เอ พศิน รับรู้สึกดีกับ เจนี่ นางเอกไดเร็กต์มาหา เผยความลับไม่มีใครรู้ เรื่องหลุดจากคนใกล้ตัว เคลียร์สนิทอั้ม เกินเลยมั้ย ลั่นพร้อมออกโหนกระแส เปิดความจริง

วันที่ 2 ธ.ค. 67 นักแสดงหนุ่ม เอ พศิน เรืองวุฒิ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ขณะมาร่วมงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ “The Seed คู่หูก้องโลก” ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เคลียร์ความสัมพันธ์นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ หลังมีข่าวโดนโยงเป็น เจ้าพ่อนาคาอกหัก นางเอกซุปตาร์สายมูฯ ล่าสุดหันไปคบพระเอกกล้ามปู ที่เริ่มเดินทางสายมูฯ ทำให้ชาวเน็ตต่างคอมเมนต์พุ่งเป้าไปถึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กับ เอ พศิน และ อั้ม อธิชาติ

โดย เอ เผยจุดเริ่มต้น เจนี่ ไดเร็กต์ข้อความมาหา ปรึกษาเรื่องสายมู บูชาพญานาค และมีแพลนทำโปรเจ็กต์ร่วมกัน ยอมรับรู้สึกดีกับนางเอกสาวมานาน แต่ไม่คิดจะจีบ เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม นับถือความเก่งใจเพชร กตัญญู แต่ข้างในอ่อนไหว ไม่ได้รับกอดจากแม่ ส่วนเรื่องที่ฝ่ายหญิงสนิท อั้ม อธิชาติ เกินเลยมั้ย ตัดสินไม่ได้

พอจะทราบใช่มั้ยว่าเรื่องราวมันโยงมาถึงเรา? “มันไม่ใช่ตัวย่อแล้วครับ มันไดเร็กต์เลย มดดำก็เลยไม่ย่อเพราะเกี่ยวกับเพื่อนเขา เกี่ยวกับเรา ซึ่งที่มาที่ไปผมขออนุญาตเล่า ว่าที่เพื่อนด้วยนะ เพราะยังไม่ได้เป็นเพื่อนกันเลย เพราะว่าโดนสกัดดาวรุ่งซะก่อน

สองท่านนี้ คุณอั้มกับคุณเจนี่ เขามีความศรัทธาในพญานาคมานานแล้ว อย่างเจนี่ผมก็ทราบจากลูกน้องเขาว่าเป็นคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่เต้าหู้ ไม่กินไข่ ไม่กินนม เขาก็เลยผอม แล้วทุกอย่างที่เขาทำเพื่อถวายปู่พญานาค เพราะเขาเคยรถคว่ำแล้วเขารอดเพราะว่าเขานึกถึงปู่ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ทำไมเขาถึงศรัทธามาก

ทีนี้ทำไมถึงรู้จัก 12 ปีก่อน เคยเล่นละครด้วยกันก็แค่นั้น เขาผ่านชีวิตมาอย่างหนักพอสมควร สิ่งที่เราเห็นเขาแสดงออกดูเฟียสๆ จริงๆ ข้างในเขาอ่อนไหวมาก เป็นคนที่แคร์ทุกอย่าง เขาอ่านทุกคอมเมนต์ เขาแคร์ทุกคนที่คอมเมนต์เขา เขาไม่อยากให้มีตัวเองในสื่อ ผมก็เลยบอกว่าในฐานะที่เป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ เราไม่มีไม่ได้ เราอยากจะล้างโซเชียลให้สะอาดเพื่อให้ลูกมาดูตอนโต โลกมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น อะไรที่มันเป็นความจริงให้ลูกรู้ตอนนี้ดีกว่า

ทัศนคติต่างๆ ที่เราแนะนำเขา มันส่งผลให้เขามีความกล้า ซึ่งผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีผล แค่บอกว่าให้ซื่อสัตย์ ให้ความยุติธรรมกับความดีของตัวเองบ้าง เวลาทำอะไรดีๆ ลงบ้าง ซึ่งเขาก็เริ่มทำโดยอาจจะไม่ใช่เพราะเรา

