วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 กระแสในโลกออนไลน์ยังคงจับตาปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ภายในเรือนจำ หลังมีข้อมูลเผยว่าผู้ต้องขังที่มีฐานะดีจะถูกเรียกว่า สมเด็จ และได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังทั่วไป ทั้งด้านอำนาจ บารมี รวมถึงการเข้าถึงของต้องห้ามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ บุหรี่ หรือยาเสพติด หากมีเงินมากพอ
มีรายงานจากช่องดัง ระบุคำให้การของอดีตผู้ต้องขังรายหนึ่ง ซึ่งออกมายืนยันว่าเคยพบกับ นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ ผู้ต้องขังคดีดิไอคอน และยืนยันว่าบอสกันต์อยู่ในระดับสมเด็จ เนื่องจากฐานะมั่งคั่งและเป็นบุคคลมีชื่อเสียง จึงมีผู้ต้องขังจำนวนมากเข้าหาเพื่อเสริมบารมีและหวังผลประโยชน์
อดีตผู้ต้องขังรายเดิมเล่าว่า ผู้ต้องขังที่ถูกจัดอยู่ในระดับสมเด็จสามารถเดินเข้าออกห้องเจ้าหน้าที่ภายในแดน 1 ได้อย่างสะดวก มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ทั้งจัดหาอาหารและเตรียมที่นอนให้ อีกทั้งยังมีผู้ต้องขังคอยติดตาม ดูแล และอารักขาโดยไม่ต้องร้องขอ เพราะทุกคนเข้าใจดีว่าผู้มีเงินสามารถทำให้การใช้ชีวิตในเรือนจำสบายกว่าคนอื่น
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องขังระดับสมเด็จแทบไม่มีใครกล้าก้าวก่าย เพราะ มีเงินทุกอย่างก็จบ หากต้องการสิ่งใดก็มักจะได้รับการสนองตอบจากผู้มีหน้าที่ในเรือนจำ ซึ่งสะท้อนถึงระบบผลประโยชน์ที่ฝังลึกภายใน
ด้าน นายยุทธนา รองอธิบดีราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 วัน จะมีการปรับคำสั่งเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ราว 20 คน ที่ถูกตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์และรับผลประโยชน์จากผู้ต้องขัง โดยการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นการปรับย้ายภายใน พักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ถูกตรวจสอบครอบคลุมตั้งแต่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปจนถึงระดับปฏิบัติการ
