Home ข่าว สุขภาพ สุดงง ครูยึดเสื้อหนาวนร. ท่ามกลางอากาศ 10 องศา ล่าสุด ผอ.แจงสาเหตุ โซเชียลจวกหนัก!

สุดงง ครูยึดเสื้อหนาวนร. ท่ามกลางอากาศ 10 องศา ล่าสุด ผอ.แจงสาเหตุ โซเชียลจวกหนัก!

58

ดรามาโรงเรียนดังแพร่ ครูยึดเสื้อกันหนาวนร. ต้องทนหนาวท่ามกลางอากาศ 10 องศา สส.รุดเคลียร์ ล่าสุดผอ.แจงสาเหตุแล้ว

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยเรื่องของนักเรียนหญิง ม.6 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดแพร่ ถูกครูฝ่ายปกครองยึดเสื้อกันหนาวสีครีม เนื่องจากถือว่า “ผิดระเบียบ” แม้อากาศในวันดังกล่าวจะหนาวจัดอยู่ที่ประมาณ 10 องศา ทำให้เด็กต้องเรียนทั้งวันในชุดนักเรียนเพียงตัวเดียวจนหนาวสั่น ขณะเดียวกันครอบครัวของเด็กยังมีฐานะยากจน ทำให้เรื่องนี้ถูกตั้งคำถามถึงความยืดหยุ่นของกฎ และความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลัก

ญาติของเด็กให้ข้อมูลว่า เด็กหวาดกลัวและร้องไห้ หลังต้องยืนหน้าเสาธงและเรียนทั้งวันในอุณหภูมิต่ำ มือเย็น ตัวสั่น แต่ไม่กล้าขอเสื้อคืน จนเรียนจบวันแล้วถึงได้เสื้อคืน พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดกฎระเบียบจึงเข้มงวดถึงขั้นไม่สนว่าอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของนักเรียน ซึ่งนักเรียนรายดังกล่าวไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงถูกยึด แม้บางคนในแถวจะสวมเสื้อสีอื่นเช่นกัน

ต่อมา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้สั่งการให้ นางพรรณี แสงสันต์ เลขานุการ พร้อมทีมงานลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง พบว่าเด็กมีเสื้อกันหนาวของโรงเรียนเพียงหนึ่งตัว แต่ซักแล้วไม่แห้ง เนื่องจากเปื้อนก๋วยเตี๋ยว จึงยืมเสื้อจากเพื่อนในหอพักเพื่อกันหนาว ก่อนถูกยึดต่อหน้านักเรียนคนอื่น

ผู้บริหารโรงเรียนระบุว่า ได้รับรายงานในช่วงเที่ยงวันนั้น และได้เชิญทั้งนักเรียนและครูที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย พร้อมออกแถลงการณ์ขอโทษ ยืนยันจะปรับกฎแต่งกายให้ยืดหยุ่นมากขึ้นในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและสุขภาพเด็ก รวมถึงเตรียมทบทวนแนวปฏิบัติร่วมกับครูทั้งหมดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำอีก โดยี่โรงเรียนต้องมีกฎใส่เสื้อกันหนาวของโรงเรียนก็เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ที่อาจแข่งกันจนนำสู่ความฟุ่มเฟือยได้

ด้านครูฝ่ายปกครองชี้แจงว่า การยึดเสื้อเป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน เพราะเสื้อดังกล่าวผิดกฎ แต่หากนักเรียนแจ้งเหตุผลหรือขออนุญาตล่วงหน้า สามารถผ่อนปรนได้

หลังการพูดคุย ข้อขัดแย้งเริ่มคลี่คลาย โรงเรียนรับปากว่าจะดูแลนักเรียนให้จบการศึกษาอย่างราบรื่น ไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออนาคต ขณะเดียวกัน สส.วรวัจน์ เตรียมนำข้อมูลทั้งหมดเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณานโยบายแต่งกายที่เหมาะสมต่อสภาพจริง และไม่กระทบต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของนักเรียนในอนาคต

ประเด็นนี้ยังคงสร้างคำถามในสังคมว่า กฎระเบียบทางการศึกษา ควรเข้มงวดในระดับใด เพื่อไม่ให้ความปลอดภัยของเด็กถูกละเลยเพียงเพราะสีของเสื้อที่ไม่ตรงระเบียบ