 68 ร.ต.อ.กรวิทย์ มีดี พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถชนกันหลายคัน มีคนได้รับบาดเจ็บหลายรายที่ถนนสาย 340 กม.85-86 โค้งหน้าร้านจำลองสื่อสาร หมู่ที่ 2 ตำบลศรีประจันต์ อำเภอศรีประจันต์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยกู้ชีพ รพ.ศรีประจันต์ และ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้สีฟ้า หมายเลขทะเบียน นก 2713 เพชรบุรี พุ่งชนเสาประตูเหล็กหน้าร้านเมืองไทยแคปปิตอล ใกล้กันพบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 9545 สุพรรณบุรี จอดอยู่ริมถนนโดยมีรถกระบะ อีซูซุ แคป สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 ฒฎ 7615 กรุงเทพฯ หงายท้องล้อชี้ฟ้า ทับอยู่ด้านบน และยังมีรถเครื่องแห่ถูกชนพังเสียหาย ลำโพงกระจายเกลื่อนถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 หน่วยกู้ภัย และ หน่วยกู้ชีพ เร่งช่วยปฐมพยาบาลคนเจ็บเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลศรีประจันต์ ทราบชื่อ น.ส.นิสา เหมือนทิม อายุ 43 ปี ,นายดำรงศักดิ์ เหมือนทิม อายุ 21 ปี, นายอนุชา กริบกระโทก อายุ 38 ปี บ้านอยู่จังหวัดบุรีรัมย์, นายกุลภัสสร์ กันจาด อายุ 45 ปี บ้านอยู่จังหวัดชัยนาท มากับรถคันสีดำ และ น.ส.อรัญญา แถลงกิจ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านตัดผมได้รับบาดเจ็บแขน และขาหักอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้ส่งนายกุลภัสสร์ กันจาด อายุ 45 ปี และ น.ส.อรัญญา แถลงกิจ อายุ 33 ปี ไปรักษาต่อ รพ.เจ้าพระยายมราช
หลังเกิดเหตุ นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางกลับจากปฏิบัติราชการผ่านมาเจอเหตุการณ์ได้ให้คนขับรถจอดรถลงไปดูสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสอบถามอาการของคนเจ็บด้วยความเป็นห่วง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายกุลภัสสร์ กันจาด ซึ่งมีอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้ขับรถกระบะกลับจากงานเลี้ยงบวชนาคที่จังหวัดชัยนาท โดยมีภรรยา ลูกเลี้ยง และเพื่อนรวม 4 คนนั่งมาในรถเพื่อรีบกลับบ้านมาส่งภรรยาและลูกเลี้ยงที่ตัวเมืองสุพรรณบุรี แล้วจะรีบไปทำงานที่กรุงเทพก่อนถึงที่เกิดเหตุคนขับมีอาการง่วงนอนภรรยาที่นั่งมาในรถเห็นอาการได้สะกิดถามว่าไหวหรือเปล่าจากนั้นนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วได้เสียหลักพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ รถเครื่องแห่ที่จอดอยู่บนฟุตบาทก่อนจะไปร่าง น.ส.อรัญญา แถลงกิจ อายุ 33 ปี ที่ยืนรอส่งลูกไปโรงเรียน กระเด็นไปนอนแน่นิ่งอยู่หน้าร้านไฟแนนซ์ ก่อนจะชนรถกระบะและรถตู้ ที่จอดอยู่ริมถนนใกล้กันได้ทำให้มีทั้งคนเจ็บหลายรายและทรัพย์สินเสียหาย จำนวนมากดังกล่าว
ซึ่งทางพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีได้ประสานแพทย์โรงพยาบาลให้เจาะเลือดหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เพื่อประกอบสำนวนแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายกุลภัสสร์ กันจาด อายุ 45 ปีคนขับรถกระบะในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสอันตรายแก่กายและจิตใจทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่่ถ้าผลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนดก็ จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ทางด้าน นายมงคล สกุณี อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกัน ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเล่าก่อนเกิดเหตุขณะกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในบ้านได้ยินเสียงรถชนกันเลยวิ่งออกมาดูก็พบว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคันและมีคนจ็บหลายรายจึงแจ้งวิทยุขอกำลังสนับสนุน เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บได้เร็วขึ้น ที่เกิดเหตุเป็นรถกระบะ 3 รถตู้ 1 คันและรถแห่อีก 1 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย โดยมีหนึ่งรายเป็นเจ้าของร้านตัดผมที่เกิดเหตุกำลังยืนอยู่หน้าร้านเพื่อรอส่งลูกขึ้นรถไปโรงเรียนโชคร้ายถูกรถพุ่งเข้าชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทางด้านนางพิมประไพ แก้วเขียว อายุ 63 ปีเจ้าของรถตู้ที่ได้รับความเสียหายกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุ นั่งดูข่าวทีวีอยู่ในบ้านแต่วันนี้อากาศเย็น เลยเปิดร้านสายแต่ปกติจะเปิดร้านมากวาดทำความสะอาดหน้าบ้านตอน 7 โมงเช้าทุกวัน ได้ยินเสียงฟ๊าดดดังยาวก็คิดว่าต้องเกิดอุบัติเหตุจึงรีบออกมาดูพบว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ตรงนี้จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยเนื่องจากเป็นทางโค้ง ส่วนใหญ่ถ้าคนขับเมาหรือหลับในรถจะไม่เข้าโค้งถ้าไม่ใช่คนพื้นที่ก็จะไม่ค่อยรู้จึงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตนรู้สึกตกใจเพราะเห็นคนบาดเจ็บที่ยืนรอส่งลูกอยู่กระเด็นออกไป หน้าร้านไฟแนนซ์ วันนี้ถ้าอากาศไม่หนาวแบบนี้ตนต้องออกมากวาดฝุ่นตรงหน้าบ้าน อาจเจอแจ๊คพอทเข้าก็ได้
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด สุพรรณบุรี รายงาน