ที่รู้จักกันเพราะว่าเขาไปนั่งสมาธิ ตื่นตีสี่นั่งสมาธิสวดมนต์ทุกวัน ออกกำลังกาย แล้ววันหนึ่งเขาก็เห็นข่าวหลวงปู่ศิลา เขามีอะไรบางอย่างที่อยากจะรู้ ด้วยความที่เขาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เขาไม่สามารถมีภาพลักษณ์ของสายมูได้เลยเพราะว่ามันขัด เขาลงอะไรแบบนี้ไม่ได้ ก็ไดเร็กต์มาถามผม อันนี้จริงล้านเปอร์เซ็นต์ในไอจี บอกว่า “นี่เจนี่นะคะ” เราก็แบบเจนี่จะถามอะไรเรา เขาบอกมีเรื่องจะปรึกษานิดนึงเกี่ยวกับเรื่องศรัทธา เรื่องพญานาค ผมก็ดูว่าเราจะช่วยเขาได้มั้ย ก็สรุปว่าคุยกัน โทรคุยกัน

เขาไปเห็นคลิปที่หลวงปู่ศิลาบอกว่า ชาติหนึ่งผมเป็นลูกของพระแม่โสมา เป็นพญานาคขอม หลวงปู่ก็บอกบางอย่างกับเขา วันหนึ่งเขาต้องเล่าเอง ผมไม่เล่าว่าอดีตชาติเขาเป็นอะไร อย่างหมอลักษณ์ หลวงปู่ศิลาบอกว่าท่านก็เป็นพญานาคขอมเหมือนกัน ต้องไปที่ลาวเพื่อช่วยทำอะไรบางอย่างให้เจริญซึ่งหมอลักษณ์ทำแล้ว เจนี่ก็ทำแล้วเป็นการส่วนตัว ผมว่ามันเป็นกุศโลบายให้คนมีชื่อเสียงของไทยไปช่วยให้ตรงนั้นมันเจริญมากกว่า ถ้าตัดเรื่องสายมูไป

ก็รู้จักกันทุกวันที่คุยกันมันก็จะมีเรื่องของการสร้างเหรียญพญานาค 5 พระองค์ เขาสร้าง 911 ตามวันเกิดเขา ผมก็ขโมยมาองค์หนึ่ง มีนัมเบอร์ด้วย เพราะว่ามันเป็นที่ระลึก ซึ่งเขาบอกว่าห้ามเผยแพร่ อย่าเพิ่งเผยแพร่นะ และที่ติดต่อผมมาเนี่ย ก็เพื่อให้ทีมรายการตามรอยนาคราช ทางยูทูบไปเก็บภาพ แต่ห้ามออก แล้วไปแบบเงียบที่สุด ก็ไปบวงสรวงกันที่ธรรมสถานหลวงปู่ศิลา โดยที่ทีมอินฟลูฯ Social Warrior ทีมของเขาไปทั้งทีมเลย ทุกคนก็จะเห็นเขารำด้วยความศรัทธา ซึ่งตรงนี้บางคนไม่เคยเห็นก็จะงงว่าอะไร คือการบังคับหรือว่ากำลังของจิตข้างในตอบรับต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แล้วเขากลัวในการสื่อสารแบบนี้ เพราะว่าการที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำงานกับแบรนด์แฟชั่นต่างประเทศ มันดูย้อนแย้ง เขาเลยไม่ลง แต่เดือนนี้เราเห็นเขาเต็มๆ เลย เพราะว่าเขาตัดสินใจแล้วว่านี่คือความศรัทธา พอสร้างเหรียญเสร็จ มันก็หมดหน้าที่ผมไง

แต่ผมมีความลับอย่างหนึ่งที่ต้องบอกคือ การที่เราเห็นรายการตามรอยนาคราชถ่ายมา 300 ตอน ตลอด 3 ปี เขาก็อยากจะทำ พอเขามารายการ Social Warrior ของมะตูม เขาก็รู้สึกว่าในเมื่อเขาศรัทธาปู่แล้วชีวิตเขาทุกอย่างปู่เป็นคนให้ เขากตัญญูมากนะ เขาให้เงินทุกอย่างให้กับแม่หมดเลย ทำงานมาตลอด ชีวิตเขาเพิ่งเริ่มปีนี้เพื่อทำให้กับตัวเองโดยที่มีปู่เป็นกำลัง เด็กคนนี้กตัญญูแต่ว่าไม่เคยได้รับกอดจากแม่เลย อันนี้พนักงานเขาเล่าให้ฟัง

สิ่งที่เขาปรารถนาอย่างเดียวเลยคือ กอดจากแม่ แล้วแค่ถามว่าเหนื่อยมั้ย แค่นี้เอง ซึ่งผมต้องพูดเพราะว่าอดีตภรรยา คือแตงกวา ที่ตอนนี้เป็น LGBTQ ไปแล้ว ก็ยังอยู่ด้วยกัน เขาก็มีปัญหาเดียวกันคือ แม่ไม่แสดงความรัก แค่แม่เข้ามากอดแล้วบอกรักเขาแค่นี้ อาการซึมเศร้าเขาเหมือนจะหาย ดีขึ้น ซึ่งตรงนี้ผมว่าเวลาคนเราเก่งมากๆ จะไม่เรียกร้องไง แต่มันจะเป็นสิ่งเดียวที่เงินซื้อไม่ได้ เพราะฉะนั้นแม่ลูกต้องคุยกัน แม่ต้องรู้นะ อันนี้ผมไม่ได้รู้จักแม่เขานะครับ แต่แม่ทุกคนต้องรู้ว่าการแสดงความรักมันสำคัญ

มีคนเม้าธ์ว่าเราอกหักจาก เจนี่
ผมอกหักตลอดเลย แต่ผมไม่ได้อกหักจากเจนี่ เพราะผมไม่ได้คาดหวังความสัมพันธ์ ผมคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ในอนาคตอันยาวออกไป จะหนึ่งปีหรือสองปี เพราะว่าด้วยวิจารณญาณของผมการที่เขาออกมาบอกว่าสถานะครอบครัวเป็นยังไง แล้วก็ที่ทำมาเพื่อลูกเป็นยังไง เขาไม่เคยคิดที่จะออกมาพูดเลยนะครับ แต่ว่าพอมันมีจุดที่เขาต้องมายืนข้างหน้าเป็นผู้บริหาร อะไรที่มันแบกไว้ค้างคามันต้องหมดไปเพื่อจะนำคนอื่น เขาก็คงตัดสินใจเองว่าฉันลองปลดล็อกตรงนี้ดูมั้ย จะได้มีความสุขจะได้มีความสว่างจริงๆ แล้วตอนนี้รู้สึกเขามีความสุขนะครับ

สิ่งที่เราจะทำด้วยกันตอนนั้น หลังจากที่ทำเหรียญเสร็จแล้ว อยากทำรายการเกี่ยวกับความศรัทธา ที่เหมือนกับเอารายการตามรอยนาคราชเอาไปไว้ในช่องฟรีทีวี หาข้อเท็จจริงว่าเรื่องความมูแบบนี้มันถูกต้องมั้ย แบบไหนปลอดภัย พญานาคในยุโรปมีมั้ย เป็นเรื่องของการท่องเที่ยววัฒนธรรมด้วย แล้วก็มีการคุยว่าผมอาจจะเป็นเบื้องหลัง แต่เจนี่บอกว่าเจนี่ไม่เป็นเบื้องหน้าแน่นอน

เขาถนัดถ่ายภาพ เขาถ่ายภาพเก่งมาก แต่เขาจะเอา อั้ม อธิชาติ มาร่วมด้วย เขาบอกว่าพี่อั้มเนี่ยตัวพ่อเลยในการนั่งสมาธิ ทำบุญ ซึ่งผมก็โอเค ผมเคยร่วมงานกับอั้ม 2 เรื่อง เมื่อ 12 ปีก่อน รถเขารกมากเลยนะ เขาเป็นผู้ชายที่ดูเป็นอินโทรเวิร์ตแต่ว่ามีน้ำใจ ตอนนั้นผมไม่มีรถใช้ไง ถ่ายด้วยกันพอย้ายกองก็ติดรถไปด้วย ผมคิดว่ารถเขาต้องเนี้ยบ ทุกอย่างแบบว่าเหมือนเพื่อนสมัยผมเรียนศิลปกรรม รกมาก แล้วนี่คือมุมมองที่เรามองคนหนึ่งจากภายนอกไม่ได้

เขาเป็นคนที่เงียบๆ แต่จริงใจมาก เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนคนหนึ่ง ผู้ชายนะคบกับผู้หญิงมานานขนาดนี้ สมมติเป็นผมก้าวเข้ามาเพื่อที่จะทำอะไรด้วย เขาก็อาจจะเป็นห่วงไง กลัวจะโดนโกง ก็จะถามเจนี่ตลอดว่า พี่เอเป็นไง ทำอะไรอยู่ ทำรายการ ทำเหรียญ บางงานเขาก็มาด้วย ซึ่งตรงนี้มันเป็นความลับหรือเปล่า มันก็ไม่ใช่ความลับ แค่ไม่มีใครรู้ แต่รายการเป็นความลับเพราะว่ามันต้องเสนอช่องไง ถ้ามันหลุดไปอย่างที่เรารู้มันก็ไม่ฮอต

ที่เป็นข่าวหลุดออกมา คิดว่ามันหลุดได้ยังไง?
“ผมว่ามันหลุดจากคนใกล้ตัว เพราะว่าถ้ามันเป็นความลับระหว่าง 3 คนนะ แต่ผมไม่ได้รู้จักอั้มนะ ผมไม่ได้คุยกับอั้ม ทุกเรื่องจะมีเจนี่รู้ เลขารู้ แล้วก็น้องๆ ในบริษัทรู้หมด มันไม่ใช่แค่สองคน แต่น้องๆ ในบริษัทของผมเนี่ย ทีมตามรอยนาคราชไม่รู้ เพราะว่าผมสัญญาไว้ว่าจะไม่บอก เพราะมันเป็นเรื่องเซ้นสิทีฟ แต่ว่าการที่เขาไว้ใจใครมากๆ เขาก็จะบอกไง เพราะเหมือนกับว่าให้เป็นพยานว่าเราจะทำสิ่งนี้ร่วมกับคนนี้นะ ไว้ใจได้มั้ย ก็อาจจะปรึกษากันแล้วพอมันหลุดไป มันก็เหมือนกับว่าเคยเห็นเพื่อนหวงเพื่อนมั้ย ลูกน้องหวงนายห่วงนาย ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจนะ ผมไม่รู้ว่าข่าวมันหลุดมาในลักษณะไหน ชื่อรายการยังเขียนผิดเลย

สรุปแล้วความสัมพันธ์ระหว่าง พี่เอ กับ เจนี่ เราจีบเขามั้ย?
“ยังไม่พยายามครับ มันคือการทำงาน มันจีบไม่ได้ไง เพราะว่าเขาเพิ่งแถลงข่าวใช่มั้ย แล้วก็มันควรจะผ่านเวลาไปอีกประมาณปีหนึ่ง ผมถึงจะเริ่ม ซึ่งตอนนั้นผมอาจจะหมดพลังไปแล้วก็ได้ เพราะว่าเราเห็นธรรมชาติของความเป็นผู้นำของเขา เขากินไม่เหมือนเรา เขามีวินัย เขาเป็นแมนมากกว่าเราในเรื่องของการวางแผนชีวิต ซึ่งตรงนี้ผมว่าผู้ชายที่อยู่ด้วยได้ต้องแกร่งมากๆ ต้องรักมากๆ “

ตอนแรกเหมือนเรามีใจให้เขาแล้วใช่มั้ย ที่คิดว่าจะจีบ?
ไม่ได้คิดจะจีบ แต่ว่าการที่เราต้องทำงานกับเขา ผมนับถือในความอดทนของเขา ในการแสดงออกซึ่งมันตรงข้ามกับความเป็นตัวของตัวเองเขามาตลอดเลย ซึ่งผมก็บอกทำแบบนี้ทำไม อย่างวันนี้ก็ลงรูปดูเฟียสๆ ทั้งที่ข้างใน ผมรู้ว่าเขาอ่อนไหว เขาแคร์กับข่าวทุกข่าว แล้วเขากลัวผมจะพูดอะไรที่เขารู้สึกอ่อนไหว

พอมีข่าวนี้ออกมา ได้คุยกันเรื่องนี้มั้ย?
“ไม่คุยครับ ตัวผมเองก็เป็นอินโทรเวิร์ตเหมือนกัน ผมเป็นผู้ใหญ่ คือผมเองถึงจะเป็นนักแสดงสมทบแล้วก็มีเรื่องของอุปนายกสมาคมสื่อมวลชนออนไลน์ที่เพิ่งรับมาก็ทำงาน เราก็คือคนๆ หนึ่ง เป็นพี่ชาย เราก็มองเขาเป็นแค่นักแสดงรุ่นน้อง เราไม่ได้มองเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ เราไม่ได้มองเขาที่ความสำเร็จ เพราะฉะนั้นความห่วงใยมันก็คือพี่ชาย

ระยะเวลาที่รู้จักกันกับเจนี่นานมั้ย?
“อุ้ย 3 เดือนเองครับ มันเป็นโปรเจ็กต์ของการทำเหรียญ แต่ว่าจะก้าวไปเพื่อทำรายการ ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่าเมื่อมันออกมาในรูปแบบนี้แล้วคนที่เขาห่วงใยอาจจะทำให้เกิดข่าวขึ้นมา สมมติว่ารายการนี้มีเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นในทีมนี้ เขาทาบทามตากล้องของรายการผมด้วยนะ ผมก็จะขออนุญาตไม่ร่วมด้วย เพราะไม่งั้นมันจะกลายเป็นว่าอย่างวันหนึ่ง ผม เจนี่ อั้ม มานั่งแถลงข่าว ก็จะกลายเป็นเราใช้สื่อเพื่อทำเป็นไวรัลให้คนสนใจ ด้วยความที่ผมเป็นสื่อมวลชนเหมือนกัน เป็นผู้สื่อข่าวก็ต้องรับผิดชอบด้วยการไม่ร่วมดีกว่า

ทำไมข่าวมันออกมาในลักษณะว่า พี่เออกหัก แล้วเขาไปคบกับ อั้ม อธิชาติ
เรื่องอั้มนี่ผมไม่รู้ เพราะว่าเวลาเราสนิท เคยมีเพื่อนสนิทที่เราเล่นหัวกันมั้ย ผู้ชายกับผู้หญิงเคยเห็นมั้ย เขาก็อาจจะสนิทกันมากจริงๆ ถึงขนาดที่ข้าม เดี๋ยวนี้เพศสภาพมันข้ามไปแล้วใช่มั้ย LGBTQ มันข้ามไปแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องของความสัมพันธ์ ความห่วงใย บางทีเรามองแล้วเรารู้สึกว่า มันมีอะไรเกินเลยหรือเปล่า เพราะว่าเราไม่ใช่เขา มันตัดสินไม่ได้

จริงๆเคยรู้สึกกับเจนี่ไหม?
“ผมรู้สึกดีกับเขาตั้งแต่ผมเล่นละครกับเขาเมื่อ 12 ปีก่อน เพราะผมเป็นนักแสดงสมทบและทุกวันนี้ก็รู้สึกดีและนับถือมันเป็นความนับถือที่ทำไมผู้หญิงคนนึงเก่งขนาดนี้แต่โลกไม่รู้เลย วันนี้ผมมาบอกว่าเขามีคุณค่า เขากตัญญูเขารักลูกเขาทำทุกอย่างที่พ่อแม่ทำได้ด้วยตัวของตัวเองโดยที่ไม่บอกใครมาตลอด 6 ปีมันทำได้ยังไง ใช่ไหม ผมมีหน้าที่แค่นี้แหละ (ยิ้ม)”

ที่ผ่านมาไม่ได้มีความรู้สึกเกินเลยไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง?
“ความรู้สึกเกินเลยมันต้อง 2 คนป่ะ ผู้ชายอ่ะผมบอกเลยว่าสันดานผู้ชายมันพร้อมจะเกินเลยถ้าเขามีการตอบรับใช่ไหม แต่นี่ไม่มี เขาเห็นเราเป็นพี่ชายเรา ก็ให้เกียรติกัน คำว่าให้เกียรติกันเนี่ยมันสำคัญมากนะครับในเรื่องความสัมพันธ์ทุกความสัมพันธ์มันต้องมีการให้เกียรติกัน แล้วมันจะดี“

เราพูดเหมือนมีใจเราปลื้มเขาแต่พอเขาปฏิเสธเราเราก็โอเค?
”เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลาอย่างที่เข้าใจว่ามันต้องใช้เวลาเพราะหนึ่งเรามีลูกเหมือนกัน มันแปลกตรงที่วันที่ไปคุยงานผมเอาลูกชายไปด้วยแล้วโนล่าเขาจะมีโลกส่วนตัวสูงหวงแม่ ถ้ามีใครมาเขาจะห่วงแม่มากแต่เจอเลโก้เขาเล่นกันเป็นลิงเลยเหมือนบ้านจะพังอ่ะแล้วตรงนั้นก็จะมีทีมงานของผมนั่งอยู่ด้วย ก็รู้สึกว่าธรรมชาติของเด็กที่มันคล้ายกันเข้ากันได้เราเลยคุยงานกันได้สบายเท่านั้นเอง“

ตอนนี้ยังสนิทกันไหม?
”ไม่เคยสนิทเลย (ยิ้ม) เขาเป็นคนระวังตัวมากเลยฮะแม้แต่ไลน์เขาก็ไม่ใช้รูปแล้วก็มีการเปลี่ยนชื่อ ผมว่าเขาน่าจะเจออะไรที่พยายามจะเคลมที่ผมบอกว่าถ้าคุยกันหรือเป็นเพื่อนกันเพื่อทำงานเพราะผมยึดเขาเป็นต้นแบบในการประสบความสำเร็จเหมือนกัน เขาแนะนำให้ผมนั่งสมาธิ เพราะว่าเราไปที่อันตรายเยอะๆ เรื่องพลังงานบางทีก็โดนของแต่ไม่รู้ตัวหลวงปู่ศิลาก็ออกให้ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องของอีกมิติหนึ่งที่เขาเก่งกว่าผม“

ถ้าเกิดเจนี่เปิดใจเราอยากจะจีบไหม?
”ผมเชื่อว่าไม่เปิดหรอก ผู้หญิงคนนี้ใจเหมือนเพชร ถ้าสมมติว่าอย่างวันนี้สื่อมาแตะต้องเรื่องราวนี้ผมก็ต้องออกไปจากวงจรชีวิตของเขาเพื่อความสงบเพราะว่าอย่างน้อยลูกจะได้ไม่งง อย่างถ้าลูกเขามาฟังวันนี้ก็จะรู้ว่าแม่รักลูกแค่ไหน“

จะถอยไหม?
”ผมถอยมาแล้วครับอยู่ที่เดิม ส่วนอนาคตโอกาสร่วมงานผมไม่ติดเจอกันได้แต่ก็น่าจะเจอกันยากนะแต่ผมมีข้อสงสัยนิดหนึ่งถ้าการที่ข่าวออกมาแบบนี้มันเป็นเรื่องของการโปรโมทบางอย่างเราใช้ผมเป็นเครื่องมือนะผมขอเชิญไปโหนกระแสผมไม่ยอมเหมือนกันเพราะว่า การที่เอาชีวิตคนคนหนึ่งมาเพื่อโปรโมทอะไรบางอย่าง ที่บางคนต้องทำร่วมกันเนี่ย มันไม่โอเค เราไม่รู้เบื้องหลัง“

มันมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีอะไรเบื้องหลังหรือเปล่า?
”ทุกอย่างมีเบื้องหลังหมดแหละ แต่ผมเชื่อว่าสื่อที่เอาลงเขามีความรู้สึกว่าอยากจะให้มันเคลียร์ เพราะว่าข่าวแบบนี้มันดูรุนแรงและไม่เป็นธรรมกับเขาเลย แล้วผมก็เห็นความเป็นตัวตนของทั้งสองคนมันน่ารักไงผมก็เลยต้องออกมาพูดไม่งั้นผมคงไม่ต้องสนใจก็ได้“

ที่บอกว่าถอยออกมาแล้วก่อนหน้านี้เดินหน้าจีบเขาหรือเปล่า?
”ไม่ได้จีบ (แล้วที่บอกว่าถอยออกมาคือยังไง?) คือ ส่วนใหญ่เราจะคุยเรื่องลูก กิจกรรมที่เป็นที่สว่างมันก็น่าจะไม่ต้องมีแล้ว เพราะว่ามันจะทำให้คนเข้าใจผิด“

กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มองว่ามีการใช้แล้วเป็นเครื่องมือ?
”ไม่ครับ ผมว่าจุดยืนของเราต่างกันคือผมอยู่กับความจริงกับความเปลี่ยนแปลงแต่คนๆ นึงที่เขามีความสมบูรณ์เพอร์เฟ็กต์ในเรื่องของวิถีชีวิตมาตลอด แล้วภาพที่ออกมามันต้องสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะทำงานต่างประเทศได้ เขาไม่สามารถแสดงออกทางความคิดทางอารมณ์ได้อย่างเราๆ

เขาไม่สามารถกินแบบเราได้เขาไม่สามารถคิดหรือทำแบบเราได้ ซึ่งมันไม่ใช่ผิดนะ มันคือมาตรฐานของเขา ทำให้เขายังเป็นเขาอยู่ซึ่งตรงนี้ถ้าสมมติว่าเราไปเข้าไปแทรกแซง นิสัยผมเสียตรงที่ชอบเปลี่ยนคน ถ้าสมมุติว่าเขาไม่เหมือนเราเราอยากให้เขาลองมาเป็นแบบเราดูสิ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เขามีคุณค่าเพราะเขาเป็นเขามากกว่าแต่ที่เรานับถือเขาเพราะเขามีความไม่สมบูรณ์แบบหลายอย่างที่คล้ายเราเท่านั้นเองครับ“.